เวทีเสวนา “อนาคตประชาธิปไตยไทย ข้ามพ้นกับดัก ความหวัง” ที่ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

เป็นเวทีอันงดงาม จุดประกาย”ความหวัง”

เมื่อนำเอา 4 คนสำคัญจากพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชนปฏิรูป มาอยู่บนเวทีเดียวกัน

เปิดใจ “เสวนา” ในประเด็น “การเมือง”

ผลก็คือ ความเห็น “ต่าง” ได้รับการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา และอยู่ในความสนใจของผู้ฟังทั้งที่อยู่ในห้องประชุมและที่ติดตามผ่านการถ่ายทอดสด

นี่คือสิ่งที่”สังคมประชาธิปไตย”เรียกร้อง ต้องการ

 

จุดเด่นจากเวทีเสวนาครั้งนี้หลายคนอาจให้ความสนใจไปยังประ เด็นเกี่ยวกับ “รัฐธรรมนูญ” และ “ยุทธศาสตร์ชาติ”

แต่ที่ทางความหมายเป็นอย่างมาก คือ จุดแย่งทางความคิด

น่ายินดีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน แห่งพรรคประชาชนปฏิรูป สะท้อนความมั่นใจให้คสช.บริหารประเทศต่ออีก 5 ปี

จะทำให้ประเทศเป็นนิติรัฐ กฎหมายเป็นกฎหมาย

แน่นอน ความมั่นใจนี้มิได้เป็นของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เพียงผู้เดียว หากแต่ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “ตัวแทน”ในทางความคิด

นั่นก็คือ ความคิดของคนที่ปูทางและสร้างเงื่อนไขให้คสช.ได้ทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

จึงให้ความศรัทธาต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เป็นอย่างสูง

หากไม่มีเวทีเสวนานี้เราคงไม่ได้รับทราบข้อมูลนี้อย่างซ่อสัตย์และตรงไปตรงมา ผลก็คือ นำไปสู่พันธมิตรในแนวร่วมของอีกฝ่ายขึ้นโดยอัตโนมัติ

เป้าหมายคือ ต่อสู้กับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

 

บรรยากาศอัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน จุดประกายต่างหากทำให้คนจาก 3 พรรคประกาศออกมาตรงกัน

นั่นก็คือ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

เป็น “คำมั่น”โดยพื้นฐานของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ เป็น “คำมั่น”ที่เห็นร่วมกันและจะลงมือดำเนินการ

หลังการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562