ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 มีนาคม - 4 เมษายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย | ประจำวันที่ 29 มี.ค.- 4 เม.ย. 2567
• รักเมือง
ในงาน GoodWalk Forum Thailand 2023
โครงการ “เมืองเดินได้-เมืองเดินดี” เผยตัวเลขค่าเฉลี่ยบางอย่างที่น่าสนใจ
คนกรุงเทพฯ ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์คิดเป็น 800 ชั่วโมงต่อปี
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถยนต์ของคนเมืองคิดเป็น 20% ของรายจ่ายทั้งหมด
ระยะการเดินเท้าสูงสุดที่คนเมืองยอมเดินคือ 800 เมตร หรือราว 10 นาที
44% ของคนกรุงเทพฯ มีภาวะอ้วน
ตัวเลขเหล่านี้บอกอะไร?
กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งรถยนต์ ยิ่งตัดถนน รถยนต์ยิ่งเพิ่มปริมาณ
ราคาที่คนเมืองต้องจ่ายคือฝุ่นพิษ PM 2.5 การจราจรติดขัด สูญเสียทางเศรษฐกิจ อีกทั้งปัญหาสุขภาพกายและใจ ฯลฯ
แนวคิดและแนวทางการพัฒนาเมืองจึงต้องเปลี่ยน
จากงบประมาณตัดถนน ปรับมาให้ความสำคัญกับการออกแบบ “เมืองเดินได้”
เพื่อส่งเสริมให้ “การเดิน” อยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของคนเมืองมากขึ้น
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้าหลังหรือขวางการเจริญของเมืองแต่อย่างใด
หลายประเทศ ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย หันมาให้ความสำคัญกับการเดินมากขึ้น
และนำแนวคิดเรื่อง “เมืองเดินได้” มาเป็นทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง
อย่างเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่ใช้เวลานับ 10 ปี ทวงคืนพื้นที่หรือถนนบางส่วนให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับเดินเท้า
เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและลดมลภาวะ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนเมือง
ประเทศไทยตอบรับกระแสการพัฒนา “เมืองเดินได้” เช่นกัน
โดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง (Urban Design and Development Center, Center of Excellence in Urban Strategies, หรือ UDDC-CEUS) ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินโครงการ “เมืองเดินได้ เมืองเดินดี GoodWalk Thailand” มาตั้งแต่ปี 2557 จนปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลา 9 ปี เริ่มตั้งแต่การศึกษาและสำรวจพื้นที่ มีการทำดัชนีประเมินศักยภาพ “เมืองเดินได้ เดินดี” พัฒนาเป็นแผนที่ Goodwalk Score เพื่อระบุพื้นที่ที่จะนำร่องออกแบบ ปรับปรุงให้เกิดการเชื่อมต่อจุดหมายต่างๆ จนเป็นพื้นที่ตัวอย่างรูปธรรม “ย่านเดินได้ ย่านเดินดี”
คือพื้นที่หรือย่านของเมืองที่จุดหมายปลายทางในชีวิตประจำวันของผู้คนอยู่ในระยะที่เดินเท้าถึง หรือประมาณ 500-800 เมตร
สำหรับเกณฑ์ในการวัดและให้คะแนน “เมืองเดินได้” นั้นมีการกำหนดแหล่งที่เป็นจุดหมายปลายทางที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้คนไว้ 6 ข้อ ได้แก่ 1) แหล่งงาน 2) สถานศึกษา 3) อุปโภค-บริโภค 4)นันทนาการ 5) ธนาคาร/ธุรกรรม และ 6) ขนส่งสาธารณะ
ในกรุงเทพมหานคร พื้นที่ที่ได้ระดับคะแนน “เดินได้” สูงสุด คือ ย่านสยามสแควร์ ข้าวสาร และเขตบางรัก ตามลำดับ
ในต่างจังหวัดด้วย เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ ย่านที่เข้าข่ายเดินได้-เดินดี ได้แก่ ย่านช้างเผือก ย่านท่าแพ ตลาดวโรรส เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถเข้าไป GoodWalk (http://goodwalk.org/) เพื่อค้นหาคะแนน Goodwalk score ในย่านที่คุณอยู่อาศัย หรือค้นหาจุดหมายปลายทางที่คุณอยากไปในระยะที่เดินถึงจากตำแหน่งที่คุณอยู่
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร เมืองเดินได้-เมืองเดินดี ได้ที่
เว็บไซต์ http://www.goodwalk.org/
Facebook : https://www.facebook.com/GoodwalkThailand
Facebook : www.facebook.com/uddcbangkok
โครงการ GoodWalk Thailand
“เมืองเดินได้ เมืองเดินดี”
แม้บ้านเราเป็นเมืองร้อน
ไม่เอื้อต่อการเดินนัก
แต่หากออกแบบดีๆ
และเอื้อต่อกิจวัตร
เชื่อว่าเมืองเดินได้-เมืองเดินดี
น่าจะประสบผล
• รักป่า
เนื่องใน วันป่าไม้โลก (World Forestry Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี
เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้
ตลอดจนส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าในทุกมิติ เพื่อสร้างห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์
กาแฟพันธุ์ไทย ที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะการยกระดับ Ecosystem ในทุกภาคส่วนของธุรกิจกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ทุกชีวิต ‘อยู่ดี มีสุข’ อย่างยั่งยืน
จากการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ส่งผลให้ “กาแฟพันธุ์ไทย” ได้รับรางวัลเกียรติคุณ กาแฟรักษ์โลก ประเภท “ร้านกาแฟรักษ์โลก” ประจำปี 2567
ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ได้รับโล่พระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
ในงาน “ภาคเหนือ สวรรค์ของคนรักกาแฟ” (Northern Thai Coffee Paradise 2024) จัดโดย กระทรวงพาณิชย์ และกลุ่ม 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับ สมาคมกาแฟและชาไทย เพื่อส่งเสริมและผลักดันกาแฟภาคเหนือของไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับสากล ณ Alive Park Hall ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
น.ส.ปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก กล่าวว่า “งานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘การผลิตอย่างยั่งยืน’ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด และสมาคมกาแฟและชาไทย เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการกาแฟไทยของแต่ละจังหวัดรวมกว่า 100 ราย มานำเสนอสินค้าจากสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ อีกทั้งยังเป็นการขยายช่องทางการตลาด พร้อมสร้างแรงผลักดันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศต่อไป”
นายอนันต์ รัตนมั่นคง Vice President of Food and Beverage Services Group บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย ได้จับมือกับ กรีโนเวท บริษัทในเครือ PTG เพื่อร่วมกันส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดตั้ง “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้าบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน”
ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตรแบบเดิมหรือการทำไร่เลื่อนลอย มาปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น
พร้อมร่วมพัฒนาพื้นที่เขาหัวโล้น ให้กลายเป็นพื้นที่ป่ากาแฟที่อุดมสมบูรณ์
นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2566 จนถึงปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วม 24 คน ร่วมกันปลูกกาแฟกว่า 68,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 200 ไร่
โดยพันธุ์ไทยได้รับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรง ด้วยราคาที่เป็นธรรม
ซึ่งนอกจากจะช่วยกันลดปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด
การที่บริษัทเอกชน
มีส่วนร่วมกันรักษาป่า-ธรรมชาติ
ย่อมเป็นเรื่องดี
เพราะลำพังจะพึ่ง “รัฐ” อย่างเดียว
ย่อมไม่เพียงพอแน่นอน
แค่ไฟป่าอย่างเดียวก็หนักหน่วงแล้ว! •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022