พิศณุ นิลกลัด : คุณตาอายุ 106 ปี แข่งขันปั่นจักรยาน

พิศณุ นิลกลัด

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คุณตาโรแบร์ มักชอง (Robert Marchand) ยอดนักปั่นจักรยานชาวฝรั่งเศสวัย 106 ปี เจ้าของสถิตินักปั่นจักรยานแข่งขันอายุมากที่สุดในโลก ออกมาประกาศว่ายังไม่เลิกแข่งขันขี่จักรยานตามที่สื่อฝรั่งเศสลงข่าวเมื่อเดือนมกราคมเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าคุณตาโรแบร์ตัดสินใจรีไทร์ เพราะแพทย์ประจำตัวไม่อยากให้คุณตาโรแบร์ต้องฝึกซ้อมหนักและกดดันตัวเองในการสร้างสถิติโลกต่างๆ หลังจากมีอายุครบ 106 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

คุณตาโรแบร์ได้โชว์ความแข็งแรงปั่นจักรยานรอบสนามแข่ง 16 รอบ

พร้อมกับบอกว่า ตัวเองเป็นคนตัดสินใจว่าจะลงแข่งต่อไปหรือเลิก ไม่ใช่แพทย์เป็นคนตัดสินใจให้ ซึ่งตั้งใจจะขี่จักรยานแข่งขันไปตราบเท่าที่ขายังเหยียดได้

และคุณตาต้องการแสดงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า หากสุขภาพยังดี ก็ยังสามารถทำในสิ่งที่ปรารถนาได้

 

สถิติโลกล่าสุดที่คุณตาโรแบร์สร้างไว้คือเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้วตอนอายุ 105 ปี โดยเป็นผู้มีอายุในกลุ่ม 105 ปีขึ้นไป ที่ขี่จักรยาน 1 ชั่วโมง ได้ระยะทางไกลที่สุดในโลก ขี่ได้ถึง 22.528 กิโลเมตร

ในปี 2014 ตอนคุณตาโรแบร์อายุ 103 ปี ได้สร้างสถิติโลกด้วยการเป็นผู้มีอายุในกลุ่ม 100-104 ปี ที่ขี่จักรยาน 1 ชั่วโมงได้ระยะทางไกลที่สุดในโลก ขี่ได้ถึง 26.9 กิโลเมตร

ทำลายสถิติโลก 24.25 กิโลเมตร ที่ตัวเองทำไว้ตอนอายุ 101 ปี

 

เมื่อปลายปีที่แล้ว มีการรายงานผลการศึกษาความแข็งแรงเหนือมนุษย์ของคุณตาโรแบร์ตีพิมพ์ในนิตยสาร Journal of Applied Physiology โดยมหาวิทยาลัยเอฟรี่ วาล เดเซิน (Universit? d”Evry Val d”Essonne) ประเทศฝรั่งเศส

ทางคณะผู้ศึกษาได้เชิญคุณตาโรแบร์เข้าทดสอบสมรรถภาพของร่างกายตอนคุณตาอายุ 101 ปี ทดสอบเป็นเวลา 2 ปี เพื่อหาค่า VO2 Max (วีโอทู แม็กซ์) ของคุณตา โดยให้คุณตามาปั่นจักรยานบนเครื่อง VO2 Max ซึ่งเป็นเครื่องวัดระดับความฟิตหรือความอึดของร่างกาย โดยวัดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ออกซิเจนของร่างกายผู้เข้ารับการทดสอบว่ามีความสามารถที่จะดึงออกซิเจนจากเลือดส่งไปยังกล้ามเนื้อเพื่อใช้เผาผลาญสารอาหารได้สูงสุดเพียงใด

นักกีฬาที่มีความฟิตต่ำหรือมีค่า VO2 Max ต่ำ จะผลิตกรดแล็กติกเร็วและเกิดความเหนื่อยล้าในกล้ามเนื้อมากกว่านักกีฬาที่มีความฟิตสูงหรือมีค่า VO2 Max สูงในการออกกำลังระดับความหนักเดียวกัน

จากการหาค่า VO2 Max ของคุณตาโรแบร์เป็นเวลา 2 ปีตอนอายุ 101-103 ปี พบว่าค่า VO2 Max ตอนอายุ 103 ปี เพิ่มขึ้นกว่าตอนอายุ 101 ปี

หมายความว่าคุณตาโรแบร์ยิ่งอายุมากยิ่งฟิต ยิ่งอึด มีความแข็งแรงพอๆ กับผู้ชายอายุ 42-61 ปี

 

ช่วงเวลา 2 ปีที่ทำการทดสอบสมรรถภาพของคุณตาโรแบร์ เป็นช่วง 2 ปีที่คุณตาโรแบร์ฟิตซ้อมร่างกายเพื่อทำลายสถิติโลกของตัวเองที่ทำไว้ตอนอายุ 101 ปี ขี่จักรยานได้ 24.25 กิโลเมตรภายในเวลา 1 ชั่วโมง

และตอนอายุ 103 ปี สามารถขี่ได้ในระยะทางไกลขึ้นอยู่ที่ 26.9 กิโลเมตร เร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบกับตอนอายุ 101 ปี

การที่คุณตาโรแบร์ ยิ่งแก่ ยิ่งฟิต และยิ่งอึด แสดงให้เห็นว่าร่างกายของมนุษย์ไม่มีขีดจำกัดว่าจะฝึกซ้อมออกกำลังให้ร่างกายฟิตขึ้นจนถึงอายุเท่าไหร่ ร่างกายของมนุษย์เราแทบทุกคนตอบรับกับการฝึกซ้อมออกกำลัง

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายไม่จำเป็นที่จะต้องเสื่อมลงเสมอไป หากรู้จักดูแลรักษาสุขภาพและออกกำลังกาย

 

คุณตาโรแบร์ซื้อจักรยานคันแรกในปี 1925 ตอนอายุ 14 ปี ซื้อเพื่อลงแข่งขันจักรยาน

ตอนลงแข่ง คุณตาโรแบร์ต้องใช้ชื่อปลอม และโกหกว่าตัวเองอายุ 15 ปี เพราะผู้จัดการแข่งขันออกกฎไว้ว่าผู้แข่งขันต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป

ลงแข่งจักรยานครั้งแรกในชีวิต คุณตาโรแบร์ก็ได้แชมป์ทันที

คุณตาโรแบร์ฝันที่จะเป็นนักปั่นจักรยานอาชีพตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความสูงเพียง 152 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าตัวเล็กเกินไปสำหรับการเป็นนักปั่นอาชีพ คุณตาจึงต้องล้มเลิกฝันและหันไปทำงานอย่างอื่น ซึ่งก็ทำงานมากมายหลายอาชีพ เช่น ตำรวจดับเพลิง, เลี้ยงไก่, ปลูกผัก, ขายรองเท้า และขายไวน์ ทำให้ห่างเหินการขี่จักรยานไปนาน

จนกระทั่งอายุ 67 ปี คุณตาตัดสินใจซื้อจักรยานเพื่อลงแข่งขัน โดยลงแข่งขันเมื่อมีเวลาว่างจากงาน ซึ่งคุณตาโรแบร์ทำงานจนกระทั่งถึงอายุ 89 ปี จึงตัดสินใจเกษียณ และหันมาฝึกซ้อมปั่นจักรยานเพื่อการแข่งขันอย่างจริงจัง

ในวัย 89 ปี คุณตาโรแบร์ได้ทำสิ่งที่น่าทึ่งด้วยการร่วมแข่งขันปั่นจักรยานจากเมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ไปยังกรุงปารีส ซึ่งมีระยะทาง 600 กิโลเมตร ภายในเวลารวม 36 ชั่วโมง

 

ถามคุณตาว่ามีเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตอย่างไรถึงได้แข็งแรงในวัยเกิน 100 ปี

คุณตาโรแบร์ตอบว่า กินผัก-ผลไม้เยอะๆ กินเนื้อน้อยๆ ไม่ดื่มเหล้ามากเกินไป ไม่สูบบุหรี่ เดินสายกลาง ไม่ทำอะไรสุดโต่ง

คุณตาบอกว่ามีสิ่งเดียวที่คุณตาทำอย่างสุดโต่งก็คือทำงาน โดยทำงานปลูกผัก ขายไวน์ ขายโน่นขายนี่จนกระทั่งถึงอายุ 89 ปี

คุณตาบอกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่มีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง และแนะนำวัยรุ่นและคนสูงอายุว่า ให้เคลื่อนไหวออกกำลังเป็นประจำทุกวัน หลายคนพออายุเลย 80 ปี ก็หยุดการเคลื่อนไหว นั่งเฉยๆ หรือเล่นไพ่แก้เบื่อ แต่นั่นไม่ใช่ชีวิตของคุณตา เพราะตัวเองไม่เคยอยู่นิ่ง

คุณตาโรแบร์บอกว่าการทำกิจกรรมตลอดเวลาจะช่วยไม่ให้แก่เร็ว ซึ่งการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ควรปฏิบัติ

สำหรับเหตุผลที่ยังไม่คิดจะรีไทร์การเป็นนักปั่นจักรยานแข่งขันในวัย 106 ปีนั้น คุณตาโรแบร์บอกว่า ไม่ได้ต้องการที่จะสร้างสถิติโลก

แต่ต้องการเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถ้าดูแลเอาใจใส่สุขภาพ ก็ยังสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ แม้จะสูงวัย