เสกขภูมิ วรรณปก : กีเยร์โม เดล โตโร เจ้าพ่อแห่งสัตว์ประหลาด

เส้นทางอาชีพที่สุกสกาวของกีเยร์โม เดล โตโร ถูกสร้างขึ้นมารอบๆ โลกที่น่าอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด เป็นจักรวาลที่ซับซ้อน ซึ่งเขาบอกว่าเขาสร้างขึ้นมาเมื่อมีอายุได้ราว 11 ปี

นักสร้างภาพยนตร์ชาวเม็กซิโกที่ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา จากหนังรักแฟนตาซีที่ชุ่มฉ่ำเรื่อง “เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์” ผู้นี้ เป็นที่รู้จักดีจากสัตว์ประหลาด แวมไพร์ และซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ในผลงานการสร้างสรรค์ของเขา

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยกเขาขึ้นไปบนหิ้งที่เต็มไปด้วยรางวัลซึ่งรวมถึงลูกโลกทองคำ ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์อเมริกา บาฟตา และถึงตอนนี้ก็เป็นออสการ์

และทั้งหมดนี้ปรากฏขึ้นมาจากประสบการณ์ของเด็กน้อยที่เติบโตขึ้นมาในรัฐกวาดาลาฮาราของเม็กซิโก ผู้ชื่นชอบในการสำรวจท่อระบายน้ำ ลุ่มหลงในมนต์ดำ และมีมนุษย์หมาป่าสตัฟฟ์ไว้ในครอบครอง

 

เดล โตโร วัย 53 ปี เรียก “เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์” ว่าเป็นหนัง “แห่งการเติบโต” เรื่องแรกของเขา

ภาพยนตร์ที่ไม่สามารถระบุแนวได้ชัดเจนเรื่องนี้มีฉากหลังอยู่ในช่วงยุคสงครามเย็น เป็นเรื่องราวความรักระหว่างภารโรงใบ้ที่ศูนย์วิจัยลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐกับสิ่งมีชีวิตสะเทินน้ำสะเทินบกแปลกประหลาดที่ถูกกักขังไว้ที่นั่น

“นี่เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมที่สุดของเขาจนถึงทุกวันนี้” เลโอนาร์โด การ์เซีย เซา นักวิจารณ์หนังชาวเม็กซิโกที่เป็นเพื่อนกับเดล โตโร มายาวนานกล่าว และว่า

“มีองค์ประกอบของเดล โตโร จากหนังเรื่องก่อนๆ ที่หายไป นั่นคืออารมณ์ขัน”

หนังของเดล โตโร เรื่องก่อนหน้านี้ อาทิ “แพนส์ เลบีรินธ์” และ “เดอะ เดวิลส์แบ็กโบน” ทั้งสองเรื่องถ่ายทำในสเปน และมีฉากหลังอยู่ในช่วงเวลาของสงครามกลางเมืองสเปนและช่วงเวลาหลังจากนั้น มืดหม่นมากกว่า โดยพูดถึงธีมอย่างความสูญเสียและความโหยหา

ขณะที่ “เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์” นั้น โดยแก่นแท้แล้วเป็นหนังที่มองโลกในแง่บวก

แต่เส้นเรื่องที่รัดรึงผ่านหนังทั้งหมดของเขาคือสัตว์ประหลาดที่แสนวิเศษและวายร้ายในคราบมนุษย์ซึ่งเดล โตโร ใส่เข้าไปในหนังและกลายเป็นปีศาจที่แท้จริง

 

เดล โตโร เติบโตขึ้นมาในครอบครัวคาทอลิกที่เคร่งครัดโดยมีแม่เป็นกวีแต่งบทกลอนและหมอดูไพ่ทาโร่ต์ และพ่อที่ถูกลอตเตอรี่เมื่อเดล โตโร อายุยังน้อย และใช้เงินจากแจ๊กพ็อตที่ได้รับสร้างอาณาจักรค้าขายรถยนต์

เมื่อตอนเป็นเด็ก เดล โตโร เกือบจะเปลี่ยนแมนชั่นที่หรูหราฟู่ฟ่าทันสมัยของครอบครัวให้กลายเป็นบ้านผีสิงที่เต็มไปด้วยงูหลายร้อยตัว อีกาหนึ่งตัวและหนูจำนวนมาก ที่บางครั้งเขานอนกอดพวกมันอยู่บนเตียง

“นั่นคือตัวผมในแง่ของความหมกมุ่นในศิลปะ เรื่องที่ผมเล่ามาจากช่วงชีวิต 11 ปีแรกของผม” เดล โตโรให้สัมภาษณ์กับนิตยสารกาโตปาร์โด ของเม็กซิโก

“ผมคิดว่าแก่นสารที่แท้จริงว่าเราเป็นใครนั้นเกิดขึ้นในช่วงอายุแรกเริ่มของเรา หลังจากนั้นแล้วเราใช้ชีวิตของเราซ่อมแซมสิ่งที่เสียหายและสร้างสิ่งที่ยังคงอยู่”

ยายของเขามีอิทธิพลสำคัญต่อตัวเขามาก และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเด็กๆ และผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญในหนังหลายๆ เรื่องของเขา

 

หนังเรื่องแรกของเดล โตโร “โครโนส” ในปี 1993 บอกเล่าเรื่องราวของแวมไพร์สูงอายุที่ไม่ต้องการมีชีวิตนิรันดร์ กับหลานสาวที่คอยช่วยเหลือ

เป็นหนังเรื่องเดียวของเขาที่ถ่ายทำในเม็กซิโก ประเทศบ้านเกิดที่เขาจากมา เมื่อปี 1998 หลังจากพ่อของเขาถูกลักพาตัวแลกกับเงินค่าไถ่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเดล โตโรจ่ายเงินก้อนนี้ได้ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนผู้กำกับอย่างเจมส์ คาเมรอน

“เป็นเรื่องที่เราไม่เคยพูดถึง” มารีอาโน อาปาริซิโอ เพื่อนในวัยเด็กของเดล โตโร บอก

หนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกของเดล โตโร คือ “มิมิค” ในปี 1997 ที่เขาพูดถึงมันว่าเป็นโครงการน่ารังเกียจที่ควบคุมจำกัดความคิดสร้างสรรค์และการปฏิบัติต่อทีมงานอย่างย่ำแย่ของฮาร์วีย์และบ๊อบ ไวน์สตีน

หลังจากนั้นเขายืนยันที่จะใส่ลายเซ็นของตนเองในหนังทุกเรื่องของเขา

 

เอ.พี. กอนซาเลซ ศาสตราจารย์กิตติคุณแห่งภาควิชาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (ยูซีแอลเอ) ชื่นชมเดล โตโร ว่า “เขาเป็นศิลปินที่แท้จริง”

เดล โตโรเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียกขานกันว่า “ทรีอามีโกส์” หรือ 3 สหายแห่งวงการหนังเม็กซิโก ร่วมกับผู้กำกับรางวัลออสการ์ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาริตู (เบิร์ดแมน, เดอะเรเวแนนท์) และอัลฟองโซ กัวรอน (กราวิตี)

“พวกเขามีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่เดล โตโร เป็นคนเดียวที่สร้างโลกอันเป็นที่น่าจดจำอย่างมากขึ้นมาได้” การ์เซีย เซา บอก