เสถียร จันทิมาธร : ทฤษฎี ประสาน ปฏิบัติ (53)

เสถียร จันทิมาธร

ไม่ว่ายุทธนิยายเรื่อง มังกรหยก ภาค 1 ว่าด้วยเรื่องราวของก๋วยเจ๋ง ไม่ว่ายุทธนิยายเรื่อง มังกรหยก ภาค 2 ว่าด้วยเรื่องราวของเอี้ยก่วย

จุดสร้างความอยากในการติดตาม คือ จุดแห่งความเข้าใจผิด

นอกเหนือจะสร้างความฉงน สงกาให้กับผู้อ่าน จนเรียกร้องให้ติดตามอ่านเพื่อบรรลุคำตอบแล้ว ยังนำไปสู่การยืดและขยายเรื่องให้ยาวออกไป

กรณีของเอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งก็เช่นเดียวกัน

จุดสำคัญอันทำให้ทั้ง 2 ต้องเข้าใจผิดและพลัดพรากจากกันก็คือ จุดที่ “ชาดพรหมจรรย์” หายไปจากแขนของเซียวเล้งนึ่ง

เซียวเล้งนึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะเอี้ยก่วย ขณะที่เอี้ยก่วยไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

ตรงนี้เองนำไปสู่การพลัดพรากจากกันทั้งๆ ที่เปี่ยมด้วยความรัก ความอาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง เอี้ยก่วยไปทาง 1 เซียวเล้งนึ่งไปทาง 1

เอี้ยก่วยได้ไปมีประสบการณ์กับ “ดรุณี” อื่นเพิ่มขึ้น

กระนั้น ภาพของ “หญิงชุดขาว” ก็ตามมาหลอกหลอน และเพิ่มทวีความรู้สึกอาวรณ์อาลัยหนักหน่วงเป็นเพิ่มทวี

ห้วงเวลานี้เองที่สร้างสภาพการณ์ใหม่ บทเรียนใหม่ให้

1 เอี้ยก่วยได้เดินทางและร่วมประสบการณ์ทางการต่อสู้กับเล็กบ้อซัง ศิษย์ซึ่งพยายามตีจากออกจากอำนาจและอิทธิพลของลี้ม้กโช้ว

1 เอี้ยก่วยได้ไปพบเห็นและให้ความช่วยเหลือกับแม่นาง “อ้วงง้วนเพี้ย”

กิมย้งบรรยายอารมณ์ความรู้สึกของเอี้ยก่วยต่อดรุณีที่เขาพบพานและรู้จักด้วยความล่อแหลมในอารมณ์

นั่นเป็นเพราะวาสนาอันติดมาจาก “เอี้ยคัง” ผู้บิดา

กระนั้น ความรักและความผูกพันกับเซียวเล้งนึ่งก็ทำให้เอี้ยก่วยหลุดพ้นจากการสร้างบ่วงกรรมเหมือนกับที่บิดาของเขาเคยกระทำ

กระบวนการในทางความคิดของเอี้ยก่วยจึงเป็นกระบวนการแห่งการต่อสู้

ต่อสู้ระหว่างวาสนาอันติดตัวมาจากบิดา ต่อสู้กับความผิดชอบชั่วดี เหมือนกับกิมย้งมิได้เน้นมากนักในจุดนี้ แต่จุดซึ่งเกื้อกูลให้กับเอี้ยก่วยเป็นอย่างมากและทรงพลัง คือจุดที่เขามีความรักและอาลัยหาต่อเซียวเล้งนึ่ง

ยิ่งพลัดพรากจากกันจึงยิ่งตระหนักในความรัก ยิ่งรำพึงคะนึงหายิ่งทำให้อดีตตราตรึงอยู่ในดวงใจและความคิด

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเอี้ยก่วยได้นำ “ทฤษฎี” ที่ได้จากสุสานโบราณไปลงมือ “ปฏิบัติ”

ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติผ่านกระบวนท่า “เตียวเสี้ยนไหว้จันทรา” ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่า “ไซซีกุมหัวใจ” ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่า “เจียวกุนออกจากด่าน”

ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่า “ม้วยโกวอวยพรวันเกิด”

เอี้ยก่วยไม่คิดทำร้ายคน ดังนั้น ในกระบวนท่าไม่ใช้กำลัง ลงมือติดต่อกัน 4 กระบวนท่า ทุกกระบวนท่าล้วนเป็นฝีมืออันลึกล้ำของ “เพลงหมัดหญิงงาม”

กิมย้งอรรถาธิบายว่า สำนักสุสานโบราณก่อตั้งโดยลิ้มเซียวเอ็ง ที่แล้วมาถ่ายทอดแก่สตรีไม่ถ่ายทอดแก่บุรุษ นางบัญญัติเพลงหมัดหญิงงามชุดนี้ทุกกระบวนท่าล้วนตั้งชื่อตามหญิงงาม ยามใช้ออกแช่มช้อยงดงามแต่ล้วนเป็นท่าสังหารอันเผ็ดร้อนดุร้าย

เอี้ยก่วยระหว่างฝึกฝีมือกับเซียวเล้งนึ่งรู้สึกว่าเพลงหมัดแม้ลึกล้ำกลับกระบิดกระบวน บุรุษใช้ออกไม่สุภาพ

ขณะฝึกปรือในกระบวนท่าอันนุ่มละมุนจึงถ่ายทอดสำนึกอันแกร่งกร้าวเข้าไป แปรเปลี่ยนจากแช่มช้อยเป็นสง่างาม ผู้ประสบพบพานจะเห็นว่า บุคลิกภาพแม้แตกต่างแต่ท่วงท่าหมัดยังคงเผ็ดร้อนเช่นเดิม

เล็กบ้อซังซึ่งฝึกปรือมาเหมือนกันจึงทั้งแตกตื่นและทั้งยินดี

ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่สายสัมพันธ์อันใกล้ชิดกันระหว่างเล็กบ้อซังกับเอี้ยก่วยประการเดียว หากที่สำคัญก็คือ ทั้ง 2 อยู่ระหว่างหลบหนีจากแส้พิฆาตของลี้มกโช้วอันดุร้าย

ทาง 1 นำเอี้ยก่วยให้เข้าไปสู่โลกแห่งบู๊ลิ้มอันมากด้วยคมเขี้ยว

ขณะเดียวกัน ทาง 1 นำเอี้ยก่วยให้ได้รู้จักและมีประสบการณ์กับบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากเซียวเล้งนึ่ง

และเมื่อพลัดจากเล็กบ้อซังเขาก็สัมผัสกับประสบการณ์อันใหญ่หลวงประสบการณ์หนึ่ง

เป็นประสบการณ์กับอั้งชิดกง เป็นประสบการณ์กับอาวเอี้ยงฮง