ภายหลังการประกาศรับรอง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่าง เป็นทางการจากกกต.

1 ภาพของรัฐบาล”ใหม่”เริ่มมีความแจ่มชัด

ในความแจ่มชัดนั้น 1 เราสัมผัสได้ถึงการตัดสินใจของแต่ละ พรรคการเมือง

ความแจ่มชัดทางการเมืองจึงดำเนินไป 2 ด้าน

เป็นด้านที่จะไปแวดล้อมและให้การรับรองต่อการสืบทอดอำ นาจของคสช.ผ่านการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็นด้านที่อยู่ตรงกันข้าม เป็นด้านที่ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจของคสช.

นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ นี่คือการเมืองใหม่

 

คำว่าการเมืองใหม่ ปรากฏการณ์ใหม่ ในที่นี้มิได้เปรียบเทียบกับ การเมืองในยามปกติ ตรงกันข้าม เปรียบเทียบกับการเมืองในห้วง แห่งเดือนพฤษภาคม 2557 กับเดือนพฤษภาคม 2562

เปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดือนพฤษ ภาคม 2562

กับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

แม้จะยังมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มี นายวิษณุ เครืองาม มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี

แต่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

เพราะบรรดา”แม่น้ำ 5 สาย”ก็ถูกเขย่าและหลอมรวมออกมาอยู่นามของ “250 ส.ว.”

ขณะเดียวกัน หากพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมก็มีรัฐมนตรีชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หากพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมก็มีรัฐมนตรีชื่อ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมก็มี รัฐมนตรีชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์

ที่สำคัญเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มี “มาตรา 44” ในมือ

 

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังมีขบวนแถวของ “ฝ่ายค้าน”ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชา ชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ

ยุคแห่งการ “กินรวบ” ในแบบ”คสช.”ได้ยุติไปแล้ว

แม้ยังไม่สามารถยุติลงได้อย่างสิ้นเชิง แต่โดยพื้นฐานแล้วบทบาทของ”คสช.”ก็จะค่อยหมดไป

นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา