เผยแพร่ |
---|
ปฏิกิริยาอันสะท้อนผ่านหนังสือลาออกจากราชการของ นายสมชัย สัจจพงษ์ เป็นปฏิกิริยาเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นที่กระทรวงแรง งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560
เพราะว่าเกี่ยวกับการโยกย้ายและแต่งตั้ง
จะแตกต่างก็เพียงแต่ใบลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงานสัมพันธ์กับคำสั่งตามมาตรา 44 โยกย้าย”อธิบดี”บนพื้นฐานสำคัญ 2 ประการ
1 อธิบดีคนนั้นเป็นการแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 1 การย้ายอธิบดีออกเป็นการใช้อำนาจมาตรา 44
แต่ไม่ว่าการย้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 หรือการย้ายในเดือนเมษายน 2561 สะท้อนอาการเดียวกัน
นั่นก็คือ อาการ”เครื่องรวน”
มีความแตกต่างในรายละเอียดอยู่บ้างระหว่างสถานการณ์ที่กระทรวงแรงงานกับสถานการณ์ที่กระทรวงการคลัง
แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
นั่นก็คือ การย้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 กระทำผ่านมาตรา 44 และโดยไม่มีการหารือ
แม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงแรงงานจะดำรงยศ”พลเอก”
แต่กล่าวสำหรับการย้ายในเดือนเมษายน 2561 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับตรงกันว่า
มีการหารือกับเจ้าตัวคนที่จะถูกโอนย้ายมาก่อน
ไม่ว่า นายปรเมธี วิมลศิริ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไม่ว่า นายสมชัย สัจจพงษ์ปลัด กระทรวงการคลัง
นายปรเมธี วิมลศิริ อาจจะแฮปปี้เดินทางไปกระทรวงพม.ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มแจ่มใส
ขณะที่ นายสมชัย สัจจพงษ์ ลาออกโดยพลัน
สถานการณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 นำไปสู่การปรับครม.ในรูปแบบอันเรียกว่า “ปรับใหญ่”
รอยแผลอาจหายไปแล้ว
แต่สถานการณ์ในเดือนเมษายน 2561 เสมอเป็นเพียงการเริ่มต้นอันบ่งชี้ถึงอาการ “รวน”ของเครื่องยนต์ เป็นสภาพ”น็อต“หลุดที่กระทรวงการคลัง
เท่ากับกลไกแห่ง”กองหนุน”เริ่มหลุด”ร่วง”อีก