ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” ดีเซล เอสยูวีครบเครื่อง-ทรงพลัง

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

“มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” ดีเซล เอสยูวีครบเครื่อง-ทรงพลัง

อดใจรอมาพักใหญ่ ในที่สุดผมก็ได้สัมผัสเต็มๆ กับ “ซีเอ็กซ์-5” ใหม่ เอสยูวีรุ่นล่าสุดจากมาสด้า หลังจากเปิดตัวในเมืองไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว

จริงๆ แล้วผมกับ “ซีเอ็กซ์-5” ใหม่ ออกจะคุ้นเคยกันดีในระดับหนึ่ง เพราะก่อนอวดโฉมในเมืองไทย ได้รับเชิญจากมาสด้าไปร่วมงานเปิดตัวและทดสอบแบบสั้นๆ ที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเคยนำเสนอเรื่องราวใน “มติชนสุดสัปดาห์” มาแล้ว

แต่การทดสอบครานั้นทำสนามจำลองให้เป็นสถานีต่างๆ และมีโอกาสขับในเวลาสั้นๆ เนื่องจากมีสื่อมวลชนไปด้วยจำนวนมากและเวลาที่จำกัด

แม้เมื่อมาเปิดตัวในเมืองไทยผมไม่มีโอกาสได้จัดหนักๆ เสียที เพราะติดโน่น นี่ นั่น และเวลาไม่เคยตรงกัน จนแทบจะลืมไป

กระทั่งช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ต้นฉบับการทดสอบรถยนต์ของหมดหมดสต๊อก จึงลองทาบทามไปทางมาสด้า เพราะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เคยขับ “ซีเอ็กซ์-5” ใหม่แบบเต็มๆ บนถนนเมืองไทยเลย

ไม่ผิดหวัง เพราะทั้ง “ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดมาสด้า และ “อุทัย เรืองศักดิ์” ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ จัดมาให้ในรุ่นเอ็กซ์ดี (XD) เครื่องดีเซล ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อป

แม้จะไม่ได้สีซิกเนเจอร์คือ “แดง” แต่คันสีเทาที่จอดรออยู่ก็ดูเข้มไปอีกแบบ

“ซีเอ็กซ์-5” ถือว่าเป็นรถรุ่นประวัติศาสตร์ของมาสด้า เพราะเป็นรุ่นแรกที่ผลิตออกมาด้วยเทคโนโลยี “สกายแอคทีฟ” และการออกแบบ “โคโดะ ดีไซน์” เมื่อปี พ.ศ.2555 ทั้ง 2 องค์ประกอบนี้ทำให้รถทุกรุ่นที่ผลิตออกมาหลังจากนั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงในทุกประเทศที่ไปเปิดตัว

รุ่นโมเดลเชนจ์มี 2 เครื่องยนต์ให้เลือกคือเบนซิน 2.0 ลิตร และคลีนดีเซล 2.2 ลิตร

รุ่นเอ็กซ์ดี ที่ผมได้มาทดสอบใช้เครื่องยนต์คลีนดีเซล 2.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ติดเทอร์โบชาร์จมาด้วย ให้กำลังสูงสุดถึง 179 แรงม้า แรงบิดหายห่วงมากถึง 420 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีด

รีโมตพกติดตัวไว้เฉยๆ ก็ได้ เพราะรุ่นนี้มีปุ่มเปิด-ปิดที่มือจับประตู ภายในเน้นโทนดำ ตัดด้วยโครเมียมในบางจุด เรือนไมล์ออกแนวสปอร์ตแบบ 3 วงกลม ด้านขวาเป็นหน้าจอสีความละเอียดสูงแบบ TFT LCD ขนาด 4.6 นิ้ว บอกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถ

มีปุ่มสตาร์ต-สต๊อป มาให้

กดเพื่อติดเครื่องเสียงเข้ามาไม่มากนักแม้จะเป็นเครื่องดีเซล อัตราเร่งในทุกย่านความเร็วมาได้ทันใจ เรียกว่าเผลอเพิ่มน้ำหนักเท้ามากไปหน่อยถึงกับหลังติดเบาะ

ที่ผมชอบและถือว่าสะดวกรวมทั้งปลอดภัยด้วยคือจอแสดงข้อมูลการขับขี่ “Active Driving Display” แสดงข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียม และความเร็วรถบนกระจกหน้า

การขับขี่แทบไม่รู้สึกว่านั่งบนรถเอสยูวี เพราะอารมณ์ไม่ต่างจากรถเก๋งหรู การเข้าโค้งหรือลองขับแบบซิกแซ็ก โยกไปมาก็ไม่ได้รู้สึกน่ากลัว

ความเร็วสูงสุดที่ทำไว้ในการทดสอบหนนี้อยู่ที่ปริ่มๆ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบเบรกทำได้น่าพอใจ ผมลองกดแบบเต็มๆ จน “เอบีเอส” สั่นกึกๆ ที่ความเร็วราวๆ 120-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่มีเสียอาการ อีกทั้งไฟฉุกเฉินกะพริบขึ้นทันทีเพื่อเตือนรถคันหลัง

แต่ต้องย้ำอีกทีนะครับ ทั้งการทดสอบความเร็ว การเบรกฉุกเฉิน หรือขับส่ายไปมาแบบซิกแซ็ก ผมทดลองตอนถนนว่างสุดๆ ในเวลาเลยหลังเที่ยงคืนไปแล้ว เรียกว่าแทบไม่มีเพื่อนร่วมถนนเพื่อให้เกิดความเสี่ยง

เบาะนั่งถือว่าสบายปีกโอบกระชับล็อกตัวผู้ขับขี่ได้ดี

บรรยากาศภายในรถแม้จะเป็นสีดำแต่ก็ไม่อึดอัดด้วยความที่กว้างขวางพอสมควร ทัศนวิสัยโปร่งโล่งรอบตัวเพราะรุ่นนี้ขยับเสา “A” ปรับตำแหน่งไปยังด้านหลังประมาณ 35 มิลลิเมตร ขอบกระจกประตูต่ำลงและออกแบบเป็นเส้นตรง เพิ่มทัศนวิสัยในการมองรอบตัวทั้งการขับทางตรง หรือเวลาเลี้ยว

จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ตั้งอยู่บนคอนโซลหน้าจากของเดิมที่อยู่ต่ำลงมา ลดแสงสะท้อนทำให้เห็นหน้าจอได้ชัดเจนขึ้น

เครื่องเสียงไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มแล้วเพราะเป็นแบบไฮเอนด์ที่มาสด้าร่วมพัฒนากับ “Bose” ประกอบด้วยระบบชดเชยเสียงรอบทิศทาง AudioPilot 2 และระบบเสียงเซอร์ราวด์ Centrepoint 2 ลำโพงมากถึง 10 ตัว มีซับวูฟเฟอร์ให้ด้วย

ติดตั้งระบบ MZD CONNECT ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อในรถยนต์ทำงานร่วมกับสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์มือถืออื่นๆ

ที่นั่งด้านหลังถือว่าสบายพอประมาณและพนักพิงปรับได้ 2 ระบบ เจาะช่องแอร์ที่คอนโซลกลางมาให้ด้วย

ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาบอกกันคร่าวๆ ก็แล้วกัน เพราะเชื่อว่าคงเคยเห็นกันบนถนนอยู่พอสมควร แม้ภาพรวมจะดูคล้ายๆ เดิม แต่จริงๆ แล้วปรับเปลี่ยนไปพอสมควร ภาพรวมดูต่ำลงในแนวระนาบ เพรียวบางมากขึ้น

กระจังหน้าปรับใหม่จากมีเส้นสีเงินแนวขวางเปลี่ยนเป็นตาข่ายสีดำ ออกแบบให้ดูมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าแบบโคมโปรเจ็กเตอร์เลนส์ออกแบบเรียวเล็กลงกว่ารุ่นเดิม วางตำแหน่งโคมไฟหน้าต่ำลงกว่าเดิมเล็กน้อย

ไฟท้ายเรียวเล็กออกแบบคล้ายๆ ไฟหน้า ด้านบนเป็นสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรก ประตูบานที่ 5 เปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยการกดปุ่มทีเดียว

รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะได้ล้อโตขนาด 19 นิ้ว ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน จะได้ล้อขนาด 17 นิ้ว

ความปลอดภัยที่ขึ้นชื่อไม่พ้นระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL หรือ GVC) ทำงานโดยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการทำงานของพวงมาลัย ช่วยให้ทั้งการตอบสนองและความมั่นคงของตัวรถดีขึ้น ช่วยลดการโยกตัวออกไปด้านข้างของตัวผู้โดยสารและช่วยให้นั่งสบาย

ระบบไฮเทคอื่นๆ ที่ให้มา เช่น ระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหน้าลื่นไถล

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control, MRCC) ซึ่งจะปรับเปลี่ยนและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อลดภาระบางส่วนของผู้ขับขี่ ขณะเดินทางในระยะไกล

ดิสก์เบรก 4 ล้อ มีฟังก์ชั่น Auto-Hold ช่วยให้รถหยุดนิ่งอยู่กับที่แม้กระทั่งหลังจากที่ผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นเบรก

ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต ใช้บูชลูกยางที่มีของเหลวภายใน เพื่อลดความรู้สึกว่าหน้าลอยตัว และลดการสั่นสะเทือนเมื่อรถเกิดอาการโคลง ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์

มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย เครื่องเบนซิน 3 รุ่นย่อยราคา 1,290,000-1,530,000 บาท

เครื่องยนต์ดีเซลที่ทดสอบครั้งนี้คือรุ่น XD ราคา 1,560,000 บาท

ส่วนรุ่นท็อปเครื่องดีเซลคือ XDL ราคา 1,770,000 บาท