ยานยนต์
สันติ จิรพรพนิต
[email protected]

‘new A8 L’ หล่อโฮก

รถธงรุ่นใหม่จาก ‘Audi’

ย่างเข้าเดือนมีนาคม ได้ไม่กี่มากน้อย ผมมีโอกาสเดินทางไปทดสอบรถยนต์แบบ “กลุ่ม” กับบริษัท อาวดี้ ประเทศไทย ที่เชิญสื่อมวลชนหลายสิบชีวิตขับรถอาวดี้รุ่นต่างๆ ถึง 40 คัน!!
ใช่ครับ 40 คัน…ถือว่าเป็นการทดสอบรถหรูที่กลุ่มใหญ่มาก (ก.ไก่ ล้านตัว)
สำหรับผมแล้วการตกปากรับคำเดินทางไปทดสอบรถแบบกลุ่มเกิดขึ้นน้อยมากถึงน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นคนไม่ตื่นเช้า และการทดสอบกลุ่มส่วนใหญ่นัดกัน 7-8 โมงเช้าทั้งนั้น
ถ้าผมจะไปคงต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวล่ะครับ
แล้วจะตื่นได้ยังไงไหวเพราะเป็นคนเข้านอนประมาณ ตี 3-4 ทุกวัน เนื่องจากในวันทำงานปกติช่วงบ่ายถึงค่ำต้องดูแลปิดข่าวหน้า “เศรษฐกิจ” หนังสือพิมพ์ข่าวสด สลับกับการดูแลเพจเฟซบุ๊ก Khaosod Motor ž(ข่าวสด รถยนต์) ที่เปิดมาได้ปีนิดๆ กับแฟนเพจเกิน 3 หมื่นคนไปแล้ว
พอตกดึกก็เริ่มเขียนงานปิดหน้ารถยนต์ หรือดูรายงานเศรษฐกิจที่ค้างๆ อยู่
แถมก่อนนอนยังมีนิสัยต้องอ่านหนังสืออีก 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นด้วย
จึงน้อยมากที่ผมจะไปทดสอบแบบกลุ่มกับเพื่อนๆ สื่อมวลชนสายรถยนต์ แทบทุกทริปจะให้น้องนักข่าวโต๊ะ “รถยนต์ ข่าวสด” ไปเสียมากกว่า
แต่สำหรับอาวดี้ ที่ตกปากรับคำไปเนื่องจากเขานัดกันตอนเที่ยง แล้วล้อหมุนตอนบ่ายๆ ตื่นสัก 10 โมงก็ไปทันได้สบายๆ
ทริปไปกับอาวดี้ ผมได้ขับรถเอสยูวีหรู “Q7” สนุกพอสมควรและประทับใจหลายๆ อย่าง
แต่ฉบับนี้ยังไม่เล่าเรื่องการทดสอบนะครับ เพราะงานทดสอบครั้งนี้อาวดี้ถือโอกาสเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เป็นรุ่นแรกของปีคือ “The new Audi A8 L”
ขอนำรายละเอียดรถรุ่นใหม่ ที่อาวดี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นรถธงในปีนี้มานำเสนอก่อน

สาหรับอาวดี้ ประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ “กฤษฎา ล่ำซำ” ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร เพิ่งมาทำตลาดบ้านเราเมื่อต้นปี 2560 นี่เอง แต่ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะปีแรกกวาดยอดขายมากถึง 610 คัน กับรถหรูราคาหลายล้าน ยอดขายถือว่าน่าทึ่งมาก
ปีนี้อาวดี้ประกาศยอดขายเท่าตัวถึง 1,200 คัน โดยผู้บริหารมั่นใจว่าด้วยหลายๆ ปัจจัยเชื่อว่าทำได้ตามเป้า ทั้งการเปิดดีลเลอร์ใหญ่เพิ่มรวมเป็น 6 แห่ง จากเดิมมีแห่งเดียว
แต่ปัจจัยสำคัญคือรถใหม่ๆ ที่จ่อคิวเข้ามาทำตลาดต้องถือว่าทีเด็ดทั้งสิ้น
เริ่มต้นด้วยรุ่น “new Audi A8 L” นี่แหละ
“Audi A8 L” เป็นรุ่นโมเดลเชนจ์ หน้าตาหล่อหรู ดูสปอร์ตมาก ด้านหน้าออกแบบให้เป็นแนวกว้าง กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวยกสูงขึ้น ตัวถังเน้นเส้นสายแนวนอน ทำให้รถดูมีไดนามิก การเคลื่อนไหว พื้นผิวตัวถังออกแบบให้มีมัดกล้ามเพิ่มอารมณ์สปอร์ต
จุดเด่นด้านหน้าต้องยกให้ไฟหน้าเป็นแบบแมทริกซ์ แอลอีดี ประกอบไปด้วยไฟ LED ข้างละ 84 ดวง ควบคุมการทำงานอิสระ ทำให้ได้ลำแสงที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานทุกเส้นทางและไม่รบกวนผู้อื่น
การปรับการทำงานของหลอด LED ต่างๆ จะสั่งการผ่านชุดควบคุมการทำงานที่ได้ข้อมูลมาจากกล้องหน้ารถ ทำให้มีความแม่นยำสูง พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ล้อโตขนาด 20 นิ้ว เต็มซุ้มล้อพอดีๆ

ภายในเน้นใช้วัสดุที่มีคุณภาพและผลิตในรูปแบบแฮนด์เมด จากขนาดตัวถังที่ยาวถึง 5,302 ม.ม. กว้าง 1,945 ม.ม. และสูง 1,485 ม.ม. ระยะฐานล้อที่ยาว จึงได้ความกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกตำแหน่งที่นั่ง พื้นที่ช่วงขาเพิ่มขึ้น เพิ่มความสบายด้วยที่พักเท้าซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การใช้งานภายในเน้นความล้ำสมัยมากขึ้น แต่ก็ง่ายต่อการใช้งานตามแนวคิด “Audi Touch Response”
ออกแบบให้มีระบบควบคุมการทำงานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยใช้ระบบดิจิตอลเข้ามาทดแทน ปุ่มต่างๆ ทั้งหมด (fully digital) ไม่ว่าจะเป็นปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง ระบบปรับอากาศ รวมถึงมาตรวัดต่างๆ ทั้งความเร็ว รอบการทำงานของเครื่องยนต์ ก็ควบคุมด้วยปุ่มดิจิตอล ซึ่งจะแสดงขึ้นมาบนหน้าจอเมื่อเปิดรถ แต่หากดับเครื่อง หน้าจอก็จะกลับสภาพเป็นจอดำ กลมกลืนไปกับชุดคอนโซลหน้า
การควบคุมสามารถสั่งงานผ่านจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว หรือสั่งงานผ่านระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว หรือผ่านทางพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นก็ได้เช่นกัน
จอทัชสกรีนยังใช้แสดงผลการทำงานของระบบนำทาง MMI Navigation Plus ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนำทางที่ล้ำสมัย แสดงผลแบบ 3 มิติ ที่ให้คุณภาพระดับไฮ-เรส ช่วยให้ภาพคมชัด มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น

ขณะที่ตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลังที่ดูเหมือนจะเน้นเป็นพิเศษ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ในรถด้วยชุดรีโมตคอนโทรลที่ติดตั้งมาให้ พร้อมจอทัชสกรีนสำหรับการสั่งการทำงานแบบไฮ-เรส ขนาด 5.7 นิ้ว ใกล้เคียงกับขนาดของโทรศัพท์มือถือทั่วไป
ผู้โดยสารด้านหลังสามารถควบคุมได้ทั้งการเปิดระบบอุ่นเบาะนั่ง การปรับตำแหน่งเบาะนั่ง ระบบปรับอากาศที่เป็นแบบอัตโนมัติแยก 4 โซน หรือว่าเปิดระบบนวด ม่านบังแดด
ติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาด 10.1 นิ้ว ที่ไม่สะท้อนแสง บริเวณหลังพนักพิงศีรษะคู่หน้า เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
อีกจุดเด่นคือหลังคาออกแบบให้เป็นแบบพาโนรามิกกลาส 2 ชั้น ทำให้มีความแข็งแรง และลดเสียงรบกวนจากภายนอก มีขนาดใหญ่ตั้งแต่บริเวณเบาะนั่งด้านหน้าไปถึงด้านหลัง ช่วยให้รถโปร่งโล่ง หรูหรา และมีแผ่นบังแดดที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
new Audi A8 L มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V 6 สูบ 2,995 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptronic อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 5.37 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อันเลื่องชื่อของอาวดี้
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมปรับระดับได้ เรื่องความนุ่มนวลและเกาะถนนหายห่วง
ความปลอดภัยครบถ้วน นึกไม่ออกว่าขาดอะไรไปบ้าง เพราะใส่มาเพียบจริงๆ
มีให้เลือก 6 สี 2 รุ่นย่อย
A8 L 55 TFSI quattro Premium ราคา 6,799,000 บาท
A8 L 55 TFSI quattro Prestige ราคา 7,999,000 บาท