คอลัมน์ประจำ

DALI Epikore 11

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 มีนาคม 2567
คอลัมน์เครื่องเสียง
เผยแพร่

ช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อนเป็นต้นมา สังเกตเห็นหลายๆ สื่อทางฝั่งตะวันตกพูดถึงลำโพงคู่หนึ่งคล้ายๆ กัน ทั้งยังพบว่าเมื่อนำไปเปิดตัวในงานโชว์ต่างๆ มักจะถูกนำมารายงานในเชิงชื่นชมแบบไม่มีตกหล่นจากสื่อไหนสักราย หลายๆ งานโชว์ที่ว่าก็มีอาทิ Toronto Audio Fest, Melbourne Hi-Fi & AV Show, Munich High-End Show รวมทั้งงานที่จัดมาอย่างยาวนานในสหราชอาณาจักรอย่าง UK Hi-Fi Show ด้วย

ลำโพงคู่ที่ว่ามาจากแบรนด์ DALI : Danish Audiophile Loudspeaker Industries ที่เพิ่งครบรอบสี่ทศวรรษไปเมื่อปีก่อน พร้อมๆ กับการเปิดตัวลำโพงคู่นี้ในวาระเฉลิมฉลองนั้น

ลำโพงที่พูดถึงก็คือที่จ่าหัวเอาไว้นั่นแหละครับ ซึ่งได้นำความโดดเด่นและคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของลำโพงในตระกูล Epicon Series ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม มาผสมผสานกับเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของรุ่นเรือธงอย่าง Model Kore เข้าไว้ในตัวได้อย่างน่าสนใจ

และน่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือมีราคาค่าตัวในระดับที่ออดิโอไฟล์รับมือได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นจุดนี้เองที่ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก เพราะด้วยประสิทธิภาพที่ก้าวตามรุ่นพี่มาชนิดเรียกได้ว่าแทบจะวัดรอยเท้า หรือกล่าวได้ว่าคือ Flagship Jr. กลับมีค่าตัวเกินครึ่งของพี่ใหญ่ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง (US$ 110,000/US$ 60,000)

 

DALI บอกว่า – นี้, คือการรวบรวมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย มาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการออกแบบลำโพงไฮ-เอ็นด์ที่มีความพร่าเพี้ยนต่ำระดับ Ultra-Low Distortion ที่ปราศจากนัยยะสำคัญอย่างสิ้นเชิง ด้วยการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบชุดแม่เหล็กในระบบมอเตอร์ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งเรียกว่า SMC : Soft Magnetic Composite เจเนอเรชั่นที่สอง ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในวูฟเฟอร์, มิดเรนจ์ ตลอดจนแกนเหนี่ยวนำในครอสส์เวอร์ของ DALI Kore และเป็นหัวใจขององค์ประกอบสำคัญใน DALI Epikore 11 นี้ด้วย

องค์ประกอบทั้งมวลที่คัดสรรมาใช้อย่างประณีต พิถีพิถัน ทั้งยังผ่านการคัดค่ามาอย่างเคร่งครัดนั้น กอปรกันอยู่ภายในโครงสร้างตู้ที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม หรูหรา และขึ้นรูปด้วยไม้จริงแบบวีเนียร์ผ่านงานฝีมือเชิงช่างชั้นสูง ขัดเงางดงามแบบผิวเปียนโนชั้นดี ทั้งยังมีความแข็งแกร่ง มีความเสถียรสูง ผ่านการคำนวณปริมาตรและการออกแบบโครงสร้างภายในที่มีลักษณะกั้นเป็นห้องเฉพาะ เพื่อให้ไดรเวอร์แต่ละตัวทำงานได้เป็นอิสระ

พร้อมเสริมวัสดุซับเสียงที่ทั้งลดทอนและขจัดอาการก้องสะท้อนภายในตู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขณะทำงานแม้จะผลักคลื่นเสียงที่ย่านความถี่ต่ำลึกสุดสุดออกมา ก็ยังหยัดยืนอย่างมั่นคง

ทั้งยังตั้งวางอยู่บนฐานโลหะที่มีความแกร่งและเสถียรมาก พร้อมขารองแบบ Spike ทั้งสี่มุม ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการสลายแรงรบกวนต่างๆ คลื่นเสียงที่สัมผัสได้จึงเสมอด้วยสัญญาณทางไฟฟ้าของต้นฉบับที่ถูกป้อนเข้ามา เสียงที่ได้ยินจึงมีความเป็นดนตรีที่เที่ยงตรงต้องตามคุณสมบัติในทุกรายละเอียดขณะบันทึกอย่างแท้จริง

ผู้ผลิตย้ำว่านี้คือลำโพงที่ให้เสียงดนตรีออกมาได้สมจริงที่ใครได้ฟังจักต้องประหลาดใจยิ่งนัก

นับเป็นการออกแบบที่ได้นำประสบการณ์อันเป็นเลิศทางด้านเสียง ซึ่งสั่งสมอย่างยาวนานถึงสี่ทศวรรษ มาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัวยิ่ง

DALI Epikore 11

DALI Epikore 11 ทำงานในแบบ 4-1/2 ทาง โดยมีระบบท่ออากาศคู่ (Twin Dual-Flare Bass Reflex Ports) เรียงในแนวดิ่งที่ด้านหลัง ใช้ตัวขับเสียงย่านความถี่ต่ำ หรือ Woofer ขนาด 8 นิ้ว, 4 ตัว ตัวขับเสียงย่านความถี่กลาง หรือ Midrange ขนาด 6-1/2 นิ้ว, 1 ตัว โดยกรวยแบบโคนนั้นขึ้นรูปด้วยวัสดุที่ผสมผสานกันระหว่างเยื่อกระดาษและใยไม้ (Paper & Wood Fibre Cone) ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มความแกร่งให้กับกรวยแล้ว ยังช่วยรังสรรค์รายละเอียดของเสียงดนตรีออกมาได้ดีที่สุด ทั้งยังให้ไดนามิกของเสียงยอดเยี่ยมมากอีกด้วย ให้บุคลิกเสียงที่ถูกต้อง เที่ยงตรง และมีความเป็นดนตรีอย่างสมจริง

สำหรับชุดตัวขับเสียงที่ทำงานในย่านความถี่สูง และต่อเนื่องไปยังย่านความถี่สูงพิเศษนั้น ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่เรียกว่า EVO-K Hybrid Tweeter ซึ่งพัฒนาขึ้นมาใช้กับลำโพงรุ่นเรือธงโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย Soft Dome ขนาด 35 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับแผง Planar ขนาด 10 x 55 มิลลิเมตร โดยทั้งคู่ติดตั้งอยู่ในโครงสร้างเฉพาะ ให้การทำงานที่สอดประสานกันอย่างลื่นไหล ระบบมอเตอร์นั้นใช้ชุดแม่เหล็ก Neodymium อันทรงพลัง ช่วยให้ได้การกระจายเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าทึ่งมาก ทั้งยังมีความคมชัดสูงไม่ว่าจะเปิดฟังที่ระดับความดังมากแค่ไหนก็ตาม เสียงก็ยังคงความชัดเจนไม่ส่ออาการแตกพร่าให้รับรู้ได้แต่อย่างใด

DALI Epikore 11 ระบุอิมพีแดนซ์ที่ 4 โอห์ม ให้การทำงานตอบสนองความถี่ในช่วง 29-34,000Hz (+/-3dB) รองรับกำลังขับจากแอมป์ขนาด 40-1,000W ให้ระดับความดังเสียงสูงสุดที่ 116dB วัดค่าความไวได้ 89dB (2.83V/1m) ออกแบบให้มีจุดตัดความถี่ที่ 170Hz / 370Hz / 3,100Hz และที่ 12,500Hz

ขั้วต่อด้านหลังใช้อะลูมิเนียมเคลือบขนาดใหญ่ มั่นคงแน่นหนา เพื่อการสื่อนำสัญญาณที่ดี เป็นขั้วต่อสองชุดรองรับการทำงานแบบ Bi-Wiring/ Bi-Amplification

มิติโครงสร้างตู้ (กว้าง x สูง x ลึก) 42.2 x 160.2 x 55.4 เซนติเมตร น้ำหนัก 75.6 กิโลกรัม/ตู้

 

ครับ, รายละเอียดพอสังขปของลำโพงคู่นี้ก็มีเท่าที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งจากการตามอ่านข่าวที่ไปออกงานโชว์ต่างๆ พบว่าบรรดาอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาทำงานร่วมเป็นสเตอริโอ ซิสเต็ม กับลำโพงคู่นี้ก็มีแตกต่างกันไป แต่มีอยู่ชุดหนึ่งที่อ่านแล้วให้รู้สึกน่าสนใจ นั่นคือเป็นการทำงานกับชุดเครื่องเสียงในอนุกรม Master Series ของ NAD : New Acoustic Dimension ครับ

ที่บอกว่าสนใจก็เนื่องเพราะเท่าที่มีประสบการณ์การทำงานของลำโพง และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ของทั้งสองแบรนด์ร่วมกันนั้น ผมเคยฟังก็แต่ลำโพงวางหิ้งหรือประกอบขาตั้งของ DALI กับเครื่องเสียงของ NAD Classic Series เท่านั้นเอง เคยฟังทั้งผ่านๆ และแบบเอาจริงเอาจังมาสักสามสี่ซิสเต็ม (แต่ละชุดอยู่ระหว่างครึ่งแสนขึ้น ไปจนถึงแสนต้นๆ) มีความรู้สึก (เป็นส่วนตัว) ว่าสองแบรนด์นี้ให้การทำงานที่สอดประสาน หรือเสริมความโดดเด่นซึ่งกันและกัน ได้อย่างมีนัยยะชนิดที่ให้สุ้มเสียงออกมาน่าติดตามไม่น้อยเลย

แต่ก็ไม่เคยได้ฟังรุ่นเต้ยๆ ของลำโพงแบรนด์นี้ ทำงานร่วมกับเครื่องระดับ Master Series ของ NAD แต่อย่างใด

กระทั่งหลังปีใหม่ไม่กี่มากน้อย ชนิดที่ว่ายังไม่ทันพ้นเดือนแรกของปี ได้แวะไปหาน้องนุ่งที่โชว์รูม NAD แล้วพบเห็น Epikore 11 วางอยู่ในห้องฟังใหญ่ พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าถูกต่อเข้ากับเครื่อง NAD Master Series หน้าตาเหมือนกับที่จำคลับคล้ายคลับคาได้ ว่าเห็นผ่านตาจากข่าวงานโชว์ฝรั่งที่เอ่ยถึงข้างต้นนั้นเลย

คืออิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นสามชิ้นต่อผ่านสายนำสัญญาณระหว่างเครื่อง (Interconnect Cable) และสายลำโพงนั้น กอปรไปด้วย M66 BluOS Streaming DAC/Preamplifier กับ M23 Stereo Power Amplifier อีกสองเครื่อง แต่ละเครื่องนำมา Bridged ให้ทำงานแบบโมโน จึงจากแต่เดิมมีกำลังขับ 200W/Ch, ที่โหลด 8 โอห์ม ก็จะให้พลังมากกว่า 700W/เครื่อง, ที่โหลด 8 โอห์ม เพื่อทำหน้าที่ขับลำโพงแบบตัวต่อตัว

ที่ทางหมดสัมปทานแล้ว เที่ยวหน้ามาคุยรายละเอียดของเครื่อง กับเรื่องสุ้มเสียงของซิสเต็มนี้กันต่อครับ •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]