คนของโลก : อิงวาร์ คัมพรัด มหาเศรษฐีอิเกียผู้มัธยัสถ์

มีมหาเศรษฐีไม่กี่คนในโลกที่สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง พร้อมๆ กับมรดกทางธุรกิจที่สร้างความภูมิใจให้กับคนในชาติ

หนึ่งในนั้นคือ “อิงวาร์ คัมพรัด” ผู้ก่อตั้งบริษัทภายใต้แบรนด์สีน้ำเงินเหลืองสัญชาติสวีเดนอย่าง “อิเกีย”

การจากไปอย่างสงบของชายวัย 91 ปี แม้จะเป็นปลายทางชีวิตของลูกชายเจ้าของฟาร์มที่ถีบตัวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแนวหน้าของโลก

ทว่า อาณาจักร “อิเกีย” ยังคงเดินหน้าต่อไปภายใต้อุดมการณ์ของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์

นิตยสารไบแลนด์ นิตยสารด้านธุรกิจสัญชาติสวีเดน ประเมินมูลค่าทรัพย์สินของคัมพรัด เมื่อปี 2017 เอาไว้อยู่ที่ 37,300 ล้านยูโร หรือราว 1.45 ล้านล้านบาท

 

คัมพรัด เกิดในปี 1926 ในครอบครัวชาวไร่ในเมืองสโมแลนด์ ก่อตั้งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ตั้งแต่มีอายุได้ 17 ปี ก้าวสู่ความสำเร็จในฐานะมหาเศรษฐี

ทว่าความสำเร็จระหว่างทางก็หนีไม่พ้นเรื่องอื้อฉาว เมื่อในปี 1973 คัมพรัดตัดสินใจย้ายตัวเองออกไปจากประเทศสวีเดน ประเทศที่มีฐานภาษีสูงลิบ ไปยังประเทศที่มีฐานภาษีต่ำกว่าอย่างเดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์

ในปี 2013 คัมพรัดประกาศลาออกจากการเป็นประธานบริหาร “อินเตอร์อิเกีย” เปิดทางให้ลูกชายคนเล็กเข้ามารับตำแหน่งแทน ก่อนที่ผู้ก่อตั้งอิเกียจะกลับสวีเดนในปีถัดมา

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศเมื่อปี 2017 ให้มีการสืบสวนการบริหารการเงินของอิเกีย ด้วยการใช้บริษัทสาขาในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อลดภาษีจากรายได้ที่มาจากทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า คัมพรัดเลี่ยงภาษีอียู คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านยูโร หรือเกือบ 40,000 ล้านบาทระหว่างปี 2009-2014 และยังใช้วิธีการยักย้ายเงินไปยัง “แท็กซ์เฮฟเว่น” เพื่อเลี่ยงภาษีมูลค่ามหาศาล

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทอิเกียยืนยันว่าบริษัทดำเนินการตามกฎหมายด้านภาษีทั้งในและระหว่างประเทศอย่างถูกต้อง

แม้คัมพรัดจะประสบความสำเร็จในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั่วโลก ทว่าสิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจชาวสวีเดนนั้นมองว่าเป็น “ความผิดพลาด” ก็คือการเคยร่วมอยู่ใน “กลุ่มเคลื่อนไหวเยาวชนนาซี” ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงเวลาที่คัมพรัดระบุว่าเป็น “ความเขลา” และ “ความผิดพลาดใหญ่หลวงของชีวิต”

 

เรื่องราวของ “อิเกีย” ซึ่งย่อมาจาก “อิงวาร์ คัมพรัด”, “เอ็มทารีด” ชื่อฟาร์ม และ “ออกุนารีด” ชื่อเมืองนั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 1943

ด้วยเงินสนับสนุนจากพ่อ คัมพรัดเริ่มต้นธุรกิจด้วยการขายปากกา กรอบรูป พิมพ์ดีด และสินค้าอื่นๆ อีกหลายชนิด ใช้จักรยานส่งของตามออเดอร์ พร้อมกลยุทธ์ลดราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่ง

ในปี 1947 คัมพรัดเริ่มต้นขายเฟอร์นิเจอร์ที่ทำขึ้นโดยช่างฝีมือท้องถิ่น ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมา หนุ่มนักธุรกิจไฟแรงจะเริ่มพิมพ์แคตตาล็อกสินค้าส่งถึงมือลูกค้าทางไปรษณีย์ แค็ตตาล็อกสินค้าที่เวลานี้พิมพ์สู่มือลูกค้าถึง 200 ล้านฉบับต่อปี ใน 33 ภาษา

การปฏิวัติวงการเฟอร์นิเจอร์ด้วยสินค้าที่ลูกค้าสามารถประกอบเองได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1956 เมื่อ “พนักงานคนหนึ่ง” แนะนำว่า “ขาโต๊ะ” นั้นควรที่จะถอดออกได้เพื่อให้สามารถแพ็กใส่รถได้

2 ปีต่อมา คัมพรัดเปิดอิเกียสาขาแรกในเมืองเอล์มฮัลต์ ห่างจากเมืองบ้านเกิดไปทางตอนใต้ ก่อนที่ในปี 1970 อิเกียจะขยายสาขาไปสร้างความยิ่งใหญ่ในยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชีย ไม่เว้นแม้แต่ตะวันออกกลางได้สำเร็จ

ปัจจุบัน “อิเกีย” มีสาขาอยู่ในทุกๆ ทวีปทั่วโลกจำนวน 403 สาขา มีพนักงานจำนวน 190,000 คนทั่วโลก สร้างรายได้มากถึง 38,000 ล้านยูโร หรือราว 1.48 ล้านล้านบาทต่อปี

ความสำเร็จนี้มาจากชายที่ชื่ออิงวาร์ คัมพรัด ผู้ใช้เพียงรถวอลโว่เก่าๆ ใส่เสื้อผ้าจากร้านค้าราคาประหยัด และนำข้าวกล่องไปกินในที่ทำงานเสมอ