แมลงวันในไร่ส้ม / “สนธิญาณ” นั่ง กก. ลุยภารกิจท้าทาย กอบกู้ “เครือเนชั่น”

แมลงวันในไร่ส้ม

“สนธิญาณ” นั่ง กก. ลุยภารกิจท้าทาย กอบกู้ “เครือเนชั่น”

ต่อเนื่องจากข่าวการอำลาเนชั่นของ “สุทธิชัย หยุ่น” หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ก็คือการปรับเปลี่ยนกรรมการของเครือเนชั่น

รวมถึงการเข้าสู่ตำแหน่งกรรมการเนชั่น คือ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

ทีนิวส์ อันเป็นเว็บไซต์ข่าวที่สนธิญาณร่วมบริหาร พาดหัวข่าว “ความท้าทายครั้งใหม่!! ไม่ธรรมดาแน่ๆ “สนธิญาณ” ลั่นคำ…นี่คือภารกิจสุดท้ายของชีวิต ร่วมกอบกู้ # “เครือเนชั่น”!??”

พร้อมกับเนื้อข่าวที่ขอนำบางส่วนมาเสนอต่อ ดังนี้

บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย แต่งตั้ง “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” เป็นกรรมการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2561 เป็นต้นมา

ข่าวเดียวกันนี้ระบุว่า ทิศทางของเนชั่นจะเดินไปสู่จุดใด ภายใต้คณะกรรมการชุดใหม่ ที่มีชื่อ “สนธิญาณ” ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นและสำนักข่าวทีนิวส์ ร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุดดังกล่าว ขณะที่ธุรกิจสื่อกำลังถดถอย “เครือเนชั่น” เองวิกฤตหนักจนผู้บริหารเดิมต้องกระโดดเรือหนีองค์กรที่สร้างมากับมือไป โดยทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ไว้ให้เป็นภาระ ตามข้อมูลปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ก่อนลำดับประวัติการทำงานของสนธิญาณ เริ่มฝึกทำข่าวกับ “ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์” ซึ่ง “สนธิญาณ” ถือว่าเป็นครูของเขา ที่นิตยสาร “อาทิตย์” และ “ข่าวพิเศษ”

เป็นนักข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นหัวหน้ากองบรรรณาธิการ ในวัยเพียง 28 ปี

กลับมาร่วมทุนกับ “ชัชรินทร์” ทำ “ข่าวพิเศษ” และดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ

ข่าวเดียวกันระบุว่า ความสำเร็จที่ทำให้ชื่อ “สนธิญาณ” รู้จักในวงกว้างมากขึ้น คือตั้งสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (INN) สร้างต้นแบบสถานีข่าวทางวิทยุ 24 ชั่วโมงเป็นคนแรกของประเทศไทย

จัดตั้งสถานีวิทยุ “ร่วมด้วยช่วยกัน” เพื่อบริการสังคมเต็มรูปแบบ กลายเป็นต้นแบบให้สถานีวิทยุแนวสร้างสรรค์สังคมในยุคต่อๆ มา ได้รับความนิยมสูงสุด จนโฆษณาเต็ม ค่ายใหญ่ต้องเดินตาม แม้แต่”เนชั่น”

“สนธิญาณ” กับสำนักข่าว “ไอเอ็นเอ็น” ยังคิดค้นการให้บริการข่าวแบบ SMS ร่วมกับ สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ แห่ง AIS ทำกำไรให้กับ “บริษัท ไอเอ็นเอ็น มัลติมีเดีย” หลายร้อยล้านบาทในช่วงเวลาไม่กี่ปี

แยกตัวมาเปิด “สำนักข่าวทีนิวส์” ทำธุรกิจข่าวสารทั้ง SMS และ MMS ขยายธุรกิจไปสู่การเปิดช่องโทรทัศน์ดาวเทียม ในชื่อ “ทีนิวส์ ทีวี” ต่อสู้กับ “ระบบทักษิณ”

แม้ต้องเผชิญหลากหลายปัญหา แต่ “ทีนิวส์ ทีวี” กลายเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ที่มีเรตติ้งเป็นอันดับ 1 หลายเดือนต่อเนื่อง

ข่าวเดียวกันนี้ระบุว่า ด้วยอุดมการณ์ในการต่อสู่กับ “ระบบทักษิณ” “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จึงขอร้องให้มาร่วมเคลื่อนไหวในนาม “กปปส.” เพื่อเผด็จศึก “ระบบทักษิณ”

จน “คสช.” เข้ายึดอำนาจ และสั่งปิด “สถานีทีนิวส์ ทีวี” ทำให้รายได้จากโฆษณาที่เคยหล่อเลี้ยงสถานีต้องกลายมาเป็น “ศูนย์” บาท ขาดรายได้มาหล่อเลี้ยงธุรกิจ

“สนธิญาณ” เลือกจะไม่ทอดทิ้งพนักงานทุกชีวิต ด้วยการรักษาสถานภาพรายได้ไว้เหมือนเดิมทุกบาททุกสตางค์ จนเป็นที่มาของหนี้สินที่พอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการผลักดันให้ “สำนักข่าวทีนิวส์” เดินเข้าสู่ดิจิตอลเต็มรูปแบบ โดยการผลิตข่าวสารนำเสนอผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และเครือข่ายโซเชียลทั้งหมด

ปัจจุบัน “สำนักข่าวทีนิวส์” ผลิตข่าวสารทางโทรทัศน์ ผ่าน “สถานีไบรท์ทีวี” และ “สปริงนิวส์ ทีวี” จนมีรายได้ต่อปีเกือบ 200 ล้านบาท ทำกำไรเลี้ยงองค์กรได้ โดยปิด “สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีนิวส์ ทีวี” เพราะหมดยุคหมดเวลาแล้ว

“…แม้จะถูกซ้ำเติมจากผู้คนในวงการสื่อ ว่าเวลาของ “สนธิญาณ” จบแล้ว แต่เพียงปีเศษๆ “สำนักข่าวทีนิวส์” กลับมายืนได้ ในขณะที่สื่ออื่นๆ อยู่ในภาวะทดถอยและวิกฤต…”

ตอนท้ายข่าวระบุถึงความสัมพันธ์ของสนธิญาณ กับ ฉาย บุนนาค ว่า ฉายเป็นกัลยาณมิตรทั้งทางโลกและทางธรรม เข้ามาโอบอุ้มให้กู้เงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยในยามที่มีปัญหาสุดๆ จนทำให้สนธิญาณตั้งสัจวาจาว่าจะตอบแทนน้ำใจที่ฉายจุนเจือ “ทีนิวส์” ให้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้

“สนธิญาณ” กับ “ฉาย” มีความสัมพันธ์ในเรื่อง “ธรรมะ” เดินสายทำบุญในแนวทางวัดป่า ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ จน “ฉาย” ประกาศกับ “สนธิญาณ” ว่าเลิก “เทรดหุ้น” เพื่อยุติคำครหาต่างๆ จะเดินเข้าสู่การบริหารธุรกิจในกลุ่มอย่างเต็มตัว

เมื่อ “ฉาย บุนนาค” ประกาศนำทัพ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) ด้วยตัวเอง “สนธิญาณ” จึงตัดสินใจนำ “สำนักข่าวทีนิวส์” เข้าเป็นส่วนหนึ่ง จัดสรรเวลาที่ตั้งใจปฏิบัติธรรมมาช่วยเหลือ โดยเข้าเป็นกรรมการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย เพื่อ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กลับมาแข็งแรงในเชิงธุรกิจ และมีศักยภาพสูงสุด สำหรับการเป็นองค์กรสื่อที่มีคุณภาพเหมือนที่เคยเป็นมา

ข่าวระบุว่า คนใกล้ชิดรู้ว่า “สนธิญาณ” นั้นเข้าสู่ทางธรรมมาเกือบ 20 ปีแล้ว และยืนยันตลอดมาว่าอยากหลุดพ้นในชาตินี้ ไม่อยากเวียนเกิดเวียนตายอีกแล้วจึงวางแผนที่จะวางมือตลอดมา เมื่อปีที่ผ่านมาได้ตั้ง “ฉัตรชัย ภู่โคกหวาย” มือขวาขึ้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการ และ “กิ่งการะเกด” ลูกสาวเป็นกรรมการผู้จัดการ

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ก็ต้องจับตาดูว่าภารกิจสุดท้ายของชีวิต “สนธิญาณ” คือร่วมกอบกู้ “เครือเนชั่น” นั้นจะสำเร็จหรือไม่??!!

ก่อนหน้านั้น ปลายปี 2560 บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้ง นายอภิวุฒิ ทองคำ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท แทน นายพงษ์ศักดิ์ ชมสุวรรณ และแต่งตั้ง นายสมชาย มีเสน เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการ แทน นายธนัช ตินตะบุระ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

สำหรับ นายสมชาย มีเสน หรือ “ช้าง” เป็นอดีตผู้สื่อข่าวที่วงการรู้จักกันดี

รายชื่อกรรมการล่าสุดของเนชั่น นอกจากนายสมชายและนายสนธิญาณ มี นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานกรรมการ มี นายเทพชัย แซ่หย่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ และยังมีชื่อ นายชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชากรไทย รวมอยู่ด้วย

ส่วนการกอบกู้เครือเนชั่น จะปรากฏผลอย่างไร เชื่อว่าแฟนๆ เนชั่นและผู้สนใจความเคลื่อนไหวของวงการสื่อ ติดตามลุ้นกันไม่น้อย