ยานยนต์
สันติ จิรพรพนิต

ประชัน 3 รถเล็กสุดแจ่ม

สวิฟต์-โน้ต-มาสด้า 2ž

ด้วยราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับค่อนข้างสูง บวกกับแนวความคิดที่เปลี่ยนไปของคนไทย รวมไปถึงการพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกเล็กแต่แรงขึ้น ทำให้อีโคคาร์žรถเล็กประหยัดน้ำมันยังได้รับความนิยมอย่างสูง
กอปรกับการออกแบบภายนอก-ภายใน และตัวถังที่ขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต และการขับขี่ที่สะดวกสบายทั้งในเมืองและนอกเมือง จึงไม่น่าแปลกที่ยอดขายรถกลุ่มนี้แรงไม่มีตก
ยานยนต์ สุดสัปดาห์žจึงจัดให้กับรถอีโคคาร์รุ่นดัง 3 รุ่น มาดวลกัน
เริ่มจากซูซูกิ สวิฟต์žใหม่ รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าแรงจัดจริงๆ สานต่อความสำเร็จจากสวิฟต์ (เจเนอเรชั่นที่ 21) รุ่นแรกที่มาจำหน่ายเมืองไทย
สวิฟต์ ใหม่ ออกแบบไม่เหลือคราบเดิมไว้ให้เห็น พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ INNOVATION – Fun & SportyŽ ใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT เพื่อความปลอดภัย ประหยัด แต่คงความแรงเอาไว้ ด้วยน้ำหนักที่ลดลง
ภายนอกมีความโค้งมนมากขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำดุดัน แบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนเป็นแบบรวงผึ้งพร้อมโลโก้ ตัดแบ่งด้วยเส้นสีแดง ด้านล่างสำหรับติดแผ่นป้ายทะเบียน มีอารมณ์คล้ายรถจากยุโรปพอสมควร
ไฟหน้า LED โปรเจ็กเตอร์ ปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมไฟ Daytime Running Light ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่มาพร้อมที่ปัดน้ำในด้านหลัง ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
มือเปิดประตูด้านหลังยกขึ้นไปอยู่ด้านบนบริเวณขอบหน้าต่างทำสีดำกลืนไปด้วย จนมองผาดๆ เหมือนเป็นรถสปอร์ต 3 ประตู

ภายในใช้โทนดำแซมด้วยโครเมี่ยม พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มหนังทรง D-shapeŽ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
มาตรวัดสไตล์สปอร์ตแบบ 2 วงกลมตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง จอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD อ่านค่าง่ายสบายตา ช่องแอร์ 4 ช่อง ซ้าย-ขวาเป็นทรงเหลี่ยม ส่วน 2 วงตรงกลางเป็นทรงกลม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอ LCD
เครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Suzuki Smart Connect รองรับความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนด้วยระบบลูทูธ หรือแอปเปิล คาร์เพลย์
ความสะดวกสบายมีกุแญแจรีโมตแบบ Keyless Entry เพียงพกติดตัวสามารถเปิด-ปิดประตูผ่านทางปุ่มรับสัญญาณที่มือจับ พร้อมปุ่มสตาร์ต-สต็อป
เครื่องยนต์บล๊อกใหม่ K12M ความจุ 1,197 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี DUALJET หัวฉีดคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์ซีวีที 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า / 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร / 4,400 รอบต่อนาที ใช้น้ำมันได้สูงสุด E20
มิติตัวถังใหญ่กว่าของเก่าเล็กน้อย (กว้างxยาวxสูง) 1,735 x 3,840 x 1,495 มิลลิเมตร ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรีต พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม
ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือต่างๆ อัดมาแน่นคันทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า ด้านข้าง และม่านด้านข้าง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบเบรกแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ติดตั้งระบบ ABS/EBD ป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน กระจายแรงเบรกให้สมดุล ฯลฯ
มีให้เลือก 4 รุ่นย่อยเป็นเกียร์ซีวีทีทั้งหมด ราคา 499,000 – 629,000 บาท (สีขาวเพิ่มเงิน 5,000 บาท)

คู่แข่งที่มาแรงแม้จะออกมาพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ยอดขายยังพุ่งไม่หยุดแถมแรงขึ้นเรื่อยๆ คือžมาสด้า 2ž ซึ่งออกรุ่นไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปีที่แล้ว ใส่อ็อปชั่นพิเศษเข้ามาพอสมควร
ภายนอกปรับเปลี่ยนไม่มากนักเนื่องจากของเก่าออกแบบได้ลงตัวไฟหน้าแบบฮาโลเจน โคมรีเฟล็กเตอร์ ออกแบบคล้ายกับตาของสัตว์ ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบให้รถมาสด้ารุ่นหลังๆ เกือบทั้งหมด
กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้าพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยว
ดีไซน์ภายนอกออกแบบให้เป็นไปตามหลักแอโรไดนามิก ทั้งในส่วนการออกแบบการไล่อากาศด้านบนของตัวถังรถ (Upper Body) และด้านใต้ตัวถังรถ (Under Body) ช่วยลดแรงต้านและเสริมให้การไหลของกระแสและทิศทางลมที่ปะทะตัวถังรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายในห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียมสไตล์รถยุโรปตกแต่งแบบทูโทน พร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่พวงมาลัยดีไซน์ใหม่
มี Active Driving Display จอสกรีนใส เปิดขึ้นมาเหนือคอนโซลบริเวณด้านหน้าคนขับ แสดงความเร็ว และข้อมูลระบบนำทาง Navigator ในรูปแบบสีที่ชัดเจนและอ่านง่ายในระดับสายตา
ระบบ Sports Paddle Shift ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีไฮเทคมาครบทั้งระบบ i-ACTIVSENSE ช่วยเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ MZD CONNECT เชื่อมต่อออนไลน์ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ฯลฯ
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,299 ซีซี กำลังสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนวลโหมด
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) 1,695×4,060×1,495 ม.ม. ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สัน สตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม
มี 4 รุ่นย่อย (เครื่องยนต์เบนซิน) 530,000-670,000 บาท

สุดท้ายเป็นนิสสัน โน้ตž ออกแบบกระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์การออกแบบภายของนิสสัน ในรถหลายๆ รุ่นที่ผ่านมา โคมไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็กเตอร์ สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม LED Signature Light ไฟตัดหมอกคู่หน้า
เส้นสายด้านข้างเน้นความสปอร์ต พลิ้วไหวมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) ต่ำสุดเพียง 0.30 ไฟท้าย LED แบบ Signature รูปทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟเบรกแบบ LED
ภายในออกแบบด้วยโทนสีดำ แซมด้วยวัสดุสีเงิน เช่น หัวเกียร์ ฐานเกียร์ ส่วนวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางสีเปียโน แบล็ก
พวงมาลัยทรงสปอร์ต D-Shape แบบแร็ก แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) มีระบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ
มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชั่น ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิตอล
วิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอ LED แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อ AUX, USB, Bluetooth และช่องเชื่อมต่อ AV-in, HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth
ความปลอดภัยถือว่าครบครันทั้งระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง รวมถึงกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง มองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน
เครื่องยนต์แบบแถวเรียง 3 สูบ 12 วาล์ว 1,198 ซีซี กำลังสูงสุด 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ XTRONIC CVT D-Step Logic รุ่นปรับปรุงใหม่
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) 1,695×4,105×1,535 ม.ม. ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สัน สตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม
มี 2 รุ่นย่อย ราคา 568,000-640,000 บาท