สรุปข่าวต่างประเทศ : ทรัมป์เรียกร้องเอกภาพ / เกาหลีใต้ขอเกาหลีเหนือรักษาข้อตกลง / อินเดียมีเด็กผู้หญิงเกินต้องการหลายล้าน

อินเดีย

นิวเดลี – สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างผลการสำรวจด้านเศรษฐกิจประจำปีจัดทำโดยกระทรวงการคลังของอินเดียเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มกราคมระบุว่า ความปรารถนาของพ่อแม่ชาวอินเดียที่ต้องการมีลูกชายมากกว่าลูกสาวเพื่อไว้สืบตระกูลและเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว ได้กลายเป็นผลผลิตให้ในประเทศอินเดียมีเด็กผู้หญิงที่เกิดมาโดยไม่เป็นที่ต้องการจำนวนมากถึง 21 ล้านคน และผลจากการศึกษายังพบว่าคู่สามีภรรยาชาวอินเดียส่วนใหญ่ยังปล่อยให้ตนเองมีลูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ลูกชายตามที่ต้องการ และแม้ว่าการเลือกเพศเด็กจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่การทำแท้งก็มีขึ้นเพราะเด็กในท้องไม่ใช่เพศที่ต้องการ โดยหากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไปก็อาจนำไปสู่ปัญหาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นเด็กผู้หญิงในอินเดียให้มีน้อยลงได้ ผลสำรวจยังชี้อีกว่าค่านิยมของการอยากมีลูกชายมากกว่าลูกสาวของชาวอินเดียเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในรัฐปัญจาบและรัฐหรยานา โดยใน 2 รัฐนี้มีสัดส่วนประชากรเด็กผู้ชายอายุต่ำกว่า 7 ขวบ จำนวน 1,200 คนต่อเด็กผู้หญิงทุกๆ 1,000 คน ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากค่านิยมนี้คือรัฐเมฆาลัย

เกาหลีใต้

โซล – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานถึงความคืบหน้าที่เกาหลีเหนือยอมเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปีนี้ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่เมืองพยองชางในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ที่ส่งผลให้บรรยากาศตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลง

ล่าสุดสำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าเกาหลีเหนือได้แจ้งยกเลิกการแสดงโชว์ทางวัฒนธรรมร่วมกันระหว่างสองประเทศที่จะมีขึ้นที่ภูเขาคัมกังของเกาหลีเหนือในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการต่างๆ ที่จะมีขึ้นก่อนหน้าที่เกาหลีเหนือจะส่งนักกีฬาไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ โดยรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยถึงสาเหตุที่เกาหลีเหนือแจ้งยกเลิกการแสดงร่วมทางวัฒนธรรมดังกล่าวว่า เนื่องจากอีกฝ่ายไม่พอใจที่สื่อเกาหลีใต้แสดงความเห็นที่เป็นการดูหมิ่นและเต็มไปด้วยอคติต่อเกาหลีเหนือ ทั้งๆ ที่เกาหลีเหนือมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมในงานมหกรรมกีฬาครั้งนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจและยังหยิบยกเอาประเด็นที่เป็นเรื่องภายในประเทศของเกาหลีเหนือมาเกี่ยวพันด้วย อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ พร้อมย้ำว่าเกาหลีเหนือควรยึดมั่นในข้อตกลงที่ได้เห็นชอบร่วมกันไปแล้วก่อนหน้านี้

สหรัฐอเมริกา

วอชิงตัน – สำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้แถลงนโยบายประจำปีเป็นครั้งแรกนับจากรับตำแหน่งเมื่อ 1 ปีก่อน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 มกราคม โดยไม่เพียงทรัมป์กล่าวอ้างถึงผลงานของรัฐบาลตนเองที่มีใน 1 ปีที่ผ่านมา แต่ทรัมป์ยังใช้โอกาสนี้เรียกร้องความเป็นเอกภาพของชาวอเมริกันในฐานะเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังจาก 1 ปีในการบริหารประเทศของทรัมป์เต็มไปด้วยปัญหาวุ่นวายและความเห็นขัดแย้งแตกต่าง ตลอดจนเรื่องอื้อฉาวมากมาย

ทรัมป์กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายละวางความแตกต่างที่มีต่อกันลงและขอให้สมาชิกพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตร่วมมือกันทำงาน หลังจากความเห็นขัดแย้งไม่ลงรอยกันของทั้งสองพรรคได้เป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาลทรัมป์มาตลอดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยแม้ทรัมป์จะมีท่าทีดูเป็นมิตรมากขึ้น แต่เขายังยืนยันในแนวทางการปฏิรูปผู้อพยพที่เป็นปัญหาขัดแย้งกับพรรคเดโมแครต ที่ทรัมป์ประกาศจะเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นพรมแดนกับเม็กซิโกและคุมเข้มผู้อพยพเข้าประเทศต่อไป ในประเด็นเศรษฐกิจ ทรัมป์กล่าวถึงความสำเร็จในการสร้างตำแหน่งงานใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศได้มากถึง 2.4 ล้านตำแหน่ง

ในด้านการต่างประเทศ ทรัมป์กล่าวย้ำให้เห็นถึงภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยชี้ว่าการแสวงหาจรวดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออาจก่อภัยคุกคามต่อดินแดนสหรัฐในไม่ช้า ซึ่งรัฐบาลสหรัฐจะเดินหน้ากดดันเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยคุกคามดังกล่าวเกิดขึ้น