รายงานพิเศษ / บทพิสูจน์ “ใจเพชร” ของ “บิ๊กตู่” บทพิสูจน์ความอึดของ “บิ๊กป้อม” นาฬิกาหรู สู่นาฬิกาทราย กับภารกิจรบพิเศษของ “บิ๊กเจี๊ยบ” และ “บิ๊กแดง” ขุนพลกรำศึกการเมืองของ “บิ๊กตู่”

รายงานพิเศษ

บทพิสูจน์ “ใจเพชร” ของ “บิ๊กตู่”

บทพิสูจน์ความอึดของ “บิ๊กป้อม” นาฬิกาหรู สู่นาฬิกาทราย

กับภารกิจรบพิเศษของ “บิ๊กเจี๊ยบ” และ “บิ๊กแดง”

ขุนพลกรำศึกการเมืองของ “บิ๊กตู่”

ตั้งแต่ปรับคณะรัฐมนตรี มาสู่ “ประยุทธ์ 5” ดูเหมือนจะมีแต่เรื่อง นับตั้งแต่วันแรกที่ถ่ายภาพหมู่ ครม. 4 ธันวาคม 2560 เลย

ก็ทำให้เกิดปัญหาเรื่องแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ต่อเนื่องมากว่า 2 เดือน จนวันนี้ก็ยังไม่จบ แถมยิ่งแรงขึ้น

โดยเฉพาะเมื่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่ยอมลาออก หลังโดนเปิดโปงนาฬิกา 25 เรือน

“ถ้าเป็นผมถูกเปิดโปง เรือนแรกผมก็ออกแล้ว”

“จะกลัวอะไร ทำไม พูดแล้ว “มัน” จะมาไล่ผมออกหรือ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าวในเพจบีบีซีไทย ระหว่างอยู่ที่อังกฤษ

แม้จะมีการเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และขอโทษ พล.อ.ประวิตร ทันทีแล้ว แต่ก็ใช่ว่าปัญหานี้จะจบ

“ครม. ไม่ร้าว ทุกคนรักใคร่กันดี เข้าใจกัน มีอะไรก็พูดจากัน ให้กำลังใจกัน ทำอะไรผิดก็ขอโทษซึ่งกันและกัน มันก็จบ เราต้องระงับความขัดแย้งให้ได้บ้าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

แต่ทว่า คำพูดของ นพ.ธีระเกียรติ นั้น ยังคาใจ พล.อ.ประวิตร แม้จะต้องรักษาภาพพจน์ของ ครม. เอาไว้ จนคนใกล้ชิดระบุว่า พล.อ.ประวิตรจะจำไปตลอด โดยไม่ต้องพูดว่าให้อภัยหรือไม่

งานนี้ แม้ นพ.ธีระเกียรติ จะระบุว่าตนเองคิดที่จะลาออก แต่เมื่อปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ท่านต้องการให้ทำงานต่อไป และให้ขอโทษ รวมทั้งชี้แจง

เพราะหากปล่อยให้ นพ.ธีระเกียรติ ลาออก ก็จะยิ่งทำให้รัฐบาลระส่ำ และยิ่งกดดัน พล.อ.ประวิตร มากขึ้นไปอีก

ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า เพราะเหตุใด นพ.ธีระเกียรติ ที่ภาพพจน์เป็นเสมือน รมต.โลกลืม แต่กล้าที่จะพูดเช่นนั้น มีใครหนุนหลัง หรือมีเป้าหมายแฝงหรือไม่ แม้จะบอกว่า ถูกนักข่าวอัดเสียงไว้ หลังจากที่ให้สัมภาษณ์ประเด็นอื่นจบก็ตาม แต่ยอมรับว่าพูดเช่นนั้นจริงๆ

“ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองคนเดียว ไม่มีใครหนุนหลัง แบ๊กให้ผมพูด ผมเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว” นพ.ธีระเกียรติ สยบกระแสที่ระบุว่า เพราะเขามี “แบ๊กอัพ” ดี จึงได้มาเป็น รมว.ศึกษาฯ และไม่หลุด ครม.

ทั้งนี้เพราะบรรดากองเชียร์ หรือคนใกล้ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จำนวนไม่น้อย ที่อึดอัดกับท่าทีของ พล.อ.ประวิตร เพราะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เสียคะแนนนิยมไปด้วย

แต่ทุกคนรู้ดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ เกรงใจพี่ชาย และมีบุญคุณที่หนุนเนื่องกันมา สนิทสนมแนบแน่นเกินกว่าที่จะเอ่ยปาก ให้ พล.อ.ประวิตร ลาออก

ตรงกันข้าม พล.อ.ประยุทธ์ คอยช่วยเหลือพี่ชายคนนี้ ด้วยการชี้แจงแทนมาตลอด รวมถึงล่าสุด คือการให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ทำงานต่อไป ไม่ต้องลาออก

“ประยุทธ์อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด ทั้ง ครม. นี่แหละ ถ้าคนนั้นออก คนนี้ออก จะวุ่นไปหมด” นายกฯ กล่าว

พร้อมเรียกร้องให้แฟนคลับ “อย่ารักประยุทธ์คนเดียว ต้องรักรองนายกฯ ของผมด้วย”

นั่นเป็นที่มาที่ทำให้ พล.อ.ประวิตร จะยืนยันผ่านโฆษกกลาโหมว่า จะไม่ลาออก และจะทำหน้าที่ต่อจนกว่าจะจบภารกิจ ท่ามกลางกระแสกดดันให้ลาออก หลังการทำโพลออนไลน์ในเพจโซเชียลและสื่อ ที่ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร ลาออก

หลัง พล.อ.ประวิตร ประกาศว่า “ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้”

แต่ทว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ต้องการที่จะลาออก แต่พูดไปเพราะน้อยใจ ด้วยคิดว่าตนเองเข้ามาทำงานให้ชาติบ้านเมือง เหนื่อยแค่ไหน แต่ไม่มีใครเห็น อีกทั้งตลอดเวลาที่รับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 ไม่เคยทำให้เกิดเรื่องอะไรเสียหายเลย

แต่ พล.อ.ประวิตร ก็สู้กับกระแสกดดัน ด้วยการแข็งข้อ ประกาศไม่ลาออก เพราะมองว่าผลโพลออนไลน์ เป็นแค่ประชาชนบางกลุ่มบางพวก ไม่ใช่ประชาชนทั้งประเทศ

จึงมีปฏิบัติการข่าวสารของทหาร ในการปั้มโหวต และการเปิดเพจลงรายชื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร

ดูเหมือนทุกอย่างกำลังจะสงบลงได้ แถมมีข่าว “เจ้าสัวเปรมชัย ยิงเสือดำ” และกรณีของบิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. กรณีตำรวจไซด์ไลน์ และยืมเงินเพื่อน มาอยู่ในกระแสสังคมแทน

พล.อ.ประวิตร ก็ปรับเปลี่ยนตัวเอง ด้วยการงดการให้สัมภาษณ์ลง และเดินหน้าทำงานในการสร้างคะแนนอย่างเต็มที่ เพราะต้องการพิสูจน์ให้เห็นความสำคัญของตนเองในการดูแลความมั่นคง

แถม พล.อ.ประยุทธ์ ก็แต่งเพลง “ใจเพชร” เพื่อหวังเป็นกำลังใจให้คนที่เสียสละทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ที่นอกจากจะหมายถึงตนเองแล้ว ยังรวมถึง พล.อ.ประวิตร พี่ชายด้วย เพื่อสะท้อนถึงการเป็นเพชรแท้ ไม่แพ้อะไรเสียอย่าง ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

แต่แล้วปมนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร ก็ยิ่งบานปลาย และตอกย้ำความรู้สึกของสังคมมากขึ้น กับคำพูดของ นพ.ธีระเกียรติ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าจบ ทำงานด้วยกันต่อไปได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ นพ.ธีระเกียรติ ก็คงต้องถูกจับตามองไปตลอด

ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า ใน ครม.ประยุทธ์ 5 นี่ ใครจะเป็นรายต่อไปที่มีปัญหา ยิ่งในยุคที่รัฐบาลขาลงกองหนุนหดหายเช่นนี้

สถานการณ์เช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้ดีว่าจะต้องระวังอย่างที่สุด ในการไม่สร้างเงื่อนไขปัจจัยให้เกิดปัญหาขี้นมาอีก

เพราะการปรากฏตัวคู่กันของอดีตนายกฯ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จีน และไปทัวร์ประเทศต่างๆ ด้วยกัน ในขณะที่มีการปลุกกระแส “คนอยากเลือกตั้ง” จากกลุ่มนักศึกษา และคนเสื้อแดง และนักการเมืองนั้น สุ่มเสี่ยงต่อการ “จุดติด”

“ผมผ่อนคลาย และอนุโลมให้มาตลอด แต่ก็จะเห็นว่ามีความเคลื่อนไหวที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ อ้างแต่สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

แต่คนที่รับหน้าที่ในการดูแลสถานการณ์เต็มๆ คือ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. สายรบพิเศษ มาดนิ่งสุขุมลุ่มลึก ที่เป็นเลขาธิการ คสช. และ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย

และ บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. และรอง ผบ.กกล.รส. น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ สายวงศ์เทวัญ สายบู๊ และปฏิบัติงานลับ ที่จ่อคิวจะขึ้นมาดูแลกองทัพต่อในปลายปีนี้

นอกจากรับมือกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งบนดินและใต้ดินแล้ว ยังต้องเดินหน้าในการสร้างกองหนุน และเคลียร์เส้นทางสู่การเมืองให้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือแม้แต่การเตรียมแผน 1 แผน 2 รองรับสถานการณ์ต่างๆ ด้วย

ที่ต้องจับตามองคือ การที่ พล.อ.เฉลิมชัย ไปร่วมงานทำบุญวันเกิด นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.ระยอง เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่วัดชลประทานฯ

โดยมีทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคหลายคน รวมทั้ง ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ และมีการพบปะพูดคุยกัน

อย่าลืมว่า นายสาธิตเป็นหนึ่งในกลุ่มนักการเมืองภาคตะวันออก ที่ไปต้อนรับและพบปะ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร ที่จันทบุรี เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร่วมทีมกับ นายสนธยา คุณปลื้ม แห่งพรรคพลังชล

และถูก พล.อ.ประยุทธ์ แซวว่า “สาธิต เบาๆ หน่อย” สะกิดเรื่องการออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช. ในห้วงที่ผ่านมา

พล.อ.เฉลิมชัย เผยว่า เพราะรู้จักสนิทสนมกับนายสาธิตมาเป็นเวลานาน เพราะเป็นคนภาคตะวันออกด้วยกัน และเจอกันในงานต่างๆ ในพื้นที่มาตลอด เพราะตนเองเป็นคนแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ที่สำคัญคือ เตะฟุตบอลด้วยกัน คุยกันถูกคอ ถูกอัธยาศัย

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ” บิ๊กเจี๊ยบสำทับ

ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า พล.อ.เฉลิมชัย เป็นนายทหารรบพิเศษที่มีความเป็นผู้นำ ที่มีความนิ่ง สุขุม และมีชื่อเป็นหนึ่งในผู้นำในยามบ้านเมืองมีวิกฤตอีกด้วย

หรือแม้แต่ในยามที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยากจะพักวางมือ หรือไม่ได้ไปต่อ หรืออาจร่วม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ในอนาคต หากยังไม่อาจเลือกตั้งได้

พล.อ.เฉลิมชัย คนนี้ถูกจับจ้องว่า หลังเกษียณ จะมีตำแหน่งใดรองรับ แม้ว่าเจ้าตัวจะบอกว่า ตอนนี้นับถอยหลังเตรียมเกษียณแล้ว และอยากที่จะพักแล้ว หลังเกษียณไม่อยากเป็นอะไรอีกแล้ว

ด้วยเพราะมีกระแสข่าวสะพัดมาตลอดหลายเดือน ในยุคเปลี่ยนผ่านเช่นนี้ว่า มีชื่อนายทหารและพลเรือนหลายคนที่ถูกเล็งๆ ไว้ ที่จะเป็นผู้นำสำรอง ทั้งนายทหารเกษียณ ที่ทำหน้าที่สำคัญอยู่ในเวลานี้ และ ผบ.เหล่าทัพในชุดนี้ รวมทั้งอดีตข้าราชการ และองคมนตรี

“อย่ามองผมคนเดียวที่จะเป็นนายกฯ คนนอก เขาอาจจะมีคนอื่นเข้ามาก็ได้ ทำไมจะต้องมาจ้องผมแค่คนเดียว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.เฉลิมชัย จะเกษียณราชการกันยายนนี้ หลังเป็น ผบ.ทบ. มาเป็นปีที่ 2 และถูกจัดให้เป็นนายทหารน้องรักของ บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ลูกป๋าเปรม ที่พร้อมทำหน้าที่สำคัญต่อจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี วัย 98 ปี เพราะเติบโตและทำงานด้วยกันมาในหน่วยรบพิเศษ

“รบพิเศษ ถูกสอนให้ทำได้ทุกอย่าง” พล.อ.เฉลิมชัยเปรย

ท่ามกลางการถูกมองว่า บรรดานายทหาร คสช. กำลังช่วยกันพูดคุยเจรจา ประสานกับนักการเมือง พรรคการเมือง เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในปี 2562 หรือหลังจากนั้น

โดยเฉพาะเมื่อมีการตั้งพรรคเพื่อชาติไทย ของคุณยุ้ย อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ภริยาอีกคนหนึ่งของ บิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธาน รสช. ผู้ล่วงลับ ที่ออกตัวพร้อมที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หากว่ามาตามแนวทางที่ถูกต้อง

จนทำให้มีการโยงความคิด “บิ๊กจ๊อด คอนเน็กชั่น” ไปที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์

ทั้งบทบาทของนายสนธยา และตระกูลคุณปลื้ม แห่งพรรคพลังชล ที่สนิทสนมแนบแน่นอย่างมากกับ พล.อ.อภิรัชต์ มาตั้งแต่สมัย พล.อ.สุนทร กับ กำนันเป๊าะ สมชาย คุณปลื้ม

แต่มากรณีคุณยุ้ยนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.อภิรัชต์ นั้น ไม่ได้สนิทสนม และไม่ได้คุยกับคุณยุ้ยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะ พล.อ.อภิรัชต์ รัก พันเอกหญิง คุณหญิงอรชร คงสมพงษ์ คุณแม่มาก แม้ตอนนี้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แถมหลัง พล.อ.สุนทร เสียชีวิต ก็มีปัญหาเรื่องมรดกกันอีก

พล.อ.อภิรัชต์ จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่คุณยุ้ยตั้งพรรคการเมือง และพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

แต่กระนั้น เขาก็ถูกจับตามอง นับตั้งแต่มีภาพปรากฏร่วมกับนายกฯ และนักการเมืองตระกูลสะสมทรัพย์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าพบกันโดยบังเอิญ เพราะไปเล่นกอล์ฟที่สนามของตระกูลนี้

พล.อ.อภิรัชต์ นั้นถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป เมื่อ พล.อ.เฉลิมชัย เกษียณราชการ 30 กันยายนนี้ แถมมีอายุราชการถึงกันยายน 2563 ที่จะต้องอยู่ในช่วงที่จะมีการจัดเลือกตั้งแน่

จึงไม่แปลกที่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. จะแต่งตั้งให้ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ปกติเป็น ผช.ผบ.ทบ. ไม่ได้คุมกำลัง ให้เป็น รอง ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (รอง ผบ.กกล.รส.) ของ คสช. รองจาก พล.อ.เฉลิมชัย ที่เป็นโดยตำแหน่ง ผบ.ทบ. และเลขาฯ คสช.

รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานพิเศษของ ทบ. และ คสช. แล้วแต่จะได้รับมอบหมาย ที่ส่วนใหญ่จะมีทั้งภารกิจเปิดเผย และภารกิจลับ แบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยไว้วางใจให้ปฏิบัติการพิเศษมาตลอดด้วยนั่นเอง

ถึงขั้นที่ในหมู่นักการเมือง โจษขานถึง พล.อ.อภิรัชต์ กับความเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อกรุยทางเคลียร์ทางให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกด้วยซ้ำไป

รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นในบางพื้นที่ ก็อ้างชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ เพื่อข่มขวัญนักการเมืองคู่แข่งอีกด้วย

เรียกได้ว่า ในสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรง แม้ไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อใด แต่ก็ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ยิ่งกลายเป็นเป้า รวมทั้ง คสช. ซึ่งก็คือ กองทัพ ผบ.เหล่าทัพ ด้วย

โดยเฉพาะกำลังหลักของ คสช. อย่าง พล.อ.เฉลิมชัย และ พล.อ.อภิรัชต์ ที่เป็นขุนพลสายบุ๋นและสายบู๊ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการกรำศึกการเมืองในช่วงสุดท้ายของโรดแม็ป

ท่ามกลางความไม่แน่นอน และความซับซ้อนของการเมืองไทย ที่มักจะมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้เสมอ