ชิดชอบ-ชาญวีรกูล เครือญาติอำนาจภูมิใจไทย เลือดข้น-คนบ้านตระกูลใหญ่

บ้านใหญ่การเมือง ระหว่างตระกูลชิดชอบ กับตระกูลชาญวีรกูล เป็นปึกแผ่นแน้นแฟ้นยิ่งกว่าทองแผ่นเดียวกัน ตั้งแต่รุ่นพ่อ ถึงรุ่นหลาน เจเนอเรชั่นที่ 3

เมื่อครั้ง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับ นายชัย ชิดชอบ รั้งตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

เมื่อพรรคไทยรักไทยแตก พลังประชาชนถูกยุบ ทักษิณ ชินวัตร แตกพรรค เนวิน ชิดชอบ กับอนุทิน ชาญวีรกูล หอบหิ้วออกมาตั้งพรรคภูมิใจไทย ประกาศก่อตั้งพรรคเปิดที่ทำการฤกษ์ตรงกับวันจักรี 6 เมษายน 2552 พลิกจากขั้วสีแดงเป็นสีน้ำเงินชูอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน

เกินกว่าทศวรรษ ที่ “เนวิน-อนุทิน” ขับเคลื่อนคู่ขนาน ทั้งในมิติธุรกิจและการเมือง

อนุทิน แม้อาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่บนถนนบางนา-ตราด แต่ชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล อยู่ในทะเบียนบ้าน จ.บุรีรัมย์ อันเป็นฐานที่มั่นทางการเมืองของเนวิน ชิดชอบ

 

การเลือกตั้งใหญ่ 2566 ทั้งเนวิน-อนุทิน ส่งทายาทลงสนามเต็มตัว เนวินส่ง ไชยชนก ชิดชอบ ชิงแชมป์ได้เป็น ส.ส.บุรีรัมย์ ส่วนอนุทิน ส่งว่าที่ลูกสะใภ้ ชนม์ธิดา อัศวเหม ชิงตำแหน่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 5

15 ปีของพรรคภูมิใจไทย มีบ้านชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนบ้านชิดชอบ ผงาดเป็นเลขาธิการพรรค

ทุกวาระการเมืองสำคัญของพรรค มีการตัดสินใจสุดท้ายจากเนวิน-อนุทิน บางครั้งอนุทินเคยให้ฉายาตัวเองว่า “อนุวิน” แล้วให้ฉายาเนวินว่า “เนทิน”

เนวิน-เป็นผู้มีส่วนสำคัญสำหรับการกราบแผ่นดินของทักษิณ ชินวัตร ทั้งครั้งแรก และครั้งล่าสุด

จุดหักเหสำคัญทางการเมืองในฤดูกาลพลิกขั้ว เนวิน-ให้สัมภาษณ์นำร่องว่า “นายอนุทินกับนายทักษิณ ในอดีตไม่มีความขัดแย้งกัน เพื่อไทยปัจจุบันขับเคลื่อนโดยกรรมการบริหารพรรค”

เมื่อถึงวันที่เกมพลิก นายอนุทินจึงปรากฏตัวคู่กับนายไชยชนก ชิดชอบ ที่ห้องรับแขกพรรคเพื่อไทย ดีลการจัดตั้งรัฐบาลจึงเดินหน้า

ครั้นถึงวันเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ชื่อไชยชนก ผงาดขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค อย่างไม่เหนือความคาดหมายของสมาชิกพรรค 6 หมื่นกว่าคน

 

อนุทินประกาศชื่อ-ชั้นกรรมการบริหารพรรคต่อหน้าเหล่าสมาชิก โชว์สายเลือด-พันธุ์การเมืองด้วยคีย์เวิร์ด “บ้านใหญ่-เจนใหม่-แบ๊กแน่น”

“ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพรรค เราได้เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องมีการปรับ และเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร ต้องทำงานเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ”

หัวหน้าพรรคตระกูลเดียว 15 ปี แถลงแบ๊กเลขาธิการพรรคและกรรมการจากวงศาคณาญาติการเมือง ว่า “กรรมการบริหารพรรคทั้ง 16 คน เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ มากด้วยการศึกษา เป็น ส.ส.ที่รู้พื้นที่เป็นอย่างดี”

“ที่สำคัญทั้ง 16 คน มีแบ๊กดีทุกคน อย่างน้อยก็มีผมเป็นแบ๊กให้อีก 15 คน จะเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนลุคใหม่ แต่นโยบาย จิตวิญญาณ ค่านิยม ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง มีแต่จะเข้มข้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใน 16 คนนี้ มีของทุกคน ไม่ได้มาตัวเปล่า ไม่ได้ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องสมาชิกพรรค”

“ชุดนี้เรียกได้ว่าเป็นเจนใหม่ บ้านใหญ่… ไม่ใช่เด็กฝึกงาน ไม่ใช่มาทดลองงาน เพราะเขาทดลองงานมาเรียบร้อยแล้ว ผ่านสนามเลือกตั้งทางการเมืองมาแล้ว ต้องถือว่าได้ผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดมาแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องฝีมือ เพราะเข้ามาแล้วทำงานได้เลย”

ประมุขบ้านชาญวีรกูล-ประมุขพรรค ประกาศในยุทธภพการเมืองว่า “ผมรอวันนี้มานาน ผมคิดว่าวันหนึ่งผมก็ต้องไปเป็นเบื้องหลังคอยให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ผมก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ แทนที่กรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 คนต้องปรับตัวเข้ากับผม”

 

จากนี้ไป ไชยชนกต้องปฏิบัติหน้าที่แม่บ้านพรรคเต็มตัว เขาประกาศให้สมาชิกพรรคทราบว่า ในฐานะทายาทชิดชอบ ลูกพ่อเนวิน หลานปู่ชัย เข้าใจว่าจะต้องถูกคาดหวังและจะพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน

ความเป็นสมาชิกตระกูลชิดชอบ สำหรับไชยชนก เขาคิดว่าเป็นมุมบวกค่อนข้างมาก และเขารู้สึกว่าตำแหน่ง “แม่บ้านพรรค” ไม่มีอะไรต้องกังวล

แม้ว่าจะเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการได้ 15 เดือน แต่ไชยชนกไม่ใช่หน้าใหม่ในสนามการเมือง เขาอยู่ร่วมร่มเงาวัฒนธรรมการเมืองแบบบ้านใหญ่มาทั้งชีวิต เขาบอกว่า “ในความเป็นทายาทชิดชอบเป็นลูกพ่อ เป็นหลานปู่ ประสบการณ์ที่ได้รับ เติบโตขึ้น มีหลายอย่างที่ส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ได้เร็ว ในการเตรียมตัวเองให้เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาธิการพรรคมากขึ้น”

“ตั้งแต่ปัจจุบัน ไปถึงอนาคตข้างหน้า ทุกการเปลี่ยนแปลงและตัดสินใจล้วนผ่านกระบวนการปรึกษาหารือกับ ส.ส.สมัยเก่า และสมัยใหม่ กรรมการชุดเก่า-ใหม่ ไม่ได้เกิดจากคิดกันเอง ทุกคนไม่มีใครทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว”

 

ทุกคนที่ไชยชนกกล่าวถึง คือเจนใหม่-บ้านใหญ่ ตระกูลการเมือง เป็นกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รับหน้าเสื่อบริหารฐานเสียงผ่านสาขาทั่วทุกพื้นที่ที่พรรคลงสมัครเลือกตั้ง

ในภาคอีสาน-บ้านใหญ่ที่ถูกพรรคภูมิใจไทยวางตัว อาทิ แนน-บุณย์ธิดา สมชัย ในตำแหน่งโฆษกพรรค เป็นเครือข่ายเจ๊รวย-สุขสมรวย วันทนียกุล ส.ส.อำนาจเจริญ อดีตหน้าห้องนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ดูแลฐานเสียงอุบลราชธานี-อำนาจเจริญ-ยโสธร

บ้านใหญ่-สุรินทร์ ส่งผกามาศ เจริญพันธุ์ เป็นรองโฆษกพรรค

ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย คู่เขยเนวิน ส่งหลานชาย จักรกฤษณ์ ทองศรี เป็นกรรมการบริหารพรรค บริหารฐานเสียงอีสานใต้

ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ 6 สมัย ส่งไม้ต่อทายาทคนดัง สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 3

วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ ส่งลูกสาวเข้ารับตำแหน่งสำคัญ กวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นนายทะเบียนพรรค คู่ขนานตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ นายก อบจ.เลย เพื่อนเนวินอีกราย ส่งชื่อทายาท ธนยศ ทิมสุวรรณ เป็นกรรมการบริหารพรรค

 

บ้านใหญ่-ภาคกลาง วางตัวแทนของซ้อสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา โดยส่งเอ-สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 และพิม-พิมพฤดา ตันจรารักษ์ หลานสาวซ้อสมทรง เป็นรองเลขาธิการพรรค คนที่ 2

ตระกูลไทยเศรษฐ์ ที่มีชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็น รมช.มหาดไทย ใส่ชื่อเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ลูกชายนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รั้งตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค คนที่ 1

บ้านใหญ่ปริศนานันทกุล ส่งสองพี่น้อง นั่ง 2 ตำแหน่ง คือ ภราดร-รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 และกรวีร์ เป็นกรรมการบริหารพรรค

บ้านประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ส่งชื่อกำนันนอร์ท-ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ หลานชาย เป็นรองเลขาธิการพรรคคนที่ 3

 

บ้านใหญ่-ฐานเสียงใหม่ภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย ปักหมุดให้ตระกูลรัชกิจประการ เจ้าของธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ ส่งให้ชลัฐ รัชกิจประการ ลูกชายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเจ๊เปี๊ยะ-นาที รัชกิจประการ เป็นกรรมการบริหารพรรค

พื้นที่ จ.สตูล ที่เนวินเคยลงพื้นที่ด้วยตัวเอง มอบความไว้วางใจให้บ้านใหญ่ เลียงประสิทธิ์ ให้โกแพ-วรสิทธิ์ เลียงประสิทธิ์ ทายาทบ้านใหญ่สตูล โกเกียรติ-สมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค

จ.กระบี่ วางตัว กิตติ กิตติธรกุล ส.ส.กระบี่ ของพรรคสมัยแรก เป็นกรรมการบริหารพรรค ที่มีนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ เป็นแบ๊กอีกชั้น

บ้านใหญ่ชิดชอบ-ชาญวีรกูล อยู่ในอำนาจการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ทศวรรษ เลือดการเมืองข้น-คนเป็นกรรมการบริหารใหม่ ไม่จางจากบ้านใหญ่ตระกูลเก่า