อุรุดา โควินท์ / ความทรงจำ : ดอกไม้บนมวยผม

ฉันไม่เคยถาม ว่าแม่จดจำพ่อด้วยความรู้สึกเช่นไร

ในผืนป่าแห่งความผิดหวังและสูญเสียของแม่ มีสิ่งที่ทำให้แม่ยิ้มได้บ้างมั้ย บางที…อาจเป็นกล้วยไม้ดอกกระจิริดช่อนั้น มันจะผลิดอกเมื่อถึงเวลา ขอแค่มีไม้ใหญ่ให้เกาะ และอากาศตามฤดูกาล

พ่อของฉันคือชายหนุ่มผู้หลงใหลกล้วยไม้

กาลเวลาคัดสรรความทรงจำนี้แก่ฉัน มองจากตรงนี้, ขณะอายุเท่าพ่อ (ในความทรงจำ) ฉันเห็น…ความหลงใหลอันเปี่ยมเสน่ห์ ทว่า สิ้นเปลือง

พ่อมีกล้วยไม้กี่ชนิด กี่ร้อยต้น ฉันไม่เคยนับ รู้แต่ว่า รอบๆ บ้านของเราเต็มไปด้วยไม้ดอก และมากที่สุดคือกล้วยไม้

เสร็จจากงานสอนในโรงเรียน พ่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้ต้นไม้

บางทีพ่อได้กล้วยไม้มาจากป่า แต่ส่วนใหญ่ พ่อซื้อพันธุ์ไม้เป็นขวด ตั้งขวดไว้หน้าโทรทัศน์ กระทั่งเห็นใบสีเขียวคับขวด จึงค่อยๆ เกี่ยวกล้วยไม้น้อยออกมาทีละต้น ปลูกลงกระถางนิ้ว รอมันโตเต็มกระถาง พ่อย้ายไปปลูกในเครื่องปลูกที่ใหญ่ขึ้น

กว่ากล้วยไม้จะสมบูรณ์ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองปี

กว่าจะออกดอกให้เชยชม เราต้องทะนุบำรุง เฝ้างอนมันด้วยปุ๋ยและยา

 

พ่อทำให้ฉันรู้ว่า การซื้อกล้วยไม้ที่ออกดอกมาแขวนในบ้าน ไม่ใช่อื่นใด-คือการซื้อเวลา ซื้อความเอาใจใส่ และการเลี้ยงกล้วยไม้ไม่ใช่เรื่องโรแมนติก เป็นงานอดิเรกที่ต้องลงทุน ลงแรง ใช้พื้นที่

ค่ะ! ฉันต้องบอกคุณด้วย หากอยากให้กล้วยไม้งาม เราก็ไม่อาจปฏิเสธสารเคมี

กล้วยไม้ที่ขยายพันธุ์ในห้องแล็บ ไม่เคยถูกเลี้ยงตามธรรมชาติ ต่อให้เป็นพันธุ์เดียวกับกล้วยไม้ที่เก็บมาจากในป่า มันก็เติบโตขึ้นมาบนโลกคนละใบ มันต้องการปุ๋ยและยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะเติบโตอย่างงดงาม

ผลลัพธ์ของการใส่ใจและรอคอยคือดอกไม้ หน้าบ้านของเรามีทั้งแคทลียา ฟ้ามุ่ย ช้างแดง ช้างกระ ช้างเผือก และอีกนานาพันธุ์เท่าที่พ่อหาได้ ทุกพันธุ์มีดอกให้เห็น ดอกซึ่งงามอย่างอัศจรรย์ และเมื่อมองถอยไปยังวันแรกที่พ่อรับต้นไม้เข้าบ้าน

ฉันอยากมอบความล้ำค่าแก่มันด้วย

 

แคทลียาดอกนั้น เดินทางมาจากเวลาหลายปี ด้วยความหลงใหลของชายคนหนึ่ง เมื่อมีคนมาขอซื้อไปประดับผม ราคาเท่าใดเล่าที่เขาจะขาย บ่อยครั้ง…พ่อจึงมอบให้ ถือเป็นของขวัญวันแต่งงาน

ก่อนวันหมั้นของฉันหนึ่งวัน พ่อกดกริ่งหน้าบ้าน ส่งดอกไม้ลอดประตูรั้วมา ฉันยิ้มอายๆ รับควีนสิริกิติ์จากมือพ่อมาวางบนโต๊ะข้างเตียง

ช่างทำผมติง ว่าดอกใหญ่ไป และไม่เข้ากับชุด แต่ฉันยืนยันที่จะใช้ดอกไม้ประดับผม ไม่ต้องสงสัยเลย นั่นคือแคทลียาดอกสวยสุดเท่าที่พ่อมีในวันนั้น

มันจะไม่เหมาะกับฉันได้อย่างไร ฉันเป็นลูกสาวของนักเลี้ยงกล้วยไม้

ฉันเคยช่วยพ่อขนกล้วยไม้ทีละต้น สองต้น ไปแขวนโชว์หน้าปากซอย พ่อเรียกมันว่าร้าน ทั้งที่เราไม่เคยขายได้ พ่อสนุกเสมอเมื่อมีคนแวะมาชม ถามว่าเลี้ยงมันอย่างไร หรือถามชื่อของมัน

พ่อจัดพื้นที่เล็กๆ ไว้ แขวนกล้วยไม้ได้ราวยี่สิบต้น เลือกต้นที่ออกดอกงาม ร้านเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เช้าขนกล้วยไม้ไปแขวน เย็นก็เก็บกล้วยไม้กลับบ้าน (จำนวนเท่าเดิม)

ฉันมีหน้าที่ช่วยขน ช่วยเก็บ และเป็นคนขาย (เฝ้ากล้วยไม้)

นอกเสียจากเจ้าสาว พ่อไม่ขายกล้วยไม้แบบตัดดอก พ่อไม่เคยตัดกล้วยไม้มาจัดแจกัน

สำหรับพ่อ ดอกกล้วยไม้สวยที่สุดเมื่ออยู่กับต้น และมันจะมีอายุยาวกว่าด้วย

 

กล้วยไม้ของพ่อได้รางวัลบ่อย จากงานประกวดเล็กๆ จัดโดยชมรมกล้วยไม้เชียงราย ผู้ส่งประกวดล้วนเป็นเพื่อนพ้อง หรือคนรู้จัก

นอกจากกล้วยไม้ พ่อจึงเอาอาหารไปด้วย

พ่อภูมิใจในฝีมือแม่ -ฉันรู้ เพราะฉันรู้สึกไม่ต่างกัน ยามจัดอาหารลงโต๊ะ รอคนมาตัก หืม…น่ากินอะไรอย่างนี้ หอมอะไรเช่นนี้

แม่แกงกะทิหม้อใหญ่ มีทั้งข้าว ทั้งขนมจีน พริกน้ำปลาทำจากพริกขี้หนูสีเขียว เหลือง ส้ม แดง กระเทียมไทย และมะนาวฝานทั้งเปลือกลอยหน้า มียำมะม่วงไว้กินตัดเลี่ยน

แต่อาหารที่ฉันรอคือหมูก้อน มันอร่อยไม่เหมือนใคร เพราะแม่ปรุงด้วยปลาเค็ม

ใช้หมูสับหยาบ มีมันหมูปนด้วยนิดหน่อย สิ่งที่หมูก้อนต้องการ คือรากผักชี กระเทียม พริกไทย สามอย่างนี้ ตำให้ละเอียดและเยอะเข้าไว้ ตักออกจากครก ส่งลงในชามหมูสับ

บางคนปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊ว หรือน้ำปลา แต่แม่ใช้ปลาอินทรี (เท่านั้น) เอาไปทอดไฟอ่อน ตำให้ละเอียด ก่อนคลุกรวมกับหมู ปลาอินทรีที่เราซื้อ แต่ละครั้งเค็มไม่เท่ากัน แม่จึงค่อยๆ ใส่ คลุกให้ทั่ว แล้วหยิบหมูก้อนเท่าปลายก้อยมาจี่ในกระทะ ลองชิม หากยังไม่เค็ม ค่อยเติมปลา

หมูก้อนจะอร่อย ถ้าเราคลุกปลาอินทรีกับสามเกลอให้ทั่วถึง กระทั่งเป็นหนึ่งเดียวกับหมูสับ แล้วปั้นก้อนรอไว้

ทอดด้วยน้ำมันร้อน แต่ใช้ไฟกลาง เอาหมูก้อนมาชุบไข่บางๆ หย่อนลงกระทะ ทอดทีละด้าน ใช้น้ำมันแบบไม่ท่วม พอหมูสุกก็เร่งไฟไล่น้ำมันออก นับหนึ่งถึงสิบ ตักหมูมาพักไว้ในกระชอน

หมูก้อนของแม่ชุบไข่เท่าที่จำเป็น มันจึงไม่อมน้ำมัน หอมรากผักชี กระเทียมพริกไทย เค็มจากปลาอินทรีคือความพิเศษ แถมเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับแกงกะทิ

ฉันชอบกินหมูก้อนกับข้าวสวยร้อนๆ และผัก กินก่อนที่เราจะยกอาหารไปในงานประกวดกล้วยไม้ จะได้บอก (โม้) กับใครต่อใคร-ว่ามันอร่อยอย่างไร

 

ส่วนกล้วยไม้น่ะเหรอ พ่อคัดแล้วคัดเล่า หากไม่แน่ใจว่าได้รางวัล พ่อไม่ยกขึ้นรถ

แคทลียาเป็นกล้วยไม้ที่พ่อรัก และควีนสิริกิติ์คือที่หนึ่งในใจ

ตอนเป็นเด็ก ฉันสงสัย ทำไมพ่อหลงใหลดอกไม้สีขาวปากเหลืองดอกใหญ่นี้นัก

กระทั่งดอกไม้ได้อยู่บนมวยผม ฉันจึงเข้าใจความเงียบเชียบอันงามสง่าของแคทลียา ทั้งกลิ่นหอมจางๆ นั้นก็ช่วยกล่อมใจให้อ่อนโยน

หากคุณถาม ฉันจดจำอะไรได้บ้างในวันหมั้น คำตอบแรกคือดอกไม้บนมวยผม

ควีนสิริกิติ์ดอกนั้นยืนยันว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน มันกอบเอาวัยเยาว์มากองตรงหน้า

และมันได้เชื่อมโยงครอบครัวของเราไว้ด้วยกัน