ไม่เพียงแต่ “พิษเศรษฐกิจ” จะนำไปสู่ “อุปทานหมู่” ให้เกิดความเชื่อและนำไปสู่ “การฆ่าตัวตาย” อย่างที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกมาแสดงข้อกังวล ห่วงใยเท่านั้น

หากยึดถือ “บรรทัดฐาน” เดียวกันกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาร ณสุขสรุปอย่างรวบรัด

คำทำนายของ”โหร”ก็น่าวิตกเป็นอย่างสูง

ไม่ว่าจะมาจากโหรบุศรินทร์ ปัทมาคม ไม่ว่าจะมาจากโหรโสรัจจะ นวลอยู่ ไม่ว่าจะมาจากโหรฟองสนาน จามรจันทร์ หรือแม้กระทั่ง”ซินแสเข่ง”

ก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน

ทิศทางที่ว่าปี 2563 เป็นปีแห่งความทุกข์ตรมในทางเศรษฐกิจ เป็นปีแห่งความวุ่นวายในทางการเมือง

แล้วก็ลงเอยด้วยชะตากรรมที่หนักหนา สาหัสของ “รัฐบาล”

 

 

เมื่อเอ่ยถึง FLASH MOB ผู้คนมักมองไปยังการชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา

หรือไม่ก็รอดู”วิ่งไล่ลุง”ในวันที่ 12 มกราคม

หารู้ไม่ว่าหลังการชุมนุมอย่างฉับพลันที่สกายวอล์ก ปทุมวัน แล้วได้เกิดปรากฏการณ์ FLASH MOB ตามมาอย่างไม่ขาดสาย

เพียงแต่ไม่ได้ไป”ชุมนุม”เท่านั้นเอง

แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ การเคลื่อนไหวของ นายวีระ สมความคิด ในกรณีรุกไล่และติดตามการยึดครองที่ดินกว่า 1,700 ไร่ของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

ก็เข้าลักษณะของ FLASH MOB โดยอัตโนมัติ

และล่าสุดก็ออกมาโยนระเบิดในเรื่อง 6 ผบ.เหล่าทัพไม่ควรดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว.ก็ร้อนแรงยิ่งกว่าสถานการณ์ที่สกายวอล์กด้วยซ้ำ

แท้จริงแล้ว FLASH MOB เกิดได้เสมอ เกิดได้ตลอดเวลา

 

ความน่าสนใจก็คือ ไม่ว่าการเคลือนไหวของโหร ไม่ว่าการออกโรงของ นาย ชวน หลีกภัย ไม่ว่าการออกมาเปิดประเด็นซื้อขายที่ดินแขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.

ปลายทางล้วนพุ่งเข้าใส่รัฐบาล พุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นรัฐบาลต่างหากที่ดำรงอยู่ในลักษณะตั้งรับ เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างหากที่ดำรงอยู่ในลักษณะตั้งรับ

และฝ่ายที่พุ่งปลายหอกเข้าใส่มิได้มาจากพรรคอนาคตใหม่ มิได้มาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้น

ทุกคน ทุกฝ่าย ล้วนอยู่ใน FLASH MOB ทั้งสิ้น

ปรากฏการณ์ FLASH MOB จึงดำเนินไปในลักษณะการสะสมเชิงปริมาณและค่อยพัฒนาไปสู่คุณภาพใหม่ในทางการเมือง

ท่ามกลางเสียงตะโกน”ออกไป ออกไป”ดังกึกก้อง