เผยแพร่ |
---|
บทสรุปเมื่อเดือนกันยายน 2558 จากปาก นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ จากกรณีคว่ำร่างรัฐธรรมนูญที่ว่า
“เขาอยากอยู่ยาว”
กำลังกลายเป็นความรู้สึกและอารมณ์”ร่วม”ที่ดำรงอยู่ภายใน สังคมไทยอย่างจำหลักหนักแน่น
ไม่เพียงดูจากที่มีความพยายาม”เลื่อน”การเลือกตั้ง
ไม่เพียงดูจากที่มีความพยายามออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในท่วงทำนองแบบ
รัก”นายกฯ”ก็ต้องรัก”รองนายกฯ”ด้วย
หากแม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยังออกมายืนยัน ว่าจะอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
นี่ย่อมดำเนินไปพร้อมกับหลักการ”อยู่ยาว”
น่าแปลกที่ความรู้สึกอยากให้ “คสช.อยู่ยาว” ไม่เพียงแต่เป็นเจตจำนงโดยพื้นฐานของ “คสช.”
หากแม้กระทั่งภายในสังคมก็เริ่มคิดในแนวทางนี้
สัมผัสได้จากที่หลายคนในพรรคเพื่อไทย หลายคนในพรรค ประชาธิปัตย์ ต่างออกมาพูดด้วยประโยคนี้แม้จะเป็นการพูดในแบบประชดประเทียด เสียดสี
แต่ก็เป็นการประชดประเทียดและเสียดสีด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจะเป็นการ “อยู่ยาว” ของ “คสช”
ไม่ว่าจะเป็นการ “อยู่ยาว” ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เป็นการมองอย่างตรงกันข้าม
มิได้มองอย่างเห็นเป็น “ผลดี” หากมองอย่างเห็นเป็น”ผลเสีย” มากกว่า
ไม่มีใครตอบได้ว่าการ “อยู่ยาว” ของ 1 คสช. และ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นผลดีหรือเป็นผลเสีย
เพราะ”เวลา”จะเป็น “คำตอบ”
เวลาจากเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนกุมภาพันธ์ 2561 อาจเป็นคำตอบ 1
แต่จำเป็นต้องดูในเดือนมิถุนายน จำเป็นต้องดูในเดือนพฤศจิกายน ว่าจะเป็นอย่างไร
“ตุลาการ”ที่เที่ยงธรรมที่สุดคือ”เวลา”