นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ : ‘Sexbot’ เมื่อคนกำลังจะมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์

คุณอยากลองมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์ไหมครับ?

อย่าเพิ่งหาว่าผมโรคจิต เหตุที่ผมถามคำถามนี้เพราะนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านค่อนข้างมั่นใจว่าในอนาคตมนุษย์คงมีเซ็กซ์กับเครื่องจักรกลเป็นเรื่องปกติ

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทำมาเพื่อตอบสนองกามตัณหาของมนุษย์นั้นพัฒนาไปมากนะครับ เอาแค่ตอนนี้การดูหนังโป๊ด้วยแว่นตา Virtual Reality ที่เหมือนคุณได้พบกับนักแสดงตัวเป็นๆ พร้อมกับอุปกรณ์เลียนแบบอวัยวะเพศเพื่อทำกิจกรรม “อย่างว่า” นั้นก็เกิดขึ้นแล้ว

หรือตุ๊กตายางที่ทำออกมาได้เหมือนคนจริงๆ ทุกกระเบียดนิ้วก็มีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ

เมื่อไม่นานมานี้ Adrian Cheok ศาสตราจารย์ด้าน Pervasive Computing แห่ง London”s City University ก็เพิ่งเปิดตัว Kissinger อุปกรณ์ที่เลียนแบบปากคนได้เหมือนเป๊ะ ทั้งรสชาติและสัมผัส (มีลิ้นด้วยไหมอันนี้ผมไม่แน่ใจ) จนบางทีเราอาจจะไม่ต้องจูบกับคนจริงๆ ก็เป็นได้

“ผมเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นเพื่อนกับหุ่นยนต์ และมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์” เขากล่าว “หุ่นยนต์จะเหมือนคนมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

ด๊อกเตอร์ Ian Pearson ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์ (Futurologist) ได้ทำการศึกษาถึงอนาคตของอุตสาหกรรมเซ็กซ์ และได้บทสรุปสำคัญออกมาว่า

เซ็กซ์แบบโลกเสมือน (Virtual sex) และการมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์ (Sexbot) จะเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้มีรายได้สูง โดยในปี 2030 เม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปกับเซ็กซ์ทอยในสหราชอาณาจักรจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปัจจุบันประมาณ 3 เท่า และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่าในปี 2050

เพียร์สันยังชี้ให้เห็นอีกว่า หุ่นยนต์จะไม่ได้เป็นแค่เครื่องรองรับอารมณ์เท่านั้น แต่จะกลายเป็นเพื่อนและถึงขั้นคนรักได้

“หุ่นยนต์จะเป็นแค่ตัวแทนของคนในช่วงแรก แต่เมื่อคนเริ่มคุ้นเคยกับมัน และ AI ที่พัฒนาไปขั้นสุดจนหุ่นยนต์มีอารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหุ่นยนต์จะเริ่มเปลี่ยนไป

“เราจะกลายเป็นเพื่อนกัน และเป็นคนรักในที่สุด”

 

ผมคิดว่าเหตุผลหลักๆ ที่หุ่นยนต์เซ็กซ์จะมาแทนที่มนุษย์นั้นมีด้วยกัน 2 ข้อ

ข้อแรก เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ที่พัฒนาไปอย่างมาก ร่างกายและสมองเหมือนคนจนแทบแยกไม่ออก ทั้งการตอบสนองทางร่างกาย พฤติกรรม การพูดจา ไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึกแบบสังเคราะห์ (synthetic emotions)

ข้อสอง อย่างที่รู้กันว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์นั้นถูกพัฒนามาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ เช่น การเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มนุษย์เข้าไม่ถึง หรือการช่วยทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม

ถ้าใช้กรอบความคิดนี้ก็จะเห็นได้ว่า หุ่นยนต์เซ็กซ์นั้นก็มีไว้เพื่อตอบสนองกามารมณ์ของมนุษย์ ที่บางคนทำไม่ได้

พูดกันบ้านๆ แบบไม่ต้องอายก็คือ “หุ่นยนต์จะมีเซ็กซ์ได้เด็ดกว่าพวกเรานั่นเองครับ!”

Joel Snell ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จาก Kirkwood College กล่าวว่า “เพราะหุ่นยนต์ถูกวางโปรแกรมไว้อย่างดีให้รองรับความต้องการของมนุษย์”

ส่วน Charles Ess ศาสตราจารย์แห่ง University of Oslo ก็เห็นไปในทางเดียวกันว่า “หุ่นยนต์จะให้ประสบการณ์เซ็กซ์ที่ดีในแบบที่มนุษย์ต้องการ”

นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะต้องการท่ายากแค่ไหน การสัมผัสแบบใด รสนิยมคุณจะโลดโผนหรือเรียบง่าย อยากให้แตะตรงนั้น จับตรงนี้ ปล่อยตรงนั้น คุณก็สามารถที่จะวางโปรแกรมให้กับหุ่นยนต์ได้ทั้งหมด แถมยังไม่มีเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญตะกุกตะกักในแบบที่เกิดขึ้นกับคน

David Levy ผู้เขียนหนังสือ Love And Sex And Robots เชื่อว่า เซ็กซ์ระหว่างคนกับหุ่นยนต์นั้นเป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยบรรเทาความเหงาและความโดดเดี่ยวเดียวดาย โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จด้านความสัมพันธ์กับคนด้วยกันเอง

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถมีความสัมพันธ์กับคนที่เรารักและคนที่เขารักเรา ผมคิดว่าหุ่นยนต์เซ็กซ์จะมาช่วยแก้ปัญหาคนในกลุ่มนี้ได้ พวกเขาจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น”

ฟังดูก็น่าจะเป็นเรื่องดี หุ่นยนต์เซ็กซ์ช่วยคนให้มีความสุขมากขึ้น แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าผลเสียที่เกิดขึ้นนั้นน่ากลัวกว่าที่คิด

 

Kathleen Richardson แห่ง Britain’s De Monfort University เป็นตัวตั้งตัวตีที่เริ่มแคมเปญ “ต่อต้านหุ่นยนต์เซ็กซ์” (Against Sex Robots) โดยเธอให้เหตุผลว่า แทนที่จะช่วยเยียวยา หุ่นยนต์เซ็กซ์จะทำให้มนุษย์เหงามากขึ้น

“ฉันก่อตั้งแคมเปญนี้เพราะอยากให้คนได้ฉุกคิดว่าเราควรจะพัฒนาเทคโนโลยีไปในทางที่ถูกต้องอย่างไร” เธอให้สัมภาษณ์กับ Sky News

“หุ่นยนต์อาจช่วยเราในงานยากๆ ที่คนทำไม่ได้ แต่เครื่องจักรหรือวัตถุที่ไม่มีชีวิตนี้ไม่สามารถแทนที่เราในแง่ของความสัมพันธ์ได้ คุณไม่สามารถผลิตความสัมพันธ์ได้หรอก”

ไม่เพียงแค่ Kathleen Richardson เท่านั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่ก็ไม่เห็นด้วยกับหุ่นยนต์เซ็กซ์เช่นเดียวกัน

Joel Snell ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จาก Kirkwood College ที่เชื่อว่าหุ่นยนต์เซ็กซ์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ก็ยังออกมาเป็นห่วงเช่นกันว่าหุ่นยนต์เซ็กซ์จะทำให้คนติดเซ็กซ์

“เพราะหุ่นยนต์ปฏิเสธไม่เป็น ไม่รู้จักคำว่า “ไม่” มันพร้อมเสมอสำหรับเรา คนจึงเกิดอาการเสพติดเซ็กซ์จากหุ่นยนต์ได้ง่าย จนอาจไม่คิดว่าความสัมพันธ์กับคนเป็นเรื่องจำเป็นอีกต่อไป”

สำหรับกรณีนี้คนที่เคยดูหนังเรื่อง Her อาจจะพอนึกภาพออกว่าเป็นอย่างไร


เท่าที่ได้อ่านบทความหลายชิ้น ผมคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์นั้นเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับ ถ้าเอาแบบไม่อ้างอิงหลักวิชาการใดๆ ส่วนตัวผมเชื่อว่า ไม่ต้องมานั่งเถียงกันให้เสียเวลาเลยว่า มันจะเกิดขึ้นจริงไหม หรือเห็นด้วยหรือไม่

เพราะมันเกิดขึ้นแน่ๆ 100 เปอร์เซนต์!

เหตุผลที่ผมมั่นใจเช่นนั้น เพราะผมดูจากประวัติศาสตร์เซ็กซ์ของมนุษย์ ตั้งแต่อดีตกว่าพันปีที่แล้ว มนุษย์ทุกชาติพันธุ์ล้วนแล้วแต่เคยใช้ “วัตถุที่ไม่มีชีวิต” เพื่อตอบสนองความรู้สึกทางเพศมาโดยตลอด (เช่น ดิลโด้ที่ทำจากไม้ จนมาถึงเซ็กซ์ทอยหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน)

มีหลายผลสำรวจที่บอกว่า ผู้หญิงร้อยละ 50 เคยใช้อุปกรณ์ช่วยตัวเอง

สำหรับผม หุ่นยนต์เซ็กซ์ก็เหมือนกับตุ๊กตายางที่พัฒนาขึ้น หรือเหมือนกับดิลโด้ที่อัพเกรดไปอีกขั้น

ประเด็นสำคัญจึงไม่ใช่ว่า เราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับหุ่นยนต์เซ็กซ์ แต่ควรเป็นประเด็นที่ว่า เราควรจะรับมือหรือหาทางป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่จะอาจจะเกิดขึ้นอย่างไร

การเกิดขึ้นของหุ่นยนต์เซ็กซ์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ก็คงเหมือนกับการเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต เฟซบุ๊ก หรือไลน์ในวันนี้

เทคโนโลยีทุกอย่างล้วนแล้วแต่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างผลเสียได้ไม่น้อย หากมนุษย์ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็น

เราสร้างเทคโนโลยีเพื่อช่วยมนุษย์ ไม่ใช่สร้างเทคโนโลยีเพื่อมาครอบงำเรา

ปัญหาจึงไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี แต่คือสติปัญญาและวิจารณญาณของมนุษย์เองต่างหากที่ต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะให้เป็น

ผมคิดว่าในอนาคตก็คงมีคนหลายคนที่ใช้หุ่นยนต์เซ็กซ์เป็นตัวช่วย และก็มีอีกหลายคนที่หลงลืม มัวเมา จนติดหุ่นยนต์เซ็กซ์ ถึงขั้นที่สร้างผลเสียให้กับตัวเองและผู้อื่น

ไม่ต่างอะไรจากเกม หนังโป๊ หรือเหล้า นี่คือปัญหาที่แต่ละคนต้องไปแก้ไขกันด้วยตัวเอง

ส่วนใครที่กังวลว่าตัวเองจะถูกลืมและไม่มีคนสนใจ ขนาดทุกวันนี้ยังหาแฟนยากอยู่แล้ว ถ้ามีหุ่นยนต์มาแย่งไปอีกคงยุ่งไปกันใหญ่ หรือใครหลายคนที่อาจจะเคยอ่านข่าวแล้วร้อนรนใจว่า เรากำลังจะตกงาน เพราะหุ่นยนต์กำลังจะมาแย่งอาชีพเราไป ก็ไม่ต้องคิดมากไปครับ เพราะผมเชื่อว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องเซ็กซ์นั้นไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์ เหมือนกับการผลิตสมาร์ตโฟนที่ต้องเป๊ะไปทั้งหมด

เซ็กซ์คือความขาดตกบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์ ความไม่พอดี ความธรรมชาติ การควบคุมไม่ได้ คาดเดาไม่ถูก อารมณ์ความรู้สึกที่ล้นๆ เกินๆ นี่ต่างหากที่ทำให้มนุษย์ยังคงมีความสุขที่จะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ไม่เชื่อลองกลับไปสืบค้นในอินเตอร์เน็ตดูนะครับว่า อาชีพแรก และอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่ยังคงสืบสานจนถึงวันนี้คืออาชีพอะไร

ตราบใดที่มนุษย์ยังคงมีความต้องการเรื่อง “อย่างว่า” รับรองว่าอาชีพนี้ไม่มีวันตายหรอกครับ