ปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน”ที่เริ่มจากปากคลองตลาดไปยังสา ทร เจริญกรุง เหมือนกับเป็นการประกาศเจตจำนงของพรรครวม พลังประชาชาติไทยว่าต้องการอะไร

1 ต้องการฟื้นอดีตอันรุ่งโรจน เพื่อปลุกกระแส”มวลมหาประ ชาชน” อย่างแน่นอน

และ 1 เพื่อเปิด”พื้นที่”ทางการเมืองใน “กทม.”

ด้วยความหวังว่าพลังอัน “มวลมหาประชาชน” เคยสำแดงออกก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะแปรเป็นดอกผลให้กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย

นี่ย่อมเป็นความพยายามของ”พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”เคยทำมาแล้วผ่าน “พรรคการเมืองใหม่”

ถามว่าแล้วผลตอบกลับเป็นอย่างไร

 

พรรคการเมืองใหม่ คือ ความพยายามขยายดอกผลจากความสำ เร็จในการเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

โดยในเบื้องต้นจัดวาง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค

แต่ก็มีอันเป็นไปกลายเป็น นายสมศักดิ์ โกศัยสุข

โดยตลอดเวลาคนที่ยืนพื้นอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค คือ นายสุริยะใส กตะศิลา

ณ วันนี้ นายสุริยะใส กตะศิลา อยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทย และมีบทบาทในปฏิบัติการ”เดินคารวระแผ่นดิน”เรียงเคียงกับเงาร่างของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ชะตากรรมของพรรคการเมืองใหม่เป็นอย่างไร  นายสุริยะใส กตะศิลา ก็พอจะมองชะตากรรมของพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้ทะลุปรุโปร่ง

ผ่านปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่นดิน”

 

ไม่ว่าการกระทำของ”พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ไม่ว่าการกระทำของ”กปปส.”ล้วนมีคำถามและตามมาด้วยคำตอบ

คำตอบจาก”พรรคการเมืองใหม่”เด่นชัดแล้ว

ขณะที่คำตอบจาก”พรรครวมพลังประชาชาติไทย”อาจจะยังไม่แจ่มชัด อาจจะยังมีความมุ่งหวังบางอย่างทอทอดผ่านดวงตาไม่ว่าจะเดินที่ปากคลองตลาด ไม่ว่าจะเดินที่ประตูน้ำ

แต่ที่แน่นอนก็คือ คำตอบสุดท้ายย่อมเป็นการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562