รีวิวหนังสือน่าซื้อ! : ศิลปวัฒนธรรม ฉ.กุมภาพันธ์ / เหินห่าว BUSINESS อยากเก่งธุรกิจ ต้องคิดอย่างจีน / ชายคนนั้นที่ชั้นล่าง

นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ราคา 120 บาท

พาไปสืบเสาะเรื่อง “ก๊อสซิป” ในประเด็นที่ไม่ค่อยมีใครล่วงรู้หรือพูดถึงนัก นั่นคือเมื่อพระเจ้าตากอยากเป็นราชบุตรเขยฮ่องเต้ ซึ่งหมายถึงจักรพรรดิเฉียนหลงหว่างตี้ ถึงขั้นแต่งเครื่องบรรณาการขอให้จีนส่งเจ้าหญิงจีนพระองค์ใดพระองค์หนึ่งมาถวาย ซึ่งที่ผ่านมาในทางประวัติศาสตร์มีการวิเคราะห์ได้เป็น 2 มุม คือ

1. เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทรงเลอะเลือนจริงอย่างที่มีการพยายามสร้างข้อมูลชุดนี้

หรือ 2. เป็นวิเทโศบายทางการเมืองที่ทรงพยายามนำมาใช้เพื่อสร้างบุญญาบารมีให้เป็นที่ประจักษ์

แต่เมื่อเรื่องดังกล่าวไม่มีการบันทึกหรืออ้างอิงในเอกสารหรือพระราชพงศาวดารใดๆ จึงไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง จนอาจสรุปได้ว่าเรื่องทั้งหมดถูก “เมก” ขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิวัติโค่นล้มราชบัลลังก์ในปลายสมัยกรุงธนบุรี ทั้งยังอาจมุ่งเบี่ยงเบนความสำเร็จในการส่งเครื่องราชบรรณาการแก่จีนจนได้รับการรับรองสถานะชอบธรรมจากหว่างตี้ต้าชิง ให้กลายเป็นความล้มเหลวอันน่าขบขันที่ไม่ได้เป็นราชบุตรเขย ผ่านกระบวนการ “ก๊อสซิป” ปั้นแต่งเรื่องราวขึ้นเอง ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นประเด็นหลัง

ยังมีเรื่องน่าสนใจ เช่น ไฉ่ซิ้ง : เทพแห่งทรัพย์สินของจีน เทวดาผู้มาแรงในยุคปัจจุบัน, “เมืองไทยจงตื่นเถิด” พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 ทรงปลุกจิตสำนึก “คนไทย” ให้รู้จักพึ่งตนเอง, สองทศวรรษของรัฐบาลคณะราษฎร พ.ศ.2476-2490 เป็นต้น

นิตยสาร Mother & Care ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561

เมื่อเป็นฉบับรับช่วงวาเลนไทน์ ในเล่มจึงมีเรื่องที่คุณแม่ยุคนี้ต้องรู้ทันภัยรอบตัวเพื่อช่วยให้ลูกๆ โดยเฉพาะลูกสาวไม่ตกเป็นเหยื่อของยาบางชนิดในช่วงวันแห่งความรักนี้ นั่นคือ ยาอัลปราโซแลม หรือยาเสียสาว ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อทางการค้าว่า ซาแนกซ์ แต่ก็มิได้มีแต่เจ้ายานี้เพียงตัวเดียวที่ต้องระวัง ในเล่มจึงพาไปรู้จัก 10 ยาเสียสาวที่ต้องรู้เท่าทัน พร้อมทั้งข้อควรระวังในการปฏิบัติตนไม่ให้เสียสาว การใช้โอกาสวันวาเลนไทน์สอนลูกให้รักคนอื่นเป็น รวมทั้งสอนลูกให้เข้าใจในวันที่ลูกมีแฟนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีสาระน่ารู้ อาทิ 6 เครื่องดื่มต้องห้ามกินคู่กับยา ก่อนนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า “น้ำเปล่า” นั้นดีที่สุด

หลักการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทย สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อมรรัตน์ อนันต์วราพงษ์ ผู้เขียน จำนวน 338 หน้า ราคา 350 บาท

ออกแนววิชาการชัดเจนสำหรับเล่มนี้ เพราะวัตถุประสงค์การจัดพิมพ์ระบุว่ากลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่ต้องการต่อยอดงานวิจัยด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เห็นความสำคัญของภูมิปัญญาไทย โดยใช้แนวทางวิจัยอย่างมีระเบียบแบบแผน

เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วยตัวอย่างประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ วัสดุใช้สอยจากภูมิปัญญาท้องถิ่น รูปแบบและแนวทางวิจัยทั้งในเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ การวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงปฏิบัติการและการออกแบบการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งจรรยาบรรณและจริยธรรมในการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้เพราะการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาไทยจะช่วยพัฒนาประเทศได้ไม่น้อยไปกว่าการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะเป็นการดึงเอาศักยภาพภูมิปัญญาของกลุ่มบุคคลที่มีอยู่อย่างเฉพาะในแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่ประจักษ์สู่สังคมอย่างมีเอกลักษณ์ของตนเอง

หนังสือนี้จึงทำหน้าที่เสมือนดวงไฟดวงหนึ่งที่จะช่วยให้ภูมิปัญญาไทยที่เป็นสมบัติที่บรรพบุรุษสั่งสมสืบทอดกันมา ได้พัฒนาและส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไป

ชายคนนั้นที่ชั้นล่าง สำนักพิมพ์ NANMEEBOOKS หลิงจิง ผู้เขียน ศุณิษา เทพธารากุลการ แปล จำนวน 256 หน้า ราคา 185 บาท

นวนิยายในชุดชมรมหลอนล่าผี ตอนที่ 3 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องแนวสยองขวัญ ผลงานนักเขียนสาวชาวจีนที่พยายามให้เรื่องของเธอร่วมสมัยมีความเป็นสากล

นักศึกษาสาวเดินกลับหอพักในซอยเปลี่ยวเพียงลำพัง ด้านหลังแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าลึกลับเหมือนโดนสะกดรอยตาม ยิ่งเร่งฝีเท้าหนีเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกเหมือน “เขา” ตามมาเร็วขึ้นเท่านั้น แม้แต่วินาทีที่กลับขึ้นห้องลงกลอนประตูแน่นหนา นึกโล่งใจว่าหนีพ้นแล้ว ทว่า เพียงแง้มม่านหน้าต่าง…ก็พบเขายืนรออยู่ตรงนั้น…ที่หน้าบ้าน พร้อมมองตรงขึ้นมายังเธอ

“มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ฉัน”

นั่นคือข้อความสุดท้าย ก่อนที่หญิงสาวจะหายตัวไปในห้องที่ปิดล็อกแน่นหนา เหลือไว้เพียงรอยนิ้วเปื้อนเลือดขูดเป็นสายตามผนังห้อง รอยแล้วรอยเล่า และเพิ่มมากขึ้นทุกทีทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว

จำนวนคดีคนหายค่อยเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้เหล่าสมาชิกชมรมตำนานประจำเมืองมากขึ้นทุกที หญิงสาวคนแล้วคนเล่าหายตัวไป ทำให้ชมรมมั่นใจว่า นี่คือฝีมือของ “ผู้ชายที่ชั้นล่าง” มันจะเลือกลงมือกับหญิงสาวที่อาศัยตามลำพัง และใครที่มันพาตัวไปแล้ว ก็จะไม่มีวันได้กลับมาอีกเลย…

เหินห่าว BUSINESS อยากเก่งธุรกิจ ต้องคิดอย่างจีน สำนักพิมพ์มติชน วรมน ดำรงศิลป์สกุล ผู้เขียน จำนวน 221 หน้า ราคา 240 บาท

ทั้งโลกยอมรับกันแล้วว่าจีนกำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำการตลาดของโลก การตลาดที่ทำให้เราอึ้งทึ่ง ร้องโอ้โห…

ยิ่งเมื่อนวัตกรรมทางด้านไอทีเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อน ยิ่งเสริมส่งให้จีนรุดหน้าจนยากจะไล่ตามทัน

ผู้เขียนซึ่งเป็นอดีตคนในวงการสื่อและคร่ำหวอดอยู่ในวงการไอทีทั้งในและต่างประเทศซึ่งเคยมีผลงานใน “หาวห่าว MARKETING การตลาดจีนยุคใหม่ที่คุณต้องร้องโอ้โห!” ที่ขายดิบขายดีมาแล้ว จะมาเจาะลึก ชำแหละ กลั่นกรอง สิ่งที่เรียกว่าเป็น “หัวใจ” ของความสำเร็จของธุรกิจจีนอย่างถึงแก่น โดยเฉพาะการพยายามเอาไอทีแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกกระบวนการ นับตั้งแต่เติมเต็มชีวิตผู้คนผ่านแอพพลิเคชั่นหลากหลายรูปแบบจากการสร้างสรรค์ของนักธุรกิจชื่อดังอย่าง แจ๊ก หม่า รวมถึงผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง “ไช่ฉงชิ่น” ที่ทำให้อาลีบาบาก้าวขึ้นมาเป็นบรรษัทชั้นนำในยุคไร้เงินสด

ที่สำคัญจะมาตอบคำถามสุดอินเทรนด์ว่า เหตุใดสตาร์ตอัพจีนจึงเติบโตไปพร้อมกับบริษัทใหญ่ๆ ได้โดยไม่ขัดแย้ง พร้อมตัวอย่างรูปธรรมที่น่าสนใจ

ดังนั้น หากอยากนำเข้าสินค้าจากจีน อยากเป็นดีลเลอร์สินค้าแบรนด์จีน จะเริ่มนับหนึ่งอย่างไร ก็คงต้องพลิกอ่าน รวมไปถึงพาไปรู้จักแอพพ์ “โข่วเปย” การตลาดแบบปากต่อปาก-ลูกรักคนใหม่ของอาลีบาบา ตามติดชีวิต “ฟู่เอ้อไต้” คนรวยรุ่นที่สอง ไฮโซจีนสุดอู้ฟู่ ว่าพวกเขาเป็นใคร ทำไมต้องให้ความสนใจ และบัญญัติ 5 ประการของการช้อปปิ้งในจีนอย่างมืออาชีพ

 

 

คํา คม คิด

“ประเทศไทยไม่ได้เป็นสังคมแห่งความจริง สังคมไม่มีการ debate ไม่มีการปะทะของความคิด ดังนั้น จึงมีความคิดเดียวที่ยังคงอยู่ไปเรื่อยๆ ความจริงไม่มีโอกาสเกิดขึ้น”

ดร.เออเชนี เมริโอ อาจารย์ประจำสถาบันรัฐศาสตร์แห่งปารีส