วงค์ ตาวัน : มาร์ค-เทือก-ธาริต

วงค์ ตาวัน

เรื่องที่เคยสร้างความตื่นตะลึงให้กับคนทั้งสังคมเมื่อ 5 ปีก่อน แล้วค่อยๆ เงียบหายไป บัดนี้ได้กลับมาเป็นข่าวให้คนทั้งประเทศได้นึกถึงอีกครั้ง โดยเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และหนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสด โดยสรุปว่าไม่ได้หมิ่นประมาท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในกรณีที่นายธาริต ขณะเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงข่าวเรื่องการดำเนินคดี 396 โรงพัก

ภาพโรงพักที่สร้างไม่เสร็จ โดนทิ้งร้าง มีแต่เสาปูนที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ไม้เลื้อยพัน หรือมีแต่ผนังอิฐเปลือย อยู่เกลื่อนกลาดไปทั่วประเทศ

สร้างความยากลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องไปใช้อาคารโรงอาหารเป็นที่รับแจ้งความแทน บางแห่งก็ต้องกางเต็นท์อยู่ข้างๆ โรงพักที่สร้างไม่เสร็จ ต้องไปใช้ห้องน้ำห้องส้วมดัดแปลงเป็นที่ทำงาน ไปอาศัยวัดก็มี

“ดังที่เปรียบกันว่า ตำรวจต้องไปทำงานอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้นั่นแหละ เห็นภาพชัดที่สุด”

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย นำเรื่องนี้มาเปิดเผยเมื่อปี 2556

โดยลุกขึ้นอภิปรายในสภา ในวาระการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดโปงโครงการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ ว่ามีสภาพที่น่าตกใจเช่นไร

นายชูวิทย์โชว์ภาพถ่ายที่ไปบันทึกมาจากพื้นที่ต่างๆ ในระหว่างการอภิปราย ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมเองก็ตะลึง เพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

“ทำให้สังคมได้ประจักษ์ชัดว่า ทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกฯ คุมงานตำรวจ!”

แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย

จุดเริ่มต้นของโครงการนี้เกี่ยวพันกับงบฯ ไทยเข้มแข็งของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เดิมทีมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร. ได้จัดทำรายละเอียดโครงการสร้าง 396 โรงพัก โดยกำหนดชัดว่า ต้องแยกประมูลรายภาค เนื่องจาก 396 โรงพักดังกล่าวกระจายไปทั่วประเทศ ควรให้ผู้รับเหมาในพื้นที่นั้นๆ เป็นผู้ดำเนินการ พื้นที่ใครพื้นที่มัน ทุกอย่างก็จะรวดเร็วเรียบร้อยตามกำหนดเวลา

แต่ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกนายอภิสิทธิ์สั่งเด้งพ้นตำแหน่ง โดยให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

อีกทั้งนายอภิสิทธิ์พยายามจะผลักดันให้ พล.ต.อ.ปทีป นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. เต็มตัว แต่ประชุมแล้วประชุมเล่าก็ไม่สำเร็จ เพราะเสียงใน ก.ต.ช. ไม่เห็นด้วย

เพราะเห็นว่า รอง ผบ.ตร. ที่ผ่านงานสืบสวนปราบปราม เหมาะสมกว่ารอง ผบ.ตร. ที่ชำนาญด้านงบประมาณ

แต่นายอภิสิทธิ์ก็สร้างเรื่องประหลาด เพราะประชุมดัน พล.ต.อ.ปทีปไม่สำเร็จ ก็พยายามต่อ เมื่อการประชุมล่มหลายหน ก็ใช้วิธีให้ พล.ต.อ.ปทีป นั่งรักษาการไปเรื่อยๆ จนเกือบปี

“ระหว่างที่มีรักษาราชการ ผบ.ตร. นั่นแหละ ที่มีการเสนอเปลี่ยนแปลงสัญญาก่อสร้าง 396 โรงพัก จากแยกภาค มารวมเป็นสัญญาเดียว”

แล้วนายสุเทพก็เซ็นเห็นชอบกับการเปลี่ยนแปลงนี้

แล้วที่แน่ๆ ผลของการรวมสัญญาเดียว ให้ผู้รับเหมาเจ้าเดียววิ่งรอกสร้าง 396 โรงพักทั่วประเทศ

เด็กแบกถุงปูน หิ้วถังทราย ได้ยินแล้วยังหัวเราะกลิ้ง ไม่มีทางสร้างได้เสร็จแน่ๆ

หลังจากที่เรื่องแดงออกมา โดยเบื้องหลังไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ก็มีการร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้เอาผิดกับผู้ทำความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน และต่อชีวิตการทำงานของตำรวจ อันกระทบโยงไปถึงการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ที่จะต้องมาพึ่งพางานตำรวจตามโรงพักต่างๆ

ขณะนั้นนายธาริตเป็นอธิบดีดีเอสไอ ได้ติดตามตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับโครงการนี้ ขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดย ร.ต.อ.เฉลิม รองนายกฯ ที่ถูกอภิปรายเรื่องนี้ ได้สั่งการให้เดินหน้าอย่างถึงที่สุด

เมื่อนายธาริตสรุปความได้ชัดเจน ก็แถลงข่าวว่าจะส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนต่อไป เนื่องจากนายสุเทพมีฐานะหน้าที่เป็นรองนายกฯ ขณะเกิดเรื่อง

“นั่นเป็นเหตุให้นายสุเทพยื่นฟ้องนายธาริตว่าแถลงข่าวหมิ่นประมาท พ่วงหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดที่นำเสนอข่าวไปด้วย”

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ศาลได้อ่านคำพิพากษา ยกฟ้อง

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายธาริตแถลงข่าวไปตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากโครงการ 396 โรงพักเป็นที่สนใจของประชาชน และเป็นเรื่องประโยชน์ต่อประชาชนและต่อสาธารณะ

“ทั้งในการสืบพยานนั้น นายสุเทพได้เบิกความรับเองว่า ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้เปลี่ยนแปลงสัญญา จึงเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับมติ ครม. และระเบียบสำนักนายกฯ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยใส่ความโจทก์”

ส่วนหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดเป็นสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวไปตามคำแถลงของนายธาริต เป็นไปตามข้อเท็จจริง

“เป็นการติชมโดยสุจริตและด้วยความเป็นธรรม จึงไม่หมิ่นประมาท”

หลังข่าวคำพิพากษานี้เผยแพร่ไปตามสื่อมวลชนต่างๆ เท่ากับกระตุ้นเตือนให้ทั้งสังคมต้องถามต่อไปว่า แล้วการไต่สวนของ ป.ป.ช. ในเรื่อง 396 โรงพัก ทำไมจึงเงียบหายไป

พร้อมๆ กันก็มีข่าวตามมาว่า ป.ป.ช. เตรียมจะขอคัดคำพิพากษานี้ เพราะมีเนื้อความหลายประการที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่กำลังไต่สวนอยู่

แน่นอนว่า วันนี้สังคมจึงได้จังหวะมาทบทวนปมประเด็น 396 โรงพัก ในยุคอภิสิทธิ์-สุเทพ

เมื่อนายสุเทพนำมวลชนนกหวีดชุมนุมชัตดาวน์ ลงเอยเป็นรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ผลที่ตามจากนั้นส่วนหนึ่งก็คือ การเด้ง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ แล้วตามด้วยคดีความที่โถมใส่นายธาริตมากมาย

เฉพาะที่นายอภิสิทธิ์หรือนายสุเทพ ฟ้องร้องนายธาริตก็มีอยู่หลายคดี

นอกจาก 396 โรงพักแล้ว ก็ยังมีคดี 99 ศพ ที่ทำให้นายธาริตและพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ถูกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องร้อง

โดยกล่าวหาว่านายธาริตและพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการทำสำนวนตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนา 99 ศพ

“ประเด็นนี้เป็นเรื่องน่าคิดอย่างมาก”

เพราะจนป่านนี้ คดีที่มีคนถูกฆ่าตาย 99 ศพ ในเหตุการณ์สลายม็อบ ยังไม่เป็นคดีอาญา ยังไม่มีการดำเนินคดีกับใครเลยในข้อหาเกี่ยวกับการฆาตกรรมทำให้มีคนตายร่วมร้อยศพ

“แต่นายธาริตและทีมงานดีเอสไอ ที่ทำหน้าที่ค้นหาความจริงและสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีข้อหาการฆ่านั้น กลับถูกฟ้องตกเป็นจำเลยอยู่ในศาล!?!”

คงจำกันได้ว่า การเข่นฆ่าเกิดขึ้นในใจกลางเมืองหลวงอย่างยาวนาน มีภาพถ่าย มีคลิปเป็นหลักฐานมากมาย

นายธาริตและทีมสอบสวนดีเอสไอ ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริง

เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานในแต่ละศพได้ ก็ทำเป็นสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพ นำขึ้นพิจารณาชั้นศาล และศาลได้มีคำสั่งแล้วจำนวน 17 ศพว่า ตายด้วยกระสุนปืนจากฝั่งเจ้าหน้าที่ ศอฉ.

“เมื่อศาลชี้ผลไต่สวนชันสูตรศพดังกล่าว จากนั้นดีเอสไอก็มาทำเป็นสำนวนอาญา ตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ”

ต่อมานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ได้ต่อสู้ในประเด็นข้อกฎหมายว่า ตนเองถูกกล่าวหาขณะทำหน้าที่นายกฯ และรองนายกฯ จึงเป็นเรื่องความผิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องส่ง ป.ป.ช. ไต่สวน เรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญา ซึ่งต่อมาศาลอาญาได้มีคำพิพากษาว่า สำนวนคดีนี้ไม่ใช่ขอบเขตอำนาจของศาลอาญา ให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.

เมื่อเรื่องตกจากศาลอาญา เท่ากับว่าคดี 99 ศพ ยังไม่มีการดำเนินคดีด้านฆาตกรรมเกิดขึ้น จะมีก็แค่อำนาจของ ป.ป.ช. ว่าด้วยความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ แต่ ป.ป.ช. ก็ยังเงียบเฉยอยู่

แล้วลงเอยก็มีแต่นายธาริตและทีมสอบสวนค้นหาความจริงเท่านั้น ที่ตกเป็นจำเลยอันเนื่องจาก 99 ศพ!?!