ประหนึ่งว่า สงครามอันปะทุขึ้นในสังคมประเทศไทยขณะนี้เป็นสง ครามกับไวรัส เป็นสงครามเชื้อโรค

เป็นเช่นนั้น

แต่ภายในกระบวนการสัประยุทธ์ก็มิได้เป็นเรื่องในทางวิทยา ศาสตร์อย่างด้านเดียว ตรงกันข้าม ภายในกระบวนการสัประยุทธ์ยังสะท้อนเรื่องในทาง “ความคิด” อย่างเด่นชัด

เป็นความคิดในเรื่องของการต่อสู้และสะท้อนวิธีการ กระบวนการที่แตกต่างกัน

เป็นความคิดในแบบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งแตก ต่างเป็นอย่างมากกับความคิดในแบบของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างมิอาจปิดบังอำพรางได้

รากฐาน”ความคิด”จึงนำไปสู่การปฏิบัติทาง”การเมือง”

 

ผลึกแห่งความคิดที่ดำรงอยู่ภายในพระราชกำหนดการบริหารราช การในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงได้รับการแปรไปสู่รูปธรรมทางการปฏิบัติโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ที่มองกันว่า บทบาทของ”ปลัดกระทรวง”มีเหนือกว่าบทบาทของ “รัฐมนตรี”นั้นเป็นความจริง

นี่แทบมิได้เป็นเรื่องแปลกหากมองจาก”นายกรัฐมนตรี”

เพราะนายกรัฐมนตรีเติบใหญ่มาจากการเป็นทหาร ผ่านพบประสบการณ์ทางการเมืองจากรัฐประหาร 2500 มายังรัฐประหาร 2501 หรือแม้กระทั่งรัฐประหาร 2514

รับราชการทหารภายหลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 สูดดมความเป็นข้าราชการประจำกระทั่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก

จึงไม่แปลกที่จะสอดสวมเข้าไปในระบบ ระบอบได้อย่างดี

 

นี่ย่อมตรงกันข้ามกับรากฐานและการเติบใหญ่ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เกิดในครอบครัวของพ่อค้า นักธุรกิจ รับการศึกษาในมหาวิทยาลัย

แม้จะเคยเป็น”นักเคลื่อนไหว”อยู่ระยะหนึ่งแต่ต่อมาก็รับช่วงการบริหารธุรกิจของครอบครัว

มุมมองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงแตกต่างกับมุมมองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งในเรื่องที่จะต้องทำสงครามกับไวรัส

เพราะ 1 อยู่กับโลกสมัยใหม่ เพราะ 1 อยู่กับรัฐราชการรวมศูนย์เข้มข้น

2 คนนี้จึงต่อสู้กันแม้ในความร้อนแรงของ”ไวรัส”