ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ/Love Per Square Foot

ใส่บ่าแบกหาม

พรพิมล ลิ่มเจริญ

Love Per Square Foot

เธอจ๊ะ
Love Per Square Foot เป็นหนังโรแมนติกคอเมดี้ของประเทศอินเดีย พูดภาษาฮินดี สลับกับภาษาอังกฤษ สนุกดีมาก น่ารัก เป็นเรื่องของสองหนุ่มสาวอยากมีบ้านเป็นของตนเองในเมืองมุมไบ
นางเอกสวยมาก ยิ้มสวย ร้องไห้ก็ยังสวย มาอ่านประวัติทีหลัง Alankrita Sahai พบว่านางเป็นนางงามชนะรางวัล Miss Diva Earth ปี ค.ศ.2014 เป็นนางแบบ เป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ และมาแสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก
พระเอกนางเอกของเรามีเรื่องอัดอั้นตันใจกับครอบครัวในเรื่องเดียวกัน คือเรื่องบ้าน
พระเอกของเราชื่อ Sanjay ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายไอที ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่
พ่อแม่ก็ไม่ได้ร่ำรวยเลย พ่อเป็นเจ้าหน้าที่การรถไฟ ตำแหน่งงานเล็กๆ คือเป็นผู้ประกาศสถานีรถไฟ บอกว่ารถไฟขบวนไหนมาถึงแล้ว จะออกเวลาเท่าไหร่ ก็เลยออกแนวจนยาก
บ้านที่อยู่ก็เป็นบ้านการรถไฟ อยู่กันเป็นห้องเล็กๆ เรียงแถวกันไปอย่างแออัด พระเอกไม่มีห้องเป็นของตัวเองด้วยซ้ำไป ต้องนอนกลางบ้าน
แล้วพอเวลาจะทำอะไรในบ้าน พ่อกับแม่ก็มักได้สิทธิ์นั้นก่อน ก็บ้านของเขานี่นะ

ตอนเช้าๆ ซานเจย์ชอบไปยืนแปรงฟันอยู่บนหลังคาบ้าน เฝ้ามองคนบนอาคารที่อยู่ไม่ไกล แต่ละคนมีห้องพักของตนเองแล้ว ช่างน่าอิจฉาจริงๆ หนอเรา แปรงฟันไปอิจฉาเขาไป
Your father’s done. Come down.
The bathroom is vacant now.
พ่อเสร็จแล้ว ลงมาได้
ห้องน้ำว่างแล้ว
เสียงแม่ตะโกนขึ้นมาเรียกลงไป เสียอารมณ์หมด ฝันหวานอยู่ดีๆ โดนขัดจังหวะเสียได้
What’s the point?
The pressure is gone now.
จะลงไปทำไม
ที่ปวดอยู่หายแล้ว
What’s the point? ใช้ถามเวลาโกรธ อารมณ์ไม่ดี จึงมิควรไปถามประโยคนี้กับใครสุ่มสี่สุ่มห้า
point ในที่นี้หมายถึง มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำสิ่งนั้นๆ
ถ้าไม่โกรธ ก็ถามดีๆ ใส่หัวข้อเข้าไปด้วย What is the point of…? ก็จะดูสุภาพกว่ามาก
จริงๆ พี่ซานเจย์ก็ชอบนะ ห้องน้ำเนี่ย เพราะเป็นที่เดียวในบ้านที่แกจะได้อยู่แบบส่วนตัว
แม่มาเคาะเรียกแกก็ไม่เปิด
Give me some space.
ให้ผมอยู่ส่วนตัวบ้างเหอะ
เวลาใครพูดถึง space นี่ต้องดูบริบทดีๆ ยิ่งถ้าเป็นแฟนกันยิ่งต้องดู เพราะเวลาใครสักคนพูดขึ้นมาว่า I need some space. บางทีหมายถึงขอเลิกกันไปเลย แต่บางทีจะหมายถึงแค่ไม่ต้องอยู่แบบตัวติดกันอย่างนี้ยี่สิบสี่ชั่วโมงบ้างได้หรือไม่
Your father’s retiring in a month.
Then we won’t have this space either.
เดี่ยวอีกเดือนพ่อแกก็เกษียณ
เราสองคนไม่มีที่ส่วนตัวทั้งคู่เหอะ

ซานเจย์เห็นโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ประกาศขายอาคารที่พัก ราคาพอจะเอื้อมถึงอยู่ แต่ก็ต้องไปกู้ธนาคารแหละ ก็ชนชั้นกลางนี่นะ จะไปหาเงินสดที่ไหนมี
ข้างฝ่ายนางเอกของเรา ชื่อ คาริน่า อยู่กันกับแม่สองคนและลุง บ้านที่อยู่ก็มีปัญหาเหมือนกัน ไม่มีบ้านของตัวเอง อาศัยบ้านลุงอยู่
ตลกตรงบ้านหรือห้องที่ลุงอยู่เก่ามากแล้ว แถมอยู่ชั้นล่าง พอชั้นบนทำอะไรกันที ก็ทำให้เศษฝุ่นปูนร่วงพรูลงมาใส่ ผมขาวกันไปถ้วนทั่วทุกตัวคน บางวันฝุ่นเยอะก็ต้องใส่ผ้าคาดปิดปากกันเลยแหละ
ฝันอยากมีบ้านของตนเอง มีชื่อตัวเองสลักบนแผ่นทองเหลืองติดไว้ที่ประตูหน้าบ้าน ประกาศให้โลกรู้นี่คือบ้านของฉัน ฉันเป็นเจ้าของ
แม่ไม่สนับสนุนความคิดนี้เอาเสียเลย แม่คิดแต่อยากให้ลูกออกเรือน
This building will become my grave.
Only then will you say “I do”?
ต้องรอให้บ้านถล่มใส่
แล้วจึงค่อยแต่งหรือไง?
แม่ประชดใส่เข้าให้ บางทีถึงขั้นมีปากมีเสียงกัน แม่เอาแต่อยากให้ลูกแต่งงานกับแฟนของลูกนั่นไง
I don’t want to become you!
หนูไม่อยากเป็นแม่!
คาริน่าก็หมดความอดทนบ้างอะไรบ้าง เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
Living in your brother’s house.
This charity.
Bloody helpless, homeless.
อยู่บ้านพี่ชายแม่ฟรีๆ
อย่างกับพวกไร้ที่พึ่ง ไร้บ้าน
ตะโกนเสียงดังใส่แม่ไปหลายคำ ทันใดนั้นเกมพลิก แม่ “ของขึ้น” บ้างแล้ว
I slogged day and night so
that you could go to school and all.
ฉันทำงานหามรุ่งหามค่ำ
เพื่อแกจะได้เรียนได้นู่นได้นี่
slog เป็นคำกริยา หมายถึง ทำงานนานๆ ต่อเนื่องกันไปหลายๆ ชั่วโมง ไม่ว่ามันจะเป็นงานยาก งานลำบากลำบน หรือน่าเบื่อเพียงใด ก็กลั้นอกกลั้นใจทำมันไป
Yeah! Big you’ve become.
Standing on the road
and being arrogant!
โตแล้วสินะ!
มายโสโอหังยืนกลางถนน!
คาริน่ารู้สึกผิดขึ้นมาเลย ลืมคิดไป แต่ก็ยังคงหาทางมีบ้านของตนเองต่อไป
ส่วนแฟนชายของคาริน่าก็ไม่สนับสนุนความคิดนี้
People who can’t afford their own place.
They deserve such government schemes
not you and me.
มีแต่คนที่ไม่มีเงินจะซื้อบ้านของตัวเอง
ก็อยากมีบ้านที่ทางการจัดหา
แต่ไม่ใช่คุณกับผมสิ
แกคงหมายถึงว่าเราสองคนนี้หนอ ไม่ต้องพึ่ง

พระเอกนางเอกทำงานธนาคารเดียวกัน แต่ไม่เคยเจอกัน ไปรู้จักกันในงานเลี้ยง พระเอกเห็นนางเอกครั้งแรกตอนเต้น Chicken Dance ที่ต้องเต้นไปทำท่าเป็นไก่ไป แต่เห็นเป็นภาพสโล;Nโมชั่น ตลกดี
พระเอกซานเจย์นั้นแอบกุ๊กกิ๊กกับเจ้านายไม่มีใครรู้ แต่พอบังเอิญมีโฆษณาห้องชุดที่ว่านี้ ก็เห็นโอกาสว่าจะได้ใบรับรองไปกู้เงิน
พระเอกนางเอกของเราเห็นประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน เมื่อได้รู้จักก็ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ได้รู้ว่าสนใจอาคารชุดนั่นเหมือนกันเลย เรื่องมันสนุกก็ตรงนี้ ตอนแรกว่าจะไปลงชื่อซื้อด้วยกัน แต่ไปรู้ทีหลังว่าเขาให้เฉพาะคู่ที่แต่งงานกันแล้ว สองคนก็ต่างไปเคลียร์ปัญหาของตน เคลียร์ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่บ้านเป็นความฝันสูงสุดที่ต้องทำให้สำเร็จ
ถึงจุดหนึ่ง สองคนต้องทบทวน “People first fall in love, then get married and then buy a house. But we began all wrong.” คนเขารักกันก่อน แต่งงาน แล้วค่อยซื้อบ้าน เราเริ่มผิดหมดเลย
หนังนี้ดีมีเพลงมีเต้นอย่างอินเดีย แต่เต้นแบบปัจจุบันแล้วนะ ไม่ต้องเต้นข้ามภูเขาสามลูกแบบที่เราเคยดูกันเมื่อนานมาแล้ว
ฉันชอบที่สุด มันเป็นหนังรัก เราใช่จะได้เห็นคนรักกัน แล้วยังให้เห็นความรักว่ามันจริงขึ้นมาได้ เพราะความอุตสาหะพยายาม กระบวนการจะรักกันนั้นสิสำคัญนัก
ฉันเอง