‘ก้าวไกล’ ต่ออีกจิ๊กซอว์ ‘การเมือง’ เปิดตัว ‘หมอเลอศักดิ์’ ชิงนายก อบจ.ภูเก็ต

โหมโรงอย่างร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต ในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า สำหรับพรรคก้าวไกล นำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ที่ล่าสุดลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อม 3 ส.ส.จังหวัด เปิดตัว “นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล” ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต โดยมี “นายไกลก้อง ไวทยการ” อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ สมาชิกพรรคก้าวไกลจังหวัดภูเก็ตและพังงา และประชาชนชาวภูเก็ตเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เรียกได้ว่าเป็นการชิงพื้นที่เปิดศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ในนามพรรคก้าวไกล เป็นคนแรกและครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้ส่งในนามคณะก้าวหน้า ซึ่งภูเก็ตถือเป็นพื้นที่ “ส้มทั้งจังหวัด” หนึ่งเดียวในภาคใต้ จากผลการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566 ที่ก้าวไกลกวาดเรียบเก้าอี้ ส.ส.ได้ครบทั้งจังหวัด

ส่วน “นพ.เลอศักดิ์” ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ที่เปิดตัวนั้น ยังมีดีกรีเป็นถึงรอง ผอ.กลุ่มภารกิจด้านบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งชาวภูเก็ตคุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี

โดยพิธาได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเปิดตัวผู้สมัคร ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ตที่ยังไม่ลืมกัน และให้ความไว้วางใจกับพรรคก้าวไกล จนทำให้การเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มาทั้งบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขตทั้ง 3 คน จนเกิดปรากฏการณ์ส้มยกเกาะ ตีฐานบ้านใหญ่ล้มแชมป์เก่าอย่างไม่เห็นฝุ่น

“วันนี้ผมมีข่าวดีจะมาแจ้งให้กับพี่น้องชาวภูเก็ตและพี่น้องประชาชนคนไทย วันนี้เราเลือกภูเก็ตมาเป็นที่โหมโรงนโยบายการเลือกตั้ง อบจ.ของประเทศไทยกันที่ภูเก็ต เพราะฉะนั้น บ้านเมืองจะต้องมีการแก้ไข ขอให้ฟังทางนี้และเตรียมตัวรับมือ เตรียมเวลาไปกาให้พรรคก้าวไกลกันในกุมภาพันธ์ปีหน้า”

“สำหรับบางคนที่อยากจะแก้ไขบ้านเมือง ไม่ว่าท่านอยากจะแก้ไขหรืออยากจะแก้แค้น ท่านต้องออกไปเลือกตั้ง อบจ.กันให้เยอะๆ อบจ.เป็นการเลือกตั้งทั่วประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่แพ้การเลือกตั้งระดับประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา”

 

ปลุกใจด้วยความหวัง ก่อนจะยก 3 เหตุผลว่าทำไมถึงควรไปเลือกตั้ง อบจ. โดยพิธากล่าวว่า เหตุผลที่ 1 เป็นการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ กกต.ต้องใช้งบประมาณภาษีมากมายในการจัดการเลือกตั้งทุกจังหวัดยกเว้นกรุงเทพฯ สมาชิก อบจ.เป็นนิติบัญญัติ ดูปัญหาในพื้นที่ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็นการเลือกตั้งใหญ่ไม่แพ้การเลือกตั้งระดับประเทศ

เหตุผลที่ 2 เป็นผู้บริหารในพื้นที่ แก้ไขปัญหาทันทีรวดเร็ว และมาจากการเลือกตั้ง สำคัญมาก เป็นคนที่ใกล้ชิดประชาชน รู้ปัญหาของประชาชน ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่และเป็นคนที่ใช้บริหารงบฯ ภาษีมากมาย

เป็นคนในพื้นที่ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากการแต่งตั้ง โดยค่าเฉลี่ยผู้ว่าราชการจังหวัดเก่งๆ แต่ใช้เวลาอยู่ในแต่ละจังหวัดแค่ 1 ปีครึ่ง ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอยู่ดี

แต่คนที่เป็นผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งระดับจังหวัดอยู่ได้ 2 สมัย 4 ปี เป็น 8 ปีแก้ไขปัญหาได้ต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องออกมาเลือกตั้ง อบจ.

เหตุผลที่ 3 มีหน้าที่ดูแลบริการสาธารณะให้กับคนในพื้นที่ งบประมาณ 1,200 ล้านบาทไว้ดูแลสารทุกข์สุขดิบประชาชน ภูเก็ตปี 2566 งบฯ 1,200-1,300 ล้านบาท

เป็นงบฯ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสาธารณสุขเกือบครึ่ง

พูดมาขนาดนี้แล้วนายกคนไหน ว่าที่ผู้สมัครคนไหนที่จะดูแลงบประมาณของพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้คุ้มกับภาษีของคนภูเก็ตได้ ถ้าไม่ใช่หมอโอ เลอศักดิ์ ที่รักษาปัญหาที่ปลายเหตุมานาน อยู่ภูเก็ตมาตั้งแต่ 2548 เป็นหนึ่งในหมอที่เกี่ยวข้องกับสมองแค่ 5-6 คนในพื้นที่

 

ก่อนจะอ้อนขอเสียงจากหัวคะแนนธรรมชาติ พร้อมเปิดกลยุทธ์ขายพ่วง “รักพิธา กาหมอโอ” ส่งถึงพี่น้องชาวภูเก็ตที่มาฟังภายในงาน

“หัวคะแนนธรรมชาติ พวกท่านต้องฟื้นกลับคืนชีพอีกแล้ว เรามีภารกิจร่วมกันอีกแล้ว 4 ปีรอได้กลับไปเลือกพิธาเป็นนายกฯ ใหม่ไม่ต้องรอถึง 4 ปี ปีหน้าเลือกได้เลย รักพิธา เลือกหมอโอ ก็แค่นั้น ที่เราอยากได้นายก อบจ.ภูเก็ต ไม่ใช่เพราะยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นรอง ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นหนึ่งในหมอ 5-6 คนมีคนนับหน้าถือตา ไม่จำเป็นต้องมาทำงานการเมืองก็ได้ แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของคนภูเก็ตอย่างไร้รอยต่อ จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่จะให้พวกเราพรรคก้าวไกลแก้ไขปัญหาให้กับคนภูเก็ตอย่างไร้รอยต่อคือ นายก อบจ.”

“พี่น้องทราบไหมว่า ในขณะที่ภูเก็ตเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน มีคนจากทั่วโลกอยากมาเที่ยว คนในภูเก็ตเองได้รับความทุกข์สาหัสแค่ไหน อาชญากรรมอันดับ 1 ของประเทศไทยอยู่ที่ภูเก็ต Top 10 อุบัติเหตุทางท้องถนนรถยนต์เสียชีวิตอยู่ที่ภูเก็ต ค่าครองชีพที่แพงที่สุดในประเทศไทย 1 ใน 3 อยู่ที่ภูเก็ต อัตราการเข้าถึงสาธารณสุขของภูเก็ตอันดับที่ 72 จาก 76 ของประเทศไทย อันดับอัตราคุณครูต่อนักเรียนภูเก็ตอันดับที่ 74 ใน 76 ของประเทศไทย ขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ตอันดับต้นของประเทศ”

“ในขณะที่คนนอกอย่างผม นักท่องเที่ยวต่างประเทศ มองภูเก็ตว่านี่คือสวรรค์ แต่คนในภูเก็ตทุกข์ทรมานมากนะครับ เพราะฉะนั้น เราต้องการผู้บริหารที่มาช่วยเสริม ส.ส.เขตทั้ง 3 คน ในการดูแลคนในและใส่ใจคนนอกภูเก็ตอย่างเท่าเทียมกัน เราจะได้แก้ปัญหา ดูแลผู้สูงอายุอย่างเท่าเทียมกัน แล้วทำงานกันอย่างไร้รอยต่อ ให้เขาเป็นจิ๊กซอว์สุดท้ายในการช่วยกันทำงานให้พี่น้อง”

จนมาถึงประโยคเด็ดที่พิธาประกาศเสียงดังฟังชัดบนเวที “แลนด์บริดจ์ไม่เอา จะเอาแลนด์สไลด์” ที่เรียกเสียงปรบมือจากพี่น้องชาวภูเก็ตดังสนั่น

“เดิมพันของการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ กว่าจะถึงอีก 4 ปี ที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ คราวนี้มั่นใจว่าพ่อแม่พี่น้องจะให้พรรคก้าวไกลอย่างถล่มทลาย บางคนเขาอยากจะบอกว่าอีกหน่อยจะไม่มีพรรคก้าวไกลก็ไม่เป็นไร เขายุบพรรคได้ แต่เขาเอาชัยชนะใจของพวกเราไปไม่ได้ ใช่ไหมครับพี่น้อง”

“อยากจะบอกว่าอีกหน่อยจะไม่มีพรรคก้าวไกลก็ไม่เป็นไร แล้วไม่ว่าจะเป็นชื่อพรรคอะไร ผมมั่นใจว่า คราวหน้าถล่มทลายแน่นอน แลนด์บริดจ์กูไม่เอา กูจะเอาแลนด์สไลด์โว้ย”

 

ถือเป็นฉากแรกของการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต ที่ก้าวไกลเปิดด้วยความมั่นใจนำหน้าพรรคอื่น ที่ยังไม่ได้ขยับตัวในการเมืองท้องถิ่น และยังใช้กลยุทธ์เดิมคือเน้นพลังบริสุทธิ์และคะแนนธรรมชาติ โดยไม่มีบ้านใหญ่เป็นแบ๊กดันหลัง คล้ายกับสมัยของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และได้รับชัยชนะไปอย่างถล่มทลาย

ด้าน “นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล” ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต ก็ได้ออกมาแนะนำตัวพร้อมเปิดนโยบายที่มีความตั้งใจอาสาเข้ามาพัฒนาภูเก็ตต่อหน้าพี่น้อง โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข ที่มุ่งมั่นจะทำหลายด้าน อาทิ เพิ่มศักยภาพ รพ.สต. คัดกรองโรคมะเร็ง มีศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพเข้าถึงชุมชน ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันในสังคม

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายอีกหลายเรื่องที่ต้องการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต หลังได้ซึมซับบรรยากาศการทำงานในโรงพยาบาล ได้เห็นความจริงอันน่าเศร้าว่า โรงพยาบาลเป็นเพียงปลายทางที่สะท้อนปัญหาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ

จึงมีนโยบายที่จะขยายศักยภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้เป็นที่พึ่งของชุมชนได้ เปิด 24 ชั่วโมง และเพิ่มศักยภาพในการคัดกรองโรคให้หลากหลายมากขึ้น โดยจะเปิดพื้นที่ให้ผู้สนับสนุนทุกคนเข้ามาร่วมตรวจสอบและเสนอแนะนโยบายเพิ่มเติมได้ด้วย

นพ.เลอศักดิ์กล่าวย้ำท้ายการปราศรัยเปิดตัว ว่าการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ต้องไม่ละทิ้งคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินภูเก็ตด้วย

โดยตนและทีมงานขออาสาเป็น “จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย” ของก้าวไกล ที่จะเชื่อมการบริหารท้องถิ่นภูเก็ตขึ้นไปสู่นิติบัญญัติระดับประเทศ เพื่อให้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงหวนมาถึงภูเก็ต และทำให้ภูเก็ตดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้