วิถีแห่งอำนาจ เกี้ยก่วย เสถียร จันทิมาธร / จริงใจ ไมตรี ก๊วยเจ๋ง (124)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เกี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

จริงใจ ไมตรี ก๊วยเจ๋ง (124)

การทุ่มเถียงระหว่างก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งดำเนินไปในลักษณะอึ้งย้งเป็นผู้กล่าวหาโดยก๊วยเจ๋งเป็นผู้แก้ต่าง โดยผู้ที่ถูกกล่าวหาคือเอี้ยก่วย และผู้ที่ได้รับการแก้ต่างก็คือเอี้ยก่วย

จากการทุ่มเถียงครั้งนี้ทำให้เอี้ยก่วยได้ค้นพบความจริงหลายด้าน

ด้านหนึ่ง ได้รับรู้ว่าอึ้งย้งคลอดบุตรออกมาเป็นฝาแฝด ชาย 1 หญิง 1 และหญิงคือก๊วยเซียงที่ถูกลักพาตัวไป

ด้านหนึ่ง ได้รับรู้ว่าก๊วยเจ๋งห่วงใยและมองมันในด้านดีโดยตลอด

ยิ่งกว่านั้นยังรับรู้ในทางความคิดว่าที่ไม่ออกจากเมืองเสียนหยางของก๊วยเจ๋งมีมากกว่านั้น นั่นก็คือ

“ตอนนี้การทหารคับขัน ข้าพเจ้าไหนเลยออกจากเมืองเพราะธิดาน้อยคนหนึ่งได้”

ยิ่งกว่านั้นยังรับรู้อีกด้วยว่า “ธิดาผู้นี้ต่อให้ตามหากลับมา ท่านยังเลี้ยงดูนางเช่นเดียวกับที่เลี้ยงดูฟู้ยี้ ตามใจนางจนหลงระเริง ธิดาเช่นนี้มิสู้ไม่มีประเสริฐกว่า”

“ฟู้ยี้มีอันใดไม่ดี” อึ้งย้งถามด้วยเสียงอันดัง “นางเจ็บปวดที่ม่วยม่วยถูกลักพาตัวลงมือรุนแรงไปบ้างนับเป็นความรู้สึกของปุถุชน หากแม้นเป็นข้าพเจ้าเอี้ยก่วยไม่คืนธิดาให้ ข้าพเจ้าจะฟันแขนซ้ายของเขาออกมาด้วย”

ก๊วยเจ๋งยกมือตบโต๊ะอย่างหนักหน่วง เสียงโครมคราหนึ่งเศษไม้ปลิวว่อน

ยิ่งเมื่อมันลอบฟังการสนทนาโต้ตอบระหว่างก๊วยเจ๋งกับก๊วยพู ยิ่งทำให้เอี้ยก่วยได้ลงลึกเข้าไปยังรายละเอียดในเรื่องที่มันเองยังไม่มีคำตอบ

นั่นก็คือ การตายของเอี้ยคังบิดามัน

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งเจ้ายังไม่ทราบ วันนี้จะบอกต่อเจ้า บิดาของก่วยยี้คือเอี้ยคัง ครั้งกระโน้นประพฤติไม่สำรวม เราเป็นพี่ร่วมสาบานของเขา ไม่ได้เกลี้ยกล่อมกลับกลายชักนำเข้าสู่ความดีงาม ในที่สุดเขาเสียชีวิตในศาลเจ้าทวนเหล็ก นอกเมืองเกียเฮงอย่างอนาถ

“แม้ไม่ได้ถูกมารดาเจ้าลงมือทำร้าย แต่เขาเสียชีวิตเพราะมารดาเจ้า ตระกูลก๊วยเราติดค้างตระกูลเอี้ยมากหลาย”

เป็นการสะท้อนความนึกคิดอันเป็นของก๊วยเจ๋งออกมาอย่างแท้จริง

เอี้ยก่วยพอฟังคำ “เสียชีวิตในศาลเจ้าทวนเหล็กนอกเมืองเกียเฮงอย่างอนาถ” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินสถานที่ตายของบิดาผู้ล่วงลับ ความแค้นที่ฝังอยู่ก้นบึ้งหัวใจพลันประดังขึ้นมาอีกครา

กระนั้นยิ่งฟังไป ยิ่งประจักษ์ต่อความคิดของก๊วยเจ๋ง เมื่อมันถามถึงกระบี่ที่ฟันแขนเอี้ยก่วย

“เจ้ายื่นแขนขวาออกมา เจ้าฟันแขนขวาผู้อื่นข้างหนึ่ง เราก็จะฟันแขนเจ้าข้างหนึ่ง บิดาเจ้าสัตย์ซื่อถือมั่นมาชั่วชีวิต ไม่กล้ามีความคิดลำเอียงปกป้องธิดาตัวเอง”

เอี้ยก่วยคาดคิดไม่ถึงว่าก๊วยเจ๋งกลับยึดมั่นคุณธรรมถึงเพียงนี้

ขณะที่ก๊วยเจ๋งฟันกระบี่ลง พลันบังเกิดเสียงดังหวีด คนผู้หนึ่งพุ่งทะลวงหน้าต่างเข้าไปท่าร่างว่องไวสุดเปรียบปาน คนไม่ทันบรรลุถึงไม้เท้าบรรลุก่อน ใช้ไม้เท้าเปิดสกัดสภาวะกระบี่ไว้

คืออึ้งย้งนั่นเอง

นางไม่เอ่ยปากกล่าววาจา สะบัดขวับ ขวับ ขวับ ติดต่อกัน 3 ไม้เท้า ล้วนเป็นยอดกระบวนท่าในเพลงไม้เท้าตีสุนัข

1 นางมีเพลงไม้เท้าลึกล้ำ

1 ก๊วยเจ๋งไม่ทันระวัง ถูกคุกคามถอยไป 2 ก้าว

อึ้งย้งใช้มือซ้ายโอบอุ้มทารก มือขวาควงไม้เท้า ตวัดเขี่ยแล้วชักนำม้วนร่างธิดาขึ้นสลัดเหวี่ยงออกนอกหน้าต่างร้องว่า

“รีบกลับเกาะดอกท้อ ร้องขอให้ท่านปู่แซ่กัวมาขอไมตรีต่อบิดา”

จากนั้นวกไม้เท้าไม้ไผ่ใช้ออกด้วยเคล็ด “พัวพัน” และ “ปิดป้อง” ในเพลงไม้เท้าตีสุนัขสกัดขัดขวางก๊วยเจ๋งไว้

“รีบไป รีบไป ม้าแดงแสนรู้อยู่ที่หน้าประตู”

เอี้ยก่วยนั่งอยู่บนต้นไม้มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะที่ก๊วยพูถูกจับโยนออกมา หากมันจู่โจมกระบี่ลงหานางไหนเลยรอดพ้นได้

แต่หวนนึกถึงครอบครัวของนางปั่นป่วนเพราะเนื่องจากมันคนเดียว

ยิ่งรับฟังก๊วยเจ๋งกล่าวกับอึ้งย้ง “หากไม่ลงโทษสถานหนักจะสบายใจได้อย่างไร พวกเราไหนเลยมีคำว่ากล่าวกับก่วยยี้ได้ โอ ก่วยยี้แขนขาดข้างหนึ่งปราศจากผู้คนดูแล ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดีประการใด เรา เราถึงกับคิดฟันแขนของตัวเองข้างนี้ทิ้ง”

ได้ยินก๊วยเจ๋งกล่าว เอี้ยก่วยอดหดหู่ใจมิได้ ขอบตาแดงก่ำขึ้นมา