อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

เปิดหลักฐานมัด ร.ท.หนุ่ม

โรยตัวชั้น 12-ฆ่าแม่ค้าสาว

รอยเล็บข่วนหน้าเป็นพยาน

คดีสยองคอนโดฯ เมืองนนท์

 

เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของ น.ส.อัญพัชญ์ บารมีเลิศรัตน์ แม่ค้าออนไลน์สาวสวยที่ดังผ่านโทรศัพท์มือถือ

ทำให้เพื่อนที่อยู่ปลายสายรับรู้ได้ทันทีว่าต้องมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอ

แต่ถึงจะรีบแจ้งให้เพื่อนเข้ามาดูที่ห้องพัก ก็ไม่ทันเสียแล้ว

ฆ่าปาดคอแม่ค้าสาวคาคอนโดฯ

เหตุการณ์สยองถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อหลังเที่ยงคืน วันที่ 7 เมษายน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ นำกำลังสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุพบหญิงสาวถูกฆ่าปาดคอ ภายในคอนโดฯ หรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ห้องที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 10 ภายในห้องพบร่าง น.ส.อัญพัชญ์ บารมีเลิศรัตน์ อายุ 47 ปี อาชีพเซลส์ขายของ และเป็นแม่ค้าออนไลน์ โดยผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในห้อง มีบาดแผลถูกของมีคมปาดคอ และตามร่างกาย ทั้งใบหน้า หน้าอก ทรัพย์สินภายในห้องพักถูกรื้อค้นกระจัดกระจายทั่วห้อง

สอบสวนแฟนหนุ่มกับเพื่อนผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้มาพบศพ เล่าว่าผู้ตายพักอยู่คนเดียวในห้อง โดยระหว่างโทรศัพท์พูดคุยกับผู้ตาย จู่ๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องเจ็บปวด แล้วโทรศัพท์เงียบไปเลยโทร.กลับไปอีกรอบปรากฏว่าโทรศัพท์ติด แต่ไม่มีใครรับสาย

พอโทร.รอบที่ 2 โทรศัพท์ถูกปิดเครื่อง เลยโทร.ให้เพื่อนอีกคนรีบเข้ามาดูที่เกิดเหตุ หลังจากมาถึงที่เกิดเหตุห้องล็อก เพื่อนไม่มีคีย์การ์ด ได้โทร.เข้าไปหาแฟนของผู้เสียชีวิตให้เอาคีย์การ์ดมาเปิดประตูให้

หลังจากเปิดประตูได้พบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดมีบาดแผลหลายแห่ง จึงให้ รปภ.รีบโทร.แจ้งเหตุ

ชุดสืบสวนไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ พบภาพผู้ตายเดินกลับเข้าห้องพักมาคนเดียวเมื่อราว 23.30 น. วันที่ 6 เมษายน ลักษณะเหมือนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย

เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายเข้าไปรอหญิงสาวอยู่ในห้อง พอเจ้าตัวไขประตูเข้าไปคนร้ายจึงได้ไปล็อกคอแล้วใช้อาวุธปาดคอหญิงสาวทันทีเพื่อไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะกระหน่ำแทงจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป

ขณะที่การตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ พบว่าการเข้า-ออกคอนโดฯ หรือลิฟต์ต้องใช้คีย์การ์ดซึ่งจะระบุชั้นที่อยู่ไว้ ไม่สามารถเปิดชั้นที่ตนไม่ได้พักอยู่ได้

ประกอบกับการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังไปพบว่านอกจากสาวผู้ตายแล้วก็ไม่พบบุคคลอื่นเข้าออกห้องที่เกิดเหตุอีกเลย กระทั่งเพื่อนๆ และนิติบุคคลมาเปิดห้อง

งานนี้ฟันธงได้ทันทีว่าคนร้ายต้องเป็นคนในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุอย่างแน่นอน

ปริศนาที่ต้องไขต่อไปคือ แล้วคนร้ายเข้าไปในห้องของสาวผู้ตายได้อย่างไร

เมื่อไม่ได้เข้าทางประตู ก็มีทางเดียวที่จะเข้ามาได้คือระเบียงหลังห้อง ชุดสืบสวนกลับมาตรวจสอบในห้องที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่ามีร่องรอยการต่อสู้และรอยเท้าเปื้อนเลือดอยู่บริเวณเหล็กระแนงตรงระเบียงห้องผู้ตาย คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย

ชุดสืบสวนไล่เช็กข้อมูลผู้ที่อยู่ห้องข้างๆ และคนละชั้นแต่ห้องตรงกัน โดยพบว่าห้องที่อยู่ด้านบนตรงชั้น 11 ไม่มีคนอยู่ แต่ที่ชั้น 12 ตร.พบ ร.ท.จิรวัฒน์ พงษ์วิชัย นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พักอยู่กับแฟนสาว

โดยเจ้าหน้าที่พบว่าที่ใบหน้าด้านซ้าย แขนและต้นขาของ ร.ท.จิรวัฒน์ มีร่องรอยบาดแผลถูกข่วนด้วยเล็บ เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าอยู่ห้องทั้งวัน วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ส่วนรอยข่วนเกิดจากทะเลาะกับแฟนสาวถึงขั้นลงมือลงไม้กัน

พร้อมปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องการฆาตกรรม

หลักฐานมัด ร.ท.โรยตัวลงมาฆ่า

พอมีตัวผู้ต้องสงสัย ชุดสืบสวนจึงไล่กล้องวงจรปิดที่ชั้น 12 พบภาพ ร.ท.จิรวัฒน์เดินออกจากคอนโดฯ ในราวทุ่มเศษก่อนจะกลับเข้ามาในราว 1 ชั่วโมง จากนั้นตอนตี 1 เศษ เจ้าตัวออกจากห้องถือถุงดำไปทิ้งขยะ

ด้านแฟนสาวของ ร.ท.จิระวัฒน์ ระบุว่า คบหาและพักอาศัยอยู่กับ ร.ท.จิระวัฒน์ มาสักพักใหญ่ ก่อนหน้านี้ ร.ท.จิระวัฒน์ขอยืมเงิน 3-4 แสนบาท อ้างว่าร้อนเงินและต้องการใช้เงิน แต่ตนไม่มีเงินขนาดนั้นจึงได้ปฎิเสธ เพราะพอรู้มาว่าแฟนหนุ่มติดการพนันในลักษณะเดิมพันกับกลุ่มเพื่อนๆ เกี่ยวกับกีฬาอีสปอร์ตด้วย

คืนที่เกิดเหตุหลังกลับมาจากที่ทำงานกลางดึก พบว่าแฟนหนุ่มกำลังซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องอยู่ ที่ใบหน้ากับแขนมีร่องรอยขีดข่วนอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่กล้าถามเพราะกลัวถูกทำร้าย และพบพิรุธอีกว่า หลังซักเสื้อผ้าชุดนั้นเสร็จยังเขวี้ยงเสื้อผ้าชุดที่ซักออกนอกห้องอีกด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม จากนั้นแฟนหนุ่มชวนลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ที่สำคัญแฟนสาวของ ร.ท.จิระวัฒน์ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำให้เกิดรอยข่วนที่หน้า ตามที่เจ้าตัวอ้างกับตำรวจแต่อย่างใด

จากข้อมูลที่ได้ทำให้ตำรวจพบกางเกงเปื้อนเลือดที่คาดว่าเป็นของคนร้ายถูกทิ้งอยู่บริเวณชั้นที่ 9 จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่แน่ชัดในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว ทั้งนี้ จากการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในห้องผู้เสียชีวิตพบว่า มีร่องรอยการต่อสู้และรอยเลือดอยู่บริเวณเหล็กระแนงตรงระเบียงห้องผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ชั้น 10 ที่เชื่อมโยงกับระเบียงห้องผู้ก่อเหตุในลักษณะแนวดิ่ง ที่อยู่ชั้น 12 แต่เลือดจะตรงกับของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ต้องรอผลตรวจทางแล็บอีกครั้ง

เชื่อว่าผู้ก่อเหตุใช้ระเบียงเป็นเส้นทางในการบุกเข้ามาภายในห้องของผู้เสียชีวิต

ส่วนอาวุธในการก่อเหตุนั้น จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยังไม่พบอาวุธภายในห้องผู้ก่อเหตุ แต่พบกรรไกรเปื้อนเลือดอยู่ภายในห้องผู้เสียชีวิต จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบก่อน

อีกทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าทรัทย์สินใดของผู้เสียชีวิตหายไปบ้าง รวมทั้งมือถือของผู้ตายก็ยังไม่พบ ส่วนนี้ต้องรอการตรวจสอบกับทางญาติผู้เสียชีวิตอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งทีมพิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอและเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องสงสัยรายนี้ จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

และประสานไปยังทหารพระธรรมนูญเพื่อนำตัวผู้ต้องหารายนี้ไปฝากขังที่ศาลทหารต่อไป

 

ต่อมาวันที่ 8 เมษายน พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ นำตัว ร.ท.จิระวัฒน์เดินทางไปฝากขังยังศาลทหาร

พ.ต.อ.พิสุทธิ์กล่าวว่า แม้ในวันนี้ทาง ร.ท.ผู้ต้องหาจะยังให้การปฏิเสธอยู่ แต่ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” พร้อมนำตัวส่งมอบให้กับศาลทหารดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ส่วนหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมได้ เช่น บาดแผลที่ใบหน้าของผู้ต้องหา เศษผิวหนังที่ซอกเล็บสาวผู้ตาย ทางเราก็ได้เก็บดีเอ็นเอเอาไว้แล้ว ผลจะออกภายในไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ทำเรื่องเร่งรัดขอให้เร็วกว่านี้ แต่อยู่ที่เจ้าหน้าที่คงต้องรอผลจาก พฐ. และนิติเวช

คดีนี้ตำรวจเชื่อว่าประเด็นการฆ่าน่าจะมาจากการที่ผู้ต้องหาปีนเข้าไปลักทรัพย์ในห้องของสาวผู้ตาย แต่ขณะกำลังก่อเหตุไม่คาดว่าผู้ตายจะกลับเข้ามาในห้องพอดี จึงตัดสินใจฆ่าปิดปาก

นับเป็นอีกหนึ่งภัยใกล้ตัวสำหรับผู้หญิงที่พักอยู่คนเดียว รวมทั้งเป็นบทเรียนที่ทางผู้ประกอบการคอนโดฯ นำไปปรับปรุงเพื่ออุดช่องโหว่ เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022