ยิ่งลักษณ์กลับไทย ไม่ง่ายอย่างทักษิณ | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon
(Photo by CHRISTOPHE ARCHAMBAULT / AFP)

ด้วยวิธีต่างๆ ที่คุณทักษิณ ชินวัตร พักโทษอยู่บ้าน ทำให้วันนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า “ดีลลับ” ไม่มีจริง เพราะทุกอย่างที่ข่าว “ดีลลับ” ปะทุตั้งแต่ก้าวไกลชนะเลือกตั้งอย่างรัฐบาลข้ามขั้ว, เพื่อไทยจับมือกับคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา และคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมทั้งคุณทักษิณกลับไทยล้วนเกิดทุกกรณี

ล่าสุด ทันทีที่ศาลฎีกาตัดสินยกเลิกหมายจับและยกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดี 240 ล้าน ความเชื่อว่า มี “ดีลลับ” ก็ยิ่งพุ่งทะยานขึ้นไปอีก

และนำมาสู่คำถามว่าคุณยิ่งลักษณ์จะกลับประเทศไทยวันไหน นั่งเครื่องบินมาลงสนามบินอะไร และกลับแล้วจะพำนักที่ไหนดี

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดี 240 ล้านที่ ป.ป.ช.ฟ้องคุณยิ่งลักษณ์และพวกตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2565 เป็นหนึ่งในคดีที่เลอะเทอะที่สุดต่อคุณยิ่งลักษณ์ในยุคที่ “ดีลลับ” ยังไม่เกิด และพรรคเพื่อไทยกับคุณประยุทธ์ยังไม่ได้ร่วมกันตั้งรัฐบาล

แต่ไม่ได้หมายความว่าการยกเลิกหมายจับและยกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ไม่มีความหมายอะไรเลย

 

เมื่อหมายจับยกเลิก คุณยิ่งลักษณ์จึงมาไทยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับกุมด้วยคดี 240 ล้านอีกต่อไป

แต่อุปสรรคคือคุณยิ่งลักษณ์ยังมีหมายจับอีกฉบับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2560 จากคำพิพากษาจำคุก 5 ปีคดีจำนำข้าวซึ่งคุณยิ่งลักษณ์หลบหนีไม่ยอมมาฟังคำตัดสินของศาลจนถูกออกหมายจับทั่วประเทศถึงปัจจุบัน

ทางเดียวที่จะทำให้คุณยิ่งลักษณ์กลับไทยโดยไม่ติดคุกคือทำให้คำพิพากษาจำคุก 5 ปีคดีจำนำข้าวหมดไป เพราะเมื่อไม่มีคำตัดสินจำคุก หมายจับเพื่อเอาคุณยิ่งลักษณ์มาติดคุกตามคดีนี้ก็จะหมดไปด้วย

แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าฝ่ายคุณยิ่งลักษณ์จะทำอย่างไรเพื่อทำให้คำตัดสินของศาลฎีกาสิ้นสภาพไป

นักกฎหมายที่ใกล้ชิดครอบครัวชินวัตรบางคนพูดเรื่องขอรื้อฟื้นคดี และพูดตรงๆ วิธีนี้อาจดีที่สุดในการทำให้คุณยิ่งลักษณ์กลับไทยโดยไม่มีมลทินมัวหมอง

แต่ปัญหาคือการรื้อฟื้นคดีจะทำได้ต่อเมื่อศาลมีคำตัดสินว่าพยานเบิกความเท็จ, พยานหลักฐานอื่นเป็นเท็จ หรือมีพยานหลักฐานใหม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำผิดเลย

อย่างไรก็ดี เมื่อคำนึงว่าพยานบุคคลของคดีจำนำข้าวคือคุณวิชา มหาคุณ, คุณสุภา ปิยะจิตติ, อดีตรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน, อดีตปลัดสำนักนายกฯ, อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา, อดีตรอง ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ฯลฯ โอกาสรื้อคดีโดยอ้างว่าพยานเบิกความเท็จย่อมเป็นไปไม่ได้เลย

ทางเดียวที่จะรื้อคดีเพื่อช่วยคุณยิ่งลักษณ์คือการอ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

เรื่องที่มีการพูดกันคือกลุ่มโรงสีหรือเซอร์เวเยอร์เตรียมฟ้องว่าโครงการจำนำข้าวไม่ได้เสียหายด้วยตัวเอง คุณยิ่งลักษณ์ไม่ผิด แต่ความเสียหายเกิดจากรัฐบาลประยุทธ์เอาข้าวดีมาขายปนกับข้าวเสียนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ปัญหาของการช่วยคุณยิ่งลักษณ์โดยวิธีนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหมายถึงศาลทั้ง 3 ศาลต้องตัดสินว่าโครงการจำนำข้าวยุคคุณยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด ความเสียหายเกิดจากการบริหารข้าวของคุณประยุทธ์

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และที่มากกว่าเหลือเชื่อคือทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาคดีอีกหลายปี

ต่อให้คดีนี้จบโดยทั้งสามศาลตัดสินว่าจำนำข้าวเสียหายเพราะการบริหารยุคคุณประยุทธ์ การใช้เรื่องนี้ไปเป็นหลักฐานใหม่ในการรื้อคดีคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่ง่าย ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าศาลจะรับพิจารณาคดี

ยิ่งไปกว่านั้นคือยังไม่เคยมีการรื้อฟื้นคดีไหนที่ศาลฎีกาจะล้มคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเลย

 

เมื่อคุณทักษิณพักโทษโดยไม่ต้องติดกำไลอีเอ็มจนไปไหนมาไหนได้ตามใจ คุณทักษิณย่อมไม่มีทางยอมให้คุณยิ่งลักษณ์ติดคดีโดดเดี่ยวไม่รู้จบ ความรักที่คุณทักษิณมีต่อคุณยิ่งลักษณ์นั้นมากจนคุณทักษิณต้องทำทุกทางให้คุณยิ่งลักษณ์กลับไทย ไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกผิดที่ทำให้คุณยิ่งลักษณ์เผชิญมรสุมการเมือง

วิธีที่คุณยิ่งลักษณ์จะกลับไทยโดยไม่มีมลทินมัวหมองแบบคุณทักษิณคือการรื้อฟื้นคดี แต่วิธีนี้นาน ใช้เวลาหลายปี มีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เยอะ ต้องลุ้นผลการพิจารณาของศาลถึง 2 คดี ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีแรงจูงใจให้คนแบบคุณทักษิณเลือกเพื่อพาน้องกลับบ้านในเงื่อนไขที่บริสุทธิ์จนเป็นที่ประจักษ์ได้เลย

ด้วยเงื่อนไขที่การรื้อฟื้นคดีอย่างสง่างามนั้นยากและต้องใช้เวลา ทางเดียวที่คุณทักษิณจะทำเพื่อเอาคุณยิ่งลักษณ์กลับไทยจึงได้แก่การใช้กฎหมายเป็นข้ออ้างให้คุณยิ่งลักษณ์ไม่ต้องติดคุกอย่างคุณทักษิณทำไปแล้ว แต่ปัญหาคือวิธีรอดคุกแบบคุณทักษิณอาจใช้กับคุณยิ่งลักษณ์ได้ยากจนอาจต้องมี “ดีลลับ” ฉบับใหม่ขึ้นมา

เคล็ดลับที่คุณทักษิณพ้นคุกคือสารภาพผิดแล้วขออภัยโทษจนได้ลดโทษ กระบวนการนี้ไม่ยากเมื่อคำนึงว่าคดีคุณทักษิณที่โทษหนักกว่าคุณยิ่งลักษณ์ยังทำมาแล้ว

แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้คุณยิ่งลักษณ์หลังลดโทษแล้วพักโทษอยู่บ้านโดยไปไหนมาไหนก็ได้แบบคุณทักษิณ

 

แม้อัยการอย่างคุณปรเมศวร์ อินทรชุมนุม วิจารณ์ว่าวิธีนี้ทำให้ราชทัณฑ์สามารถล้มคำตัดสินศาลโดยพฤตินัย เพราะทันทีที่ราชทัณฑ์อนุมัติให้นักโทษบางคนพักโทษที่บ้านแบบไปไหนมาไหนได้ คำพิพากษาจำคุกที่ศาลตัดสินก็ไม่มีสภาพบังคับใช้ในที่สุด แต่ทักษิณโมเดลคือแนวทางที่คงใช้กับคุณยิ่งลักษณ์จริงๆ

ข้ออ้างของรัฐบาลในกรณีคุณทักษิณคือคุณทักษิณอายุมากจนควรเอาเวลาที่ต้องอยู่ในคุกไปอยู่บ้านโดยไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย

แต่ปัญหาคือคุณยิ่งลักษณ์อายุเพิ่ง 56 จึงยังไม่เข้าข่ายแบบคุณทักษิณที่อ้างว่าเป็นนักโทษที่อายุ 70 ปีขึ้นไป, มีภาวะป่วยชราภาพ และต้องโทษไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของโทษจำคุกจริงๆ

ถึงจุดนี้ ทางเดียวที่คุณยิ่งลักษณ์จะได้กลับไทยแบบไม่ติดคุกคือรัฐบาลต้องยกเลิกระเบียบพักโทษแค่นักโทษอายุเกิน 70 ที่ป่วยชราภาพทิ้งไป และระเบียบใหม่ต้องเปิดโอกาสให้นักโทษคนไหนก็ได้กลับไปนอนบ้านแล้วถือว่าติดคุก ต่อให้อาจจะอายุแค่ 50 แบบคุณยิ่งลักษณ์และไม่มีปัญหาสุขภาพอะไรเลย

เห็นได้ชัดว่ากระบวนการเอาคุณยิ่งลักษณ์กลับไทยเช่นนี้อาจสร้างความเสียหายแก่กระบวนการยุติธรรมมากกว่าคุณทักษิณเคยทำ เพราะคำพิพากษาศาลจำคุกนักโทษทุกคนจะถูกกรมราชทัณฑ์ทำให้สิ้นสภาพอย่างกว้างขวางโดยปล่อยกลับบ้านแล้วอ้างว่าบ้านคือคุก ต่อให้อาจจะอายุเพียงแค่ 50 หรือ 30 ปี

ถ้ารัฐบาลไม่แก้ระเบียบเพื่อช่วยคุณยิ่งลักษณ์โดยลดเกณฑ์อายุการนอนบ้านแล้วอ้างว่าเป็นคุกจาก 70 ปีให้เหลือ 50 ปี รัฐบาลก็ต้องหามาตรการกฎหมายแบบพิสดารเพื่อช่วยคุณยิ่งลักษณ์แค่คนเดียวจนน่าเกลียดมากขึ้นไปอีก

และต่อให้รัฐบาลทำแบบนั้น ผลทางการเมืองของเรื่องนี้ก็รุนแรงกว่าเดิม

 

ต้องไม่ลืมว่าคดีจำนำข้าวจบโดยนักการเมืองและข้าราชการติดคุกตั้งแต่อดีตรัฐมนตรีบุญทรง เตริยาภิรมย์, อดีตรัฐมนตรีช่วยภูมิ สาระผล, อดีตอธิบดีและอดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดถูกตัดสินว่าผิดเพราะเอาข้าวที่ต้องส่งออกมาสวมรอยขายในประเทศแล้วกินส่วนต่างจนถูกจับได้ว่าคอร์รัปชั่นอย่างชัดเจน

ในเงื่อนไขที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ติดคุกหมด การที่คุณยิ่งลักษณ์ไม่ติดคุกอยู่คนเดียวด้วยเหตุทางกฎหมายใดๆ จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับได้เลย

ไม่มีใครไม่รู้ว่าคุณยิ่งลักษณ์โดนคดีหลายคดีจากการกลั่นแกล้งทางการเมือง

แต่ทุกคดีต้องว่ากันเป็นรายคดี และการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายให้คุณยิ่งลักษณ์หลุดคดีย่อมจะสร้างความเสียหายให้แก่คุณยิ่งลักษณ์, คุณทักษิณ, ครอบครัวชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องพูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่จะเสียหายหนัก

คืนความยุติธรรมให้คุณยิ่งลักษณ์ด้วยการสู้คดีคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ถึงกระบวนการนี้อาจช้าไปนิด แต่คุณยิ่งลักษณ์ไม่ใช่คุณทักษิณ และความนับถือที่คนมีต่อคุณยิ่งลักษณ์นั้นมากจนไม่ควรทำให้คุณยิ่งลักษณ์ถูกมองแบบคุณทักษิณโดน