เผยแพร่ |
---|
นับแต่เลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นมา บทบาทของ ส.ส.บทบาทของสภาผู้แทนราษฎร มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
ยิ่งถ้านำไปเปรียบเทียบ ไม่ว่ากับบทบาทของ สนช.ในอดีต ไม่ว่าบทบาทของ ส.ว.ในปัจจุบัน
ยิ่งสร้างจุดต่างในเชิง”คุณภาพ”
คุณภาพในที่นี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เห็นการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนของปวงชนระหว่าง “ผู้แทน”ที่มาจากการเลือกตั้ง กับที่มาจากการแต่งตั้ง
หากภายในการเคลื่อนไหวของ ส.ส.ก็ทำให้ไส้ในอันดำรงอยู่ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ถูกกระชาก ลากออกมาล่อนจ้อน
ความชอบธรรมในการแก้”รัฐธรรมนูญ”จึงชัดเจน
มติของ 7 พรรคฝ่ายค้านในการเดินหน้าเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยจึงเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่นับวันจะได้รับความเห็นด้วยทางสังคมมากยิ่งขึ้น
กระนั้น ยุทธศาสตร์จะประสบความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับยุทธวิธี ในแต่ละจังหวะก้าวมีความเหมาะสม ถูกต้อง
ยุทธวิธีสำคัญหนึ่งคือการเคลื่อนไหว 2 ประสาน
ก้าวหนึ่งอันเป็นก้าวสำคัญ คือการเคลื่อนไหวในท่ามกลางประชาชน ปลูกฝังความคิดรวบยอดให้ตระหนักถึงความเลวร้ายของรัฐธรรมนูญและความจำเป็นต้องมีการแก้ไข
ตัวอย่างที่แจ่มชัดที่สุด คือ ตัวอย่างจากปัญหาและวิกฤตระลอกแล้วระลอกเล่า
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”ถวายสัตย์” ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”ไพบูลย์”
เมื่อใดที่ก้าวในภาคประชาชนเติบใหญ่ขยายตัวจึงอาศัยกำลังของประชาชนเข้าไปหนุนเสริมและผลักดันก้าวที่ 2 นั่นก็คือ การใช้เวทีรัฐสภามาเป็นเครื่องมือ
บีบรัฐบาล บีบรัฐสภาให้เดินไปในแนวทางเดียวกัน
ยิ่งการเคลื่อนไหวในสังคมขยายกรอบและขอบเขตออกไปกว้างมากเพียงใด การแยกจำแนกบทสรุปจะยิ่งเด่น ใครต้องการแก้ไข ใครขัดขวางมิให้บังเกิด
อาศัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วน มาเป็นอาวุธ
ทะลวงเข้าไปภายในรัฐบาล ทะลวงเข้ายังพรรคร่วมรัฐบาล
ถามถึงจิตสำนึก ถามถึงจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย