คนมองหนัง : “นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม ?” ในกองถ่ายหนัง “Call Me by Your Name”

“Call Me by Your Name” ภาพยนตร์ของ “ลูก้า กัวดาญีโน” ที่มีเนื้อหาว่าด้วยการเติบโตเปลี่ยนผ่าน และความรักระยะสั้นๆ ของชายสองคน ณ ฤดูร้อนหนึ่ง ในประเทศอิตาลี ช่วงต้นทศวรรษ 1980

ถือเป็นหนึ่งในหนังที่มีลุ้นบนเวทีรางวัลใหญ่ๆ ช่วงต้นปี 2018 รวมถึงออสการ์

ก่อนหน้านี้ สิ่งที่คนดูหนังชาวไทยตื่นเต้นกัน ก็คือ การมีชื่อของ “สยมภู มุกดีพร้อม” (ตากล้องที่เคยร่วมงานในภาพยนตร์หลายเรื่องของ “อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล”) ได้ขึ้นเครดิตเป็นผู้กำกับภาพของหนังอินเตอร์เรื่องนี้

ยิ่งเมื่อชื่อของสยมภูได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมประจำปีของบางสถาบัน ก็ยิ่งทำให้เกิดความหวังว่าเขาอาจมีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมเช่นกัน (แม้จะไม่ง่ายนัก)

จนมีคำกล่าวว่าสยมภูคือ “คนไทยผู้เข้าใกล้รางวัลออสการ์มากที่สุด”

อย่างไรก็ดี พอพูดถึงบุคลากรเบื้องหลัง “Call Me by Your Name” นอกจากจะมีชื่อของสยมภู รวมถึงบริษัทไวท์ไลท์ สตูดิโอ (ซึ่งสยมภูร่วมก่อตั้งกับคนไทยรายอื่นๆ อาทิ “ลี ชาตะเมธีกุล” นักลำดับภาพฝีมือดีอันดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย) ที่ดูแลด้านโพสต์โปรดักชั่นให้แก่งานภาพของหนังเรื่องนี้

ผู้ที่ได้ดูหนังมาแล้วอาจสังเกตเห็นว่าในตอนจบนั้น มีการขึ้นเครดิตว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มี “Cultural Anthropologist” ประจำกองถ่ายด้วย

สําหรับคนที่คุ้นเคยกับโลกวิชาการอยู่บ้าง ก็อาจเข้าใจว่า “Cultural Anthropologist” นั้นน่าจะหมายถึงนักวิชาการทางด้าน “มานุษยวิทยาวัฒนธรรม” ที่ศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของมนุษย์

แต่ “Cultural Anthropologist” ณ ที่นี้ อาจมิได้มีความหมายต้องตรงกับนิยามดังกล่าวเสียทีเดียว

ผู้มาทำหน้าที่ “Cultural Anthropologist” ประจำกองถ่ายหนัง “Call Me by Your Name” คือ “คาร์โล อันโตเนลลี่”

จากการสืบค้นข้อมูล อันโตเนลลี่เป็นบุคลากรที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของประเทศอิตาลี

เขาทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Wired ฉบับภาษาอิตาเลียน และก็เคยเป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Rolling Stone และ GQ ฉบับภาษาอิตาเลียน รวมทั้งเคยเป็นผู้บริหารค่ายเพลงที่มีชื่อว่า Sugar

ขณะเดียวกัน อันโตเนลลี่มีงานเขียนบทความจำนวนมาก ตลอดจนผลงานที่ตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือเล่ม อาทิ “Discoinferno” (เขียนร่วมกับ ฟาบิโอ เดอ ลูก้า)

นอกจากนี้ เขายังทำงานสอนหนังสือและวิจัย โดยอันโตเนลลี่เคยสอนที่ Domus Academy และเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชา “the Sociology of Conventions” (สังคมวิทยาว่าด้วยประเพณี?) ที่มหาวิทยาลัยโบโลญญา

รวมทั้งมีบทบาทในการร่วมก่อตั้งศูนย์วิจัยศิลปะ วิทยาศาสตร์ และความรู้ ที่มหาวิทยาลัยบอคโคนี เมืองมิลาน

อีกหนึ่งบทบาทสำคัญของอันโตเนลลี่ก็คือการร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อ “First Sun” ซึ่งส่งผลให้เขาได้ร่วมงานกับ “ลูก้า กัวดาญีโน” ทั้งในฐานะผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่อง “I Am Love” และโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่อง “Suspiria” (ซึ่งเป็นผลงานถัดจาก “Call Me by Your Name”)

คาร์โล อันโตเนลลี่ จึงเป็นคนที่ร่วมงานกับกัวดาญีโนมาอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าอันโตเนลลี่นั้นร่ำเรียนศึกษามาทางด้านมานุษยวิทยาด้วยหรือไม่? (แต่ก็อาจเป็นไปได้ หากพิจารณาจากบทบาทในฐานะอาจารย์พิเศษของเขา)

ที่สำคัญ ไม่มีแหล่งข้อมูลใดๆ ซึ่งระบุหรือแจกแจงรายละเอียดว่าบทบาทในฐานะ “Cultural Anthropologist” ประจำกองถ่ายหนัง “Call Me by Your Name” ของเขานั้น มีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง?

ระหว่างการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนที่กล่าวถึงองค์ความรู้ทางด้านมานุษยวิทยา/โบราณคดี/นิรุกติศาสตร์ ซึ่งปรากฏอยู่นิดๆ หน่อยๆ ภายในภาพยนตร์

หรือการเป็นที่ปรึกษาด้าน “วัฒนธรรมและดนตรียุค 1980” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญและโดดเด่นมากๆ ของหนังเรื่องนี้ แถมยังดูจะสอดคล้องกับหน้าที่การงานในแวดวงนิตยสารของอันโตเนลลี่พอดิบพอดี

ที่มาข้อมูล

https://www.edge.org/memberbio/carlo_antonelli

http://www.domusacademy.com/en/carlo-antonelli/

http://www.imdb.com/name/nm2108595/

Carlo Antonelli è il nuovo curatore di Villa Croce a Genova. È l’ex direttore di Rolling Stone