ปมประวัติสกุลขุนนางอภัยธิเบศร (อภัยวงศ์) เจ้าเมืองพระตะบองโดยเอกสารกัมพูชาหนึ่ง ซึ่งแง่มุมเรื่องลับนักปกครองนี้ มีให้เห็นเป็นเรื่อง “อื้อฉาว” ในหมู่เจ้าขุนและมูลนายเขมรอย่างน่าใคร่ศึกษานัก

โดยทีรึ “อัญ-ขญม” (คำเรียกไพร่ทาสสมัยพระตะบอง-และหมายถึงตัวผู้เขียน) ก็หมายมาดว่า เรื่องเจ้าพระยาอภัยธิเบศรนี้ จะมีมาขยาย “ปมพิสดาร” ลำดับต่อไป

ว่าไปแล้ว เรื่องทำนองนี้ ดูจะมีเสียทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะ “ราชสกุลกษัตริย์นักปกครอง” หรือ “วงศ์วานว่านเครือผู้มีอำนาจ” ทั้งหลาย ที่ขยันสรรหากันมาผลิตเรื่องพิสดารเหล่านี้

และพอมาถึงยุคของสมเด็จอัครเสนาบดีเดโชฮุน เซน ก็ไม่อาจเว้นได้ ต่อในบรรดาเรื่องพิสดารของเขา และมรดกที่ตกทอดจากพ่อไปสู่รุ่นลูก

โดยสมเด็จฮุน เซน ถือเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่นัก ในบุตรหญิงชายทั้งห้า ก็ล้วนแต่ทำการใหญ่สำคัญดังที่ตนหมายมาด ในตอนเยาว์เล่าเรียนก็วางตัวดีมีกาลเทศะ ตามขนบของตระกูล โดยมีฮุน มาเนต บุตรชายคนโตเป็นต้นแบบ

ต่อเหล่าบรรดาบุตรชายทั้งสามนี้ คนที่อัญ-ขญม รู้สึกห่วงใยอย่างมาก คือบุตรชายคนรองที่ชื่อฮุน มานิต ในฐานะผู้ที่ต้องทำงานในองค์กรลับและการทำลาย

แต่ก็ไม่ทราบหมือนกันว่าทำไมหวยจึงไปออกที่บุตรชายคนสุดท้องที่ชื่อ ฮุน มานี

 

ฮุน มานิต ทำงานเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง องค์กรที่บิดาของตนก่อตั้งขึ้น ซึ่งจะว่าไปแล้ว มีแนวคิดการทำงานจากระบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งก็คือตั้งขึ้นมาเพื่อสอดส่องกิจการฝ่ายตรงข้าม กลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายตน

ศัตรูของฮุน มานิต จึงเป็นกลุ่มเดียวกับศัตรูของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งบางครั้งไม่ใช่แต่คนในพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสมาชิกบางคนของพรรคประชาชนกัมพูชา

ฮุน มานิต ไม่ได้ไปร่ำเรียนวิชามาจากประเทศรัสเซียที่บิดาของตนเคยอยู่ภายใต้การปกครองลัทธิเดียวกัน แต่เขาไปศึกษาแขนงดังกล่าว ถึงระดับมหาบัณฑิตจากสหรัฐอเมริกา

และดูเหมือนว่า วิถีแบบ “ชนชั้นพิเศษ” ที่มากไปด้วยทฤษฎีศาสตร์การเมืองในแบบของบิดาของตน ขณะเดียวกัน 3 ศรีพี่น้องฮุน มาเนต ฮุน มานิต และฮุนสุดท้องน้องชาย มานี ก็เปรียบเสมือนเปลือกไข่ในชั้นหินที่ถูกห่อหุ้มไว้หนาแน่น จนไม่มีวันที่พวกเขาจะหล่นร่วงไปสู่ชั้นดินได้

ด้วยองคาพยพทางอำนาจของบิดาที่ยิ่งใหญ่ปานนั้น

ด้วยบารมีเหนือดินและฟ้าของสมเด็จฮุน เซน ที่มากมายปานฉะนี้

และที่สำคัญคือ การที่คนหนุ่มตระกูลฮุนทั้งสาม เลือดเนื้อสายตรงของสมเด็จเดโช ล้วนแต่ได้รับการปูพื้นฐานการศึกษาจากสถาบันชั้นนำตะวันตกในแต่ละสาขา (อเมริกา อังกฤษและออสเตรเลีย)

โดยเหตุนี้ จึงแทบมองไม่เห็นเลยว่า ปัจจัยอะไรที่มาทำให้ทายาทของเดโชฮุนต้องถึงกาลวินาศ

 

โดยส่วนการงานของฮุน มานิต นั้น เต็มไปด้วยภารกิจลับในหน่วยของตนและกรณีจำเป็นที่ต้องสนธิกำลังกับหน่วยพิเศษ ทุกสิ่งในนิยามที่มองเห็นจากภายนอกดูราวจะเพียบพร้อม แต่บางครั้งศัตรูที่เดินขนานไปกับตน และสิ่งที่เขาอาจมอง “ไม่เห็น” โดยเฉพาะการสู้กับเทคโนโลยีและสื่อโซเซียล

เมื่อต้องเติบโตมากับแวดวงสีเทาแห่งสำนักงานสายลับของบิดา และสร้างเครือข่ายใยแมงมุมที่ดักทำลายกลุ่มศัตรูการเมืองของฝ่ายบิดา

บทบาทฮุน มานิต และพวก ที่ผ่านมามีหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลัง การ “ดักฟัง” โทรศัพท์ทุกคนที่อยู่ในรายชื่อ-ร่างแหที่จะนำไปสู่เงื่อนไขในการดับชะตากรรมคนกลุ่มดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น นายสัม รังสี หรือ นายกึม สกขา ที่ต้องลี้ภัยต่างแดนและติดคุก

ทั้งการสร้างมีกระบวนการเปิดโปงความสัมพันธ์ลับๆ ของกึม สกขา กับหญิงอื่นและนำไปสู่การจับกุมคดีอื่นๆ ที่ตามมา

ไม่เพียงเท่านั้น มีหลักฐานที่หลุดจากแชตไลน์ส่วนตัวระหว่างฮุน มานิต และธี สุวันธา-เน็ตไอดอลที่ถูกกล่าวหาว่ารับจ้างเป็นสปายเพื่อบ่อนทำลายพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) เมื่อปีกลาย

เริ่มมีสัญญาณให้เห็นแล้วว่า มีกลุ่มที่ตั้งตนเป็นศัตรูองคาพยพสมเด็จฮุน เซน โดย “แฮ็ก” และมุ่งเจาะฐาน ไม่ต่างจากที่กลุ่มฮุนเซนได้ทำแก่ศัตรูของตน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน และนั่นเมื่อเหตุที่ฝ่ายลูกๆ สมเด็จฮุน เซน เพลี่ยงพล้ำ พวกเขามักจะ “เงียบ” และเลือกที่จะ “ไม่ให้คำตอบแก่สังคม”

แต่ฮุน มานิต ก็พอจะเอาตัวรอด จากการที่เขาเทรนตัวเองตามฉบับองค์กรลับลวงพราง

 

บุตรชายคนที่สองของสมเด็จฮุน เซน คนนี้ ยังเป็นคนเดียวที่เล่นโซเซียลน้อยเมื่อเทียบกับพี่และน้องชาย ไม่ทำตัวเป็นเป้าล่อและทิ้ง “ร่องรอย” ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตามทำลาย

กงการที่อัญ-ขญม นึกห่วงแบบห่างๆ คือความเป็นลูกชายคนกลางที่ “ถูกลืม” โดยฮุน มานิต นั้น มักปลีกเร้นจากการแสดงตนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นพิธีสมโภชน์ งานมงคลสมรสและโซเซียล ฮุน มานิต “อเปหิ” ตนได้ดีเยี่ยมโปรไฟล์การงานและสังคม

ชีวิตในงานหน่วยเหนือของเขาดูราวกับไม่ใช่เรื่องหรรษา แต่ดูจะเหมาะกับฮุน มานิต โดยเฉพาะการเรียนรู้ศัสตราอาวุธและความน่าหลงใหลในแบบชายชาตรียุคก่อน ซึ่งอาจจะไม่พ้องกับยุทธศาสตร์ทางเทคโนโลยีที่คุกคามหน่วยงานของเขาสักเท่าใด

และวิถีใหม่นี้เอง ที่กำลังคุกคามต่อองค์กรการเมืองของบิดา โดยเฉพาะพวกที่มีเป้าหมาย “เปิดโปง” ทุกอย่างของสมาชิกตระกูลอย่างพวกนักรบไซเบอร์และแฮ็กเกอร์ ซึ่งหน่วยหลังนี้เอง ที่มักจะโจมตีจุดอ่อนของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งพบว่ามันอยู่ตรงชีวิตส่วนลูกๆ ของเขา

ซึ่งแต่ละท่านล้วนแต่มีรสนิยม “แปลก” พิสดารไปตามละบุคคล

 

เริ่มจากฮุน มานา “คีย์แมนเศรษฐกิจ” คนสำคัญ ผู้สร้างความมั่งคั่งทั้งหมดของตระกูลสมเด็จฮุน เซน

กล่าวกันว่า กว่ากึ่งหนึ่งซึ่งถือครองผ่านธุรกิจสัมปทานทั้งของรัฐและเอกชนโดยกลุ่ม “ออกญาทั้งห้าและหก” ซึ่งทั้งหมดมีทั้งที่เป็น “นอมินี” ช่วยถือครองกิจการแทนตระกูลฮุนประเภทหนึ่ง และอีกประเภทหนึ่ง คือในฐานะ “หุ้นส่วนร่วมกัน”

ความร่ำรวยทรัพย์สินที่ผ่านมาทางธุรกิจตัวแทนและอื่นๆ โดยนอกจาก “ออกญาทั้งห้าและหก” แล้ว ฮุน มานา ยังผ่านการถือครองธุรกิจอื่นต่อญาติพี่น้องและคนครอบครัว โดยเฉพาะกิจการสัมปทานสำคัญ อาทิ การพลังงาน การสื่อสารโทรคมนาคม บ่อนกาสิโน การบันเทิงและท่องเที่ยว ฯ

จำนวนนี้ ยังล้วนแต่เป็นอภิเมกะโปรเจ็กต์ระดับร้อยล้านพันล้าน ซึ่งมีฮุน มานา ฮุน มาลี-น้องสาว หรือภริยาของพี่ชายคนใดหรือหลายคนร่วมกันถือครอง

โดย “ออกญาทั้งห้าและหก” ที่ฮุน มานา ทำงานใกล้ชิดนั้น ส่วนหนึ่ง 3 ใน 4 คือคนรุ่นเดียวกับบิดา ส่วนใหญ่ถือครองกิจการดั้งเดิม เช่น การเกษตรกรรมและโรงงานผลิต ขณะที่กลุ่มออกญาหนุ่มรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ถือ 2 สัญชาติ กลุ่มนี้มีทักษะด้านการติดต่อและการลงทุนร่วมกับต่างชาติที่สร้างความร่ำรวยอย่างมากต่อสมเด็จฮุน เซน นับแต่ปีสหัสวรรษ (ค.ศ.2000)

และพอพ้นกึ่งทศวรรษที่ 2 เท่านั้น ความสำเร็จจากการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 7.5 อย่างต่อเนื่อง ได้ส่งอิทธิพลต่อฮุน มานา เมื่อบิดาของเธอนั่นเองที่ได้ลงทุนกิจการต่างๆ อย่างลับๆ ผ่านทาง “ออกญารุ่นใหญ่” อย่างลี ยงพัต มง ฤทธี เท่ง บุนมา ฯ

ฮุน มานา ซึ่งมีตำแหน่งนำหน้านาม “ท่านผู้หญิง/โลกจุมเตียว” อันได้มาจากความเป็นบุคลผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งหมายถึงการตัวแทนของบิดา

และนี่คือการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของอดีตเด็กสาวคุณหนูลูกนายกรัฐมนตรี ที่มีอุปนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง และจากเด็กสาวแนวบุคลิกอ่อนหวานตามค่านิยมของบิดา เธอได้พัฒนาตนเองเป็นนักธุรกิจแถวหน้า

 

ใครเล่าจะเชื่อฮุน มานา คนนี้ ซึ่งเมื่ออดีตยังวนเวียนกับมนต์ดำกาลี ชิงรักหักสวาทกับญาติผู้พี่ที่ชื่อฮุน จันทา นั่นคือ โดยการชิงมึง กุมเพียะ คนรักของจันทามาเป็นสามีตน จากบารมีของพ่อที่ทำให้เธอเป็นฝ่ายเลือกคู่ครอง อย่างบรรลุวัตถุประสงค์

แต่ความแนบแน่นทางครอบครัวสองฝ่ายชายหญิง และการมีลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจ ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรักซึ่งเธอไม่อาจบงการนี้ ประสบความสำเร็จเยี่ยงที่สมเด็จพ่อฮุน เซน ปรารถนา

หลายปีที่ความสัมพันธ์รักใคร่ของลูกสาว-ลูกเขย-หลานสาว-หลานเขยสลับขั้วกันไปมา ได้สร้างความรู้สึกเศร้าหมองต่อฮุน เซน ผู้ได้ชื่อว่าถือคติจารีตนิยม

จนฮุน มานา แต่งงานใหม่อีกครั้งกับดี วิจิต (2552) บุตรชายของเพื่อนเกลอ ฮก ลองดี ซึ่งเป็นทั้งอดีตหลานเขย-และสามีฮุน จันทา (อีกแล้ว)

แต่นั้นมา ความบาดหมางครั้งใหญ่ในหมู่พี่น้องตระกูลฮุน ตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูกก็ยังคาราคาซังในบุพกรรมอันยากอธิบายทั้งหลายนี้ ล้วนแต่สร้างความเจ็บปวดอย่างมากต่อสมเด็จฮุน เซน อยู่รางๆ เมื่อเกิดความเหินห่างระหว่างเขากับพี่ชายฮุน เนง ครั้งนั้น ก็ยังไม่เคยกลับไปพบว่า “มีการพบปะสังสรรค์ในหมู่ตระกูลทุกฝ่าย” ดังที่เคยจัดมาทุกปี

กระนั้น ก็ปมขมวดใหม่ลงไปอีก

เมื่อฮุน มานี ได้กลายเป็นเหยื่อของฮุน โต พี่ชายสุดเลิฟของฮุน จันทา ซึ่งกล่าวกันว่า เขากลับมาแก้แค้นเอาคืนให้แก่น้องสาวด้วยการแย่งภริยาของฮุน มานี มาครอบครอง

ท่ามกลางสถานการณ์ที่กล่าวกันสนั่นลั่นเมืองเหมือนไฟลามทำเนียบตาเขมรว่า

บุตรชายคนสุดท้องของสมเด็จฮุน เซน ผู้นี้ถูกกล่าวหา มีอุปนิสัย “วิตถาร” ชอบเสพกามแบบ “วิปริต”