จาก ‘คุณหญิงหน่อย’ สู่ ‘เฮียเพ้ง’ ใครเข้าวิน”เบอร์หนึ่งเพื่อไทย”

ช่วง 2-3 เดือนหลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายตัวออกจากประเทศไทย พร้อมกับการปิดฉากคดีประวัติศาสตร์อย่างคดีจำนำข้าว พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) เริ่มกลับมาเดินเครื่องขับเคลื่อนพรรคอีกครั้ง

แม้จะเป็นเพียงขั้นเริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ที่ถูกจอดไว้นาน แต่เสียงก็ดังพอจะทำให้หลายฝ่ายได้ยินเสียงกระหึ่ม

ช่วงแรกปรากฏชื่อ “คุณหญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โชว์ภาพนำพรรคเพื่อไทย โดยระดับแกนนำพรรครู้สัญญาณดีว่า คนนี้ “นายใหญ่ดูไบ” ไฟเขียวให้โอกาสเข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่ขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่ยังไม่ได้เบอร์หนึ่งตัวจริง

ภายใต้การผลักดันของ “คุณหญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณที่ยังฟูลเพาเวอร์เต็มเปี่ยมในพรรค

กอปรกับ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณที่โอเคกับ “หญิงหน่อย” อยู่แล้วตั้งแต่แรก

แม้จะได้ 3 ดาบประกาศิตจากบ้านชินวัตร แต่การนำทัพพรรคเพื่อไทยของ “คุณหญิงหน่อย” กลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ควรเป็น

เนื่องจากโจทก์เก่าเจ้าเดิมอย่าง “เสี่ยเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้มีบารมีย่านบางบอน ที่มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันมาตั้งแต่อดีต ยังคงประกาศชัดว่าไม่สามารถร่วมขบวนของพรรคเพื่อไทยที่ขับเคลื่อนโดย “คุณหญิงหน่อย” ได้

รวมถึงตัว “คุณหญิงหน่อย” เอง จนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคหลายๆ คน และบรรดาอดีต ส.ส. โดยเฉพาะ ส.ส.ภาคอีสานยอมรับได้

งานนี้ทำเอาแกนนำพรรคเพื่อไทยถึงกับปวดหัว กุมขมับ ด้วยเป็นห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพของพรรคเพื่อไทย

ร้อนถึง “คุณหญิงอ้อ” ที่ต้องลงมาเป็นกาวประสานใจ กวักมือเรียก “ร.ต.อ.เฉลิม” และ “คุณหญิงสุดารัตน์” มาเคลียร์ใจกัน โดยขอให้ทั้งสองคนลืมเรื่องราวเก่าๆ ในครั้งหลัง แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่เพื่อพรรค

แต่ยังไม่ทันจะนับ 1 มิชชั่นประสานใจก็พังไม่เป็นท่าเสียก่อน คนวงในพรรคเพื่อไทยบอกว่ามี 2 กระแส คือ

1. “หญิงหน่อย” สะบั้นรัก ไม่ยอมยื่นมือไปจับกับ “อาเหลิม”

และ 2. ทั้ง “หญิงหน่อย” และ “อาเหลิม” ยังไม่ได้พบปะเจอะเจอกันเลยด้วยซ้ำ เพราะ “อาเหลิม” ตัดสัมพันธ์เด็ดขาดไม่ขอเคลียร์ใจ

 

พังไม่เป็นท่าแบบนี้ ทำเอา “คนแดนไกล” ปี๊ดแตก ถึงขนาดหลุดคำพูดแรงๆ ออกมาทำนองว่า “จิตใจคับแคบ” แค่เรื่องในพรรคยังไม่เป็นเอกภาพ ต่อไปจะให้นำพรรคคงจะเกิดความขัดแย้งทั้งระดับแกนนำพรรค และ ส.ส. ที่ต้องรับนโยบาย ทั้งเชื่อว่าจะเป็นชนวนที่ทำให้ลุกลามบานปลายอย่างแน่นอน

ซึ่งก็ไม่ชัวร์ว่า “คับแคบ” หมายถึงใคร แต่ที่แน่ๆ ไม่ใครก็ใคร 1 ใน 2 คนนั้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยยังต้องเดินหน้าต่อ หลังจากมีภาพ 2 พี่น้องตระกูลชินหลุดออกมาผ่านสื่อว่าควงแขนกันฉลองตรุษจีนที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน วงพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการระหว่างคนใกล้ชิดซึ่งประกอบด้วย นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมชาย และ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และคนสนิทอีก 4-5 คน ที่กรุงปักกิ่งจึงเกิดขึ้น

ในวงพูดคุย “เสี่ยแม้ว” นายทักษิณ ถือโอกาสยกประเด็น “คุณหญิงหน่อย” ขึ้นมาพูด โดยบอกว่า ช่วงที่ผ่านมามีคนมาฟ้องเรื่อง “คุณหญิงสุดารัตน์” กันเยอะ แต่ตอนนี้ถ้าไม่ใช่ “คุณหญิงหน่อย” ยังมองไม่เห็นตัวคนที่จะมาทำงาน ขับเคลื่อน และประสานคนในพรรคให้เป็นเอกภาพได้

นั่งพูดกันไปคุยกันมาว่าใครกันที่จะเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้

จู่ๆ ก็มีคนเสนอชื่อ “เฮียเพ้ง” ขึ้นมาต่อหน้า “นายใหญ่” กลางวงพูดคุย

ชื่อ “เฮียเพ้ง” เป็นชื่อที่อยู่ในใจ “นายใหญ่” มาตลอดอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ใหญ่ และอยู่กับพรรคมายาวนานตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย มีบารมีดูแล ส.ส. ประสานได้ 10 ทิศ รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสายตรงที่ยกหู หรือบินไปหา “นายใหญ่” เป็นประจำ

หวยเลยมาออกที่ “เฮียเพ้ง”

ขณะที่เจ้าตัวเองยังแบ่งรับแบ่งสู้ ขอต่อรองกับ “นายใหญ่” ว่า หากต้องการให้ช่วยพรรคนั้นก็ยินดี แต่ขอไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง

โดยเจ้าตัวให้เหตุผลที่ใช้ปฏิเสธ “นายใหญ่” มาเสมอ นั่นคือ อายุมากแล้ว รวมถึงมีธุรกิจและครอบครัวที่ต้องดูแล

แม้การเข้ามามีบทบาทจัดการพรรคของ “เฮียเพ้ง” จะมีมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า “คุณหญิงหน่อย” โดนลอยแพ

แม้จะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า “เฮียเพ้ง” กับ “คุณหญิงหน่อย” ไม่ลงรอยกันเอาเสียมากๆ ชนิดหน้าไม่อยากมอง

แต่การวางตัว “เฮียเพ้ง” ให้เข้ามาขับเคลื่อนพรรคครั้งนี้ เรียกว่าเป็นการ “เกลี่ยงาน” มากกว่า

คือ งานไหนที่ “คุณหญิงหน่อย” มีปัญหา ก็ให้ “เฮียเพ้ง” เดินหน้าจัดการสะสาง เช่น ปัญหาการทำงานระหว่างคุณหญิงหน่อยกับแกนนำพรรคหลายๆ คน และอดีต ส.ส. ที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ

แฟ้มภาพ

ถ้ามองโลกในแง่ดีก็คือ ให้ช่วยกันทำงานให้พรรคนั่นเอง

เพราะวันนี้ศึกของเพื่อไทยก็รอบด้านมากพออยู่แล้ว

ไม่ว่าจะต้องงัดข้อกับ คสช. ต่อรองกับผู้มีอำนาจ สู้กับกฎหมายที่บีบทุกทาง ฯลฯ

จึงไม่ควรจะมามีปัญหาขัดแย้งฟาดฟันกันเอง

ที่ผ่านมาหลายคนคิดว่า “เสี่ยแม้ว” คือคนที่หนุน “คุณหญิงหน่อย” นั่งเบอร์ 1 เพื่อไทย

แต่ความจริงแล้วกลับไม่ใช่ เพราะ “เสี่ยแม้ว” เองนี่แหละที่ไม่เชื่อว่า “คุณหญิงหน่อย” จะนำพรรคได้

แต่เป็นทาง “คุณหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้า” ต่างหากที่หนุน “คุณหญิงหน่อย” มานำทัพเพื่อไทย

ด้วยเหตุผลว่า “คุณหญิงหน่อย” สามารถพูดคุยกับหลายฝ่ายได้ ในที่นี้หมายถึงฝ่ายทหาร และฝ่ายการเมืองขั้วตรงข้ามของเพื่อไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเซฟคนในตระกูลชินวัตร

โดยเฉพาะห้วงเวลานี้ที่ “นายพานทองแท้ ชินวัตร” ลูกชายคนโตของ “เสี่ยแม้ว” กำลังเผชิญมรสุมคดีฟอกเงินกรุงไทย ถือเป็นคดีใหญ่ที่มัดตัวอยู่

ที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้ คือการเยือนสิงคโปร์รอบนี้ของ “เสี่ยแม้ว” โดยมีคิวของ “ร.ต.อ.เฉลิม” บินไปเยี่ยมเยียนด้วย

น่าจับตาว่าผลการพูดคุยระหว่าง “นายใหญ่” กับ “เฉลิม” จะมีการดีลให้เกิดการจับมือเคลียร์ใจกับ “คุณหญิงหน่อย” อีกรอบหรือไม่ เพื่อให้พรรคเดินหน้าได้

วันนี้ “คุณหญิงหน่อย” ยังมีเวลา แม้จะไม่มากที่จะสร้างการยอมรับจากอดีต ส.ส. ในการมาเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของเพื่อไทย แม้จะมี “เฮียเพ้ง” มาขัดตาทัพอยู่ในขณะนี้แล้ว

ท้ายที่สุดหากยังไปไม่ไหว ชื่อในกระเป๋าที่คนแดนไกลเตรียมไว้ คงจะถูกหยิบขึ้นมาแทนที่ “คุณหญิงหน่อย” สู้ศึกเลือกตั้งครั้งสำคัญ

เพียงแต่ว่าจะเป็นใครนั้น คงต้องรอดู