สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
—————–
อนุรักษ์”ขาขึ้น”
——————
กระแสอนุรักษ์ ในห้วงรัฐบาลและ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องยอมรับว่า เป็นกระแส “ขาขึ้น”
จากทั้งฝ่ายรัฐเอง อย่าง ค่านิยม 12 ประการ, ประชาธิปไตยแบบไทย-ไทย , ไทยนิยมยั่งยืน
จากทั้งฝ่ายเอกชน ล่าสุดก็คือ กรณี บุพเพสันนิวาส “ฟีเวอร์” ที่แตกยอด ต่อกอเป็นอีกหลายเรื่อง ทั้งการแต่งไทย นิยมเที่ยว(แหล่งโบราณคดี)ไทย
รวมถึง ตำราเรียน “จินดามณี” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “อิน”ถึงขนาด สั่งให้ รัฐมนตรีท่องให้ได้ คนละบท
กระแสอนุรักษ์ จากทั้ง ภาครัฐและเอกชน เหล่านี้ หลอมรวมเป็นกระแสใหญ่
ซึ่งว่าที่จริงก็ไม่ใช่ เรื่องแปลกของสังคมไทย
ด้วยเพราะ สังคมไทยถูกมองว่าเป็นสังคมอนุรักษ์นิยมโดนพื้นฐานอยู่แล้ว
จึง รับกระแสเหล่านี้ ได้ดี และพร้อมจะขยายใหญ่ได้ไม่ยาก
นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกนั่นแหละ ที่ รัฐบาลและคสช. ที่มีอุดมการณ์ อนุรักษ์-ชาตินิยม เป็น”แกนสันหลัง”อยู่แล้ว จะเก็บเกี่ยวเอาผลพลอยได้จากการนี้ อย่างเต็มที่
และแน่นอน แนวทางอนุรักษ์ และชาตินิยมนี้ จะเป็น ธงนำ ในการดำรงอำนาจต่อไป โดยเฉพาะการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้น
ซึ่งก็คงไม่มีใครมีสิทธิไปต่อว่า นี่คือการฉวยโอกาส หาประโยชน์จาก กระแส ของรัฐบาลและคสช.
ตรงกันข้าม ควรสนับสนุน รัฐบาล คสช. และพรรคการเมือง ให้นำอุดมการณ์อนุรักษ์-ชาตินิยม เหล่านี้ มาเป็นแคมเปญ แข่งขัน กับอุดมกรณ์ หรือแนวคิดอื่น อย่างเต็มที่
แม้ รัฐบาล-คสช.และพรรคแนวร่วมจะถูกมองว่าได้เปรียบ
แต่หากเป็นการต่อสู้กันบนเวทีประชาธิปไตย ที่เปิดกว้าง เสรี ก็ไม่ควรถูกจำกัดสิทธินี้
พร้อมๆกับที่ รัฐบาล คสช.และพรรคแนวร่วมก็ควรเปิดโอกาส ให้ กลุ่มแนวคิดอื่น ที่อยู่ใน”กรอบของกฎหมาย”มีโอกาสได้ขายความคิด ได้รณรงค์อุดมการณ์ ความเชื่อของฝ่ายตนเองด้วย
มิใช่ มองหาช่องทางต่างๆ มาจำกัด
อย่างที่จู่ๆก็มีผู้ โผล่ไปยื่นเรื่องให้ประธานกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาว่าการขอเตรียมการจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่
โดยอ้างพรรคนี้มีแนวคิดที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้ยืนยันว่าการรณรงค์แก้ไข ม. 112มีมาตั้งแต่ปี 2555
เพื่อทำให้บุคคลไม่อาจนำมาตรา 112 มาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง ทำลายล้างกัน
และเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคง อย่างทรงพระเกียรติยศ ทันสมัย และสอดคล้องกับประชาธิปไตย
นายปิยบุตรย้ำว่า การรณรงค์ดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนตนซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้า ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่
ไม่ใช่นโยบายของพรรค และไม่ใช่คำประกาศอุดมการณ์ของพรรค ในอนาคต
“ขอความกรุณาจากบุคคลที่มีความคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ได้ใช้สติปัญญาตรึกตรองอย่างมีเหตุมีผล เปิดใจรับฟังในสิ่งที่พวกเราทำ หากยังมีข้อขัดข้องหรือไม่เห็นด้วยในเรื่องใด พร้อมที่จะอภิปรายถกเถียงอย่างสร้างสรรค์ในทุกเรื่อง ในทุกเวที”
นั่นคือสิ่งที่นายปิยบุตรเรียกร้อง
เรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนกันได้ตามระบอบประชาธิปไตย มิใช่หาช่องทาง “พิมาตกันตั้งแต่ก่อนเกิด”
เพราะนั่นย่อมเป็นวิถีที่ไม่ถูกต้อง
ไม่ถูกต้องเหมือน คนอีกจำนวนไม่น้อย เป็นนักอนุรักษ์ผิดๆ
คือคิดว่าอนุรักษ์ ก็คือกันอยู่อย่างเดิม ตอนนี้บ้านเมืองก็สงบดีแล้ว
จะเลือกตั้งไปทำไม
เลยเตะถ่วง ดึง ลาก กันหน้ามืดอยู่ตอนนี้!
———————-