หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ/’คมของมีด’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
ช้างป่า - ช้างคือผู้บุกเบิกการเดินทางหากิน เป็นวงรอบตามฤดูกาลของพวกมัน มีสัตว์อื่นๆ เดินตาม ช้างดึงกิ่งไม้ยอดไม้สูงๆ ลงมากินส่วนหนึ่ง สัตว์ที่เดินตามมามีโอกาสได้กินส่วนที่เหลือ

หลังเลนส์ในดงลึก
ปริญญากร วรวรรณ

‘คมของมีด’

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของคนทำงานในป่า คือ มีด
นี่เป็นเครื่องมือซึ่งช่วยให้ชีวิตในป่าสะดวกสบายขึ้น เราใช้มีดทำกิจกรรมหลายอย่าง ตั้งแต่ทำกับข้าว ไปจนถึงการเดินทาง
หลายคนถือเอามีดเป็นเพื่อน และรู้ว่ามีมีดดีๆ สักเล่มนั้นมีประโยชน์เพียงไร
มีดเปรียบเสมือนเพื่อน
มีดเป็นหลายอย่าง แต่กับมีด ผมไม่เคยนึกถึงมันในแง่ของความเป็นอาวุธ

กลางฤดูฝนยามเช้า ในหน่วยพิทักษ์ป่า ถูกห่มคลุมด้วยบรรยากาศอันฉ่ำชื้น ใบไม้อุ้มน้ำ พื้นล่างเปียก ละอองหมอกพาดผ่านทิวเขา ฝนที่ตกเกือบตลอดคืน หยุดตอนใกล้สว่าง แสงอุ่นๆ จากดวงอาทิตย์ส่องผ่านละอองหมอกทอดยาวเป็นลำ ลำห้วยคดเคี้ยว สายน้ำไหลแรง ขุ่นแดง
นกขมิ้นท้ายทอยดำ ส่งเสียงใสๆ ประชันกับนกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ ชะนีมือขาว ประสานเสียงอยู่ใกล้ต้นไทรที่ลูกสีแดงอมส้มเริ่มสุก
เสียงนกเซ็งแซ่เป็นสัญญาณดี วันนี้คงปราศจากฝน
ผมเข้ามาถึงที่นี่เมื่อวานตอนพลบค่ำ
จากหน่วยนี้ จุดหมายปลายทางยังอยู่ห่างไปกว่า 10 กิโลเมตร
เส้นทางในช่วงฝน รกทึบ มีไม้ล้มเป็นระยะ
วินัย ชายวัยกลางคน ร่างท้วมผิวคล้ำ เดินเขยกๆ มารับ
“ตกบันไดบ้านพักครับ” เขายิ้มแห้งๆ ผมมองเท้าซ้ายบวมเป่งของเขา
หน่วยเงียบเชียบ วินัยเฝ้าหน่วยกับลูกน้องอีกคน ขณะคนอื่นๆ ออกเดินลาดตระเวนตามปกติ
ผมยกเป้พาดไหล่ เดินขึ้นบ้านพักของพนักงานพิทักษ์ป่าผิวคล้ำ วางเป้มุมห้องซึ่งใช้เป็นที่นอน
วินัยเปิดเหล้าขาวที่ผมติดมา
ข้าวร้อนๆ กับมีต้มยำเห็ดอะไรสักอย่าง รสจัดจ้าน
สายฝนปรอยๆ ในลำห้วย เสียงกวางร้อง สักพักเสียงคำรามของเสือโคร่งตามมา
ผมดับตะเกียงเชื้อเพลิงน้ำมันโซลาร์ ฟ้าแลบเป็นระยะ
เบื้องนอกสายฝนเริ่มกระหน่ำ

หลังข้าวเช้า ผมเก็บสัมภาระ เส้นทางไม่ไกล แต่สายฝนน่าจะทำให้เส้นทางไม่ง่ายนัก
“ให้ไอ้ด้าไปเป็นเพื่อนช่วยเลื่อยไม้” ชายผิวคล้ำเดินมาหา
ด้า ชายหนุ่มวัยต้นๆ 20 ในชุดทะมัดทะแมง ตามมาข้างหลัง
“เอามาบาทนึง” ชายผิวคล้ำพูดพลางยื่นของที่อยู่ในมือให้
มันคือมีดอีเหน็บขนาดกลาง ฝักและด้ามทำด้วยไม้ชิงชันสีแดงเข้ม
“เหล็กบางไปนิด ผมลับคมแล้ว”
ผมล้วงกระเป๋าส่งเหรียญห้าบาทให้เขา ยกมือไหว้ก่อนรับมีดมา ดึงออกจากฝัก ทดสอบน้ำหนัก มันมีน้ำหนักกำลังดี
วินัยกับผมเราคุยเรื่องมีดกันบ่อยๆ ด้วยวิถีที่ต้องพึ่งพาร่างกายมากกว่าเทคโนโลยีของเรา มีดดีคือเพื่อนคู่ใจแท้จริง
ผมเคยบอกเขาว่า มีดที่ใช้ประจำ ผมให้เพื่อนที่บูโดไปแล้ว ยังหาเล่มเหมาะๆ มือไม่ได้
ผมขึ้นรถ ติดเครื่อง ชะนีมือขาวยังส่งเสียง
ด้ากระโดดขึ้นกระบะ นั่นทำให้เขากระโดดลงไปจัดการกับกิ่งไม้ที่ขวางทางได้สะดวก
ผมวางมีดเล่มใหม่ข้างๆ โบกมือให้ชายผิวคล้ำ
เขาพยักหน้า หันหลังเดินเขยกช้าๆ ไปทางบ้านไม้เก่าๆ ที่ใช้เป็นสำนักงาน

ทางยากจริงๆ อย่างที่พิทักษ์ป่าผิวคล้ำกังวล กิ่งไผ่ถูกช้างดึงลงมาเป็นช่วงๆ ร่องรอยใหม่ๆ เนินดินลื่นไถล
ว่าไปแล้ว การฟันไม้ไผ่นั้น แรกๆ ก็ไปได้ดี แต่พอมากๆ เข้า แขนเริ่มล้า และหากเป็นไผ่ลำโตๆ ที่แก่ จะแข็งไม่น้อย
ตัดเสร็จ เราช่วยกันลากเข้าข้างทาง
มีดใหม่ใช้ถนัดมือ
“จะแกล้ง กันไปถึงไหนโว้ย” ด้าบ่นดังๆ
“ตัวโตแล้วยังชอบแกล้งอีก”
ช้างนั้น เมื่อเดินไปจะดึงยอดไม้ที่อยู่สูงๆ ลงมากิน ส่วนหนึ่งที่เหลือเป็นของสัตว์อื่นๆ ที่เดินตามมา
แต่ในกรณีนี้ ด้ามีความเห็นว่า พวกมันรู้ว่า นี่เป็นทางสัญจรของคน จึงแกล้งดึงไผ่ลงมาขวาง
ผมชักเห็นด้วย เมื่อผ่านชั่วโมงที่สี่ของการเดินทาง
อุปสรรคจริงๆ มาถึง เมื่อเหลือสักสองกิโลเมตรจะถึงจุดหมาย
มีต้นมะค่าขนาดโอบรอบพอดีๆ ล้มขวาง
เราใช้เวลาเลื่อยอยู่นาน เหงื่อโทรม หายใจฟืดฟาด
เมื่อขาด ต้องใช้สะลิงคล้องรถช่วยดึงออกให้พ้นทาง
ถึงจุดหมายร่วม 4 โมงเย็น
ผมก่อไฟหุงข้าว ด้าเอาเห็ดซึ่งเอามาจากหน่วย แช่น้ำ เขาเอาเห็ดตำเป็นน้ำพริก
ผมผูกเปล ขึงฟลายชีต เสียงน้ำในลำห้วยไหลแรง
ดูเหมือนว่า นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาอันเหมาะนักในการเฝ้ารอสัตว์ป่าตามโป่ง
เพราะป่าอยู่ในช่วงเวลาอันสมบูรณ์ ทุกหนแห่งมีน้ำ ในดงไผ่มีหน่อไม้โผล่พ้นดิน
สัตว์ฝูงรวมตัวอยู่ในบริเวณนั้น
คิดและปฏิบัติเช่นเดียวกับพวกมัน
คือสิ่งที่ผมเลือกทำ

พลบค่ำ สายฝนเริ่มโปรย ละอองสาดเข้าใต้ฟลายชีต
เปลวไฟเอนลู่
ผมนั่งบนเก้าอี้พับ พลิกมีดในมือ ดูคมที่บิ่นเป็นร่องๆ เหตุเพราะฟันโดนลำไผ่แข็งๆ
“บิ่นหมดแล้วครับ มีดใหม่” ด้านั่งอีกฝั่งกองไฟ มองที่มีด
มีดดีๆ เป็นส่วนหนึ่ง สิ่งสำคัญกว่าดูเหมือนจะเป็นคนที่ใช้มัน
“ไม่เป็นไร” ผมพูด และหมายความตามนั้น
สิ่งสำคัญของคนทำงานในป่าคือมีด
มันเป็นเพื่อน
ความหมายของมีดบางเล่มไม่ได้อยู่ที่คม
“คม” ของมีดบางเล่ม เราก็มองไม่เห็น