ฟูลมูนปาร์ตี้ | หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ในวงสนทนากับ “อาจารย์โกร่ง” ดร.วีรพงษ์ รามางกูร มีคนจุดประเด็นเรื่อง “ฟูลมูนปาร์ตี้” ที่เกาะพะงันขึ้นมา

ทุกคนในวงล้วนแต่เคยได้ยินถึงความยิ่งใหญ่ของ “ฟูลมูนปาร์ตี้”

รู้ว่าเป็นเทศกาลที่ทำเงินให้ประเทศไทยมากแค่ไหน

แต่ไม่มีใครเคยไป

จำได้ว่าวันนั้น “อาจารย์โกร่ง” เสนอว่าพวกเราควรไป “ฟูลมูนปาร์ตี้” กันสักครั้ง

ไปให้เห็นกับตาว่าทำไมกิจกรรมนี้จึงโด่งดังไปทั่วโลก

ผมชอบ “อาจารย์โกร่ง” ตรงนี้

เขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ติดดิน ให้ความสำคัญกับ “ตัวเลข”

แต่ไม่บูชา “ตัวเลข”

“อาจารย์โกร่ง” จะชอบคุยกับชาวบ้านทั่วไป

เด็กเสิร์ฟ เด็กรับรถ หรือ “แหล่งข่าว” ระดับช่างตัดผมแถวบ้าน

เหมือนเป็นการทำวิจัยแบบไม่เป็นทางการ

เรื่อง “ฟูลมูนปาร์ตี้” เขาก็คงคิดแบบเดียวกัน

ดูสารคดี ดูภาพ ฟังเขาเล่ามา

สู้ไปเห็นด้วยตาจริงๆ ไม่ได้

น่าเสียดายที่ “อาจารย์โกร่ง” ท่านไปอยู่บนดวงจันทร์แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัส “ฟูลมูนปาร์ตี้”

แต่เรื่องนี้ยังค้างคาในใจ

ผมอยากไป “ฟูลมูนปาร์ตี้” สักครั้ง

 

จนวันก่อน “ก้อง เซ็ปเป้” ที่ซื้อที่ดินที่เกาะพะงัน และทำ “คิงคอง บาร์” ริมทะเล

เขาชวนเพื่อนที่เรียน ABC 1 ไปเที่ยวและทำบุญร่วมกัน

กิจกรรมนี้เกิดขึ้นจาก “ก้อง” เคยแวะไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน

โรงเรียนนี้มี “ห้องคอมพิวเตอร์”

แต่ไม่มี “คอมพิวเตอร์”

เขาจึงคิดกิจกรรมทำบุญเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์ให้นักเรียน

ชื่อโครงการน่ารักมาก

“ดื่มเพื่อเด็ก”

มีวงดนตรี “สุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง” ไปเล่น และรายได้ในวันนั้นทั้งหมดจะนำไปซื้อคอมพิวเตอร์ให้เด็กๆ

และเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว

เขาจัดงานให้ตรงกับ “ฟูลมูนปาร์ตี้” เลย

ดังนั้น เมื่อ “ก้อง” ชวน ผมจึงตอบรับทันที

นอกจากได้ไปเที่ยวกับน้องๆ ABC 1 ที่คุ้นเคยกันมานานถึง 10 ปีแล้ว

ยังได้ไป “ฟูลมูนปาร์ตี้” อีก

เจ้าถิ่นบนเกาะนี้นอกจาก “ก้อง” แล้ว ยังมี “เล็ก” ที่เพิ่งขายหุ้นบริษัทที่เขาก่อตั้งมาเพื่อมาปักหลักที่เกาะพะงันอย่างเป็นทางการ

ตอนนี้เขาเพิ่งซื้อโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งมาบริหาร

“ก้อง-เล็ก” บอกว่านักท่องเที่ยวที่มาเกาะพะงันนั้นแตกต่างจากที่อื่นมาก

ส่วนใหญ่จะมีความเป็นศิลปินที่แสวงหาความหมายของชีวิต

บางคนปักหลักที่เกาะพะงันเลย

มีคอร์สกิจกรรมด้าน Heart healing ที่ดีต่อใจเยอะมาก

แกลเลอรี่ หรืองานอาร์ตขายเต็มไปหมด

“เล็ก” บอกว่าตอนนี้มีคนมา 3 กลุ่ม

กลุ่มแรก คือ พวกติสต์ ที่อยู่ในช่วงแสวงหา

กลุ่มที่สอง คือ สตาร์ตอัพหรือคนทำงานรุ่นใหม่ ที่ใช้เกาะพะงันเป็นที่ทำงาน

และกลุ่มที่สามที่เริ่มมาแล้ว คือ นักลงทุนต่างชาติ

แต่กลุ่มใหญ่ที่หมุนเวียนมาทุกเดือน คือ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้

หลังจากที่ห่างหายไปนานช่วงโควิด

วันนี้เขากลับมาแล้ว

 

งานฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มมานานมาก ตั้งแต่ปี 2528

เหตุที่จัดที่หาดริ้น เพราะเป็นชายหาดที่มีคนบอกว่าดูพระจันทร์เต็มดวงสวยที่สุด

ดิสโก้เธคแห่งหนึ่งมาจัดงานขอบคุณนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ในวันพระจันทร์เต็มดวง

จากนั้นก็เริ่มมีการจัดงานลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุด ผับต่างๆ ที่อยู่ริมชายหาดก็จับมือกันจัดเป็นงาน “ฟูลมูนปาร์ตี้” ขึ้นมา

ครับ งานนี้ไม่ได้เริ่มต้นจากภาครัฐ

แต่เริ่มจากภาคเอกชน

งานฟูลมูนปาร์ตี้นั้นตามปกติจะจัดในวันพระจันทร์เต็มดวง คือ วันขึ้น 15 ค่ำ

แต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนกุมภาพันธ์ ตรงกับวันมาฆบูชา

เขาเลยขยับไปอีก 1 วัน

ตอนแรกผมนึกว่าเขากลัวผิดศีลข้อ 5 ในวันสำคัญทางศาสนาพุทธ

แต่ไม่ใช่ครับ

ที่ขยับวัน เพราะวันมาฆบูชาเขาห้ามขายเหล้า 555

พ้นเที่ยงคืนปั๊บ ทุกร้านเปิดขายทันที

ตอนนี้คนที่ดูแลภาพรวมของงาน คือ คณะกรรมการหมู่บ้านหาดริ้น

เขาเก็บค่าเข้าคนละ 200 บาท

“ก้อง” อำนวยความสะดวกด้วยการให้รถมาจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ประมาณกลางๆ หาดริ้น

ผมเดินลงไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ

มองไปด้านซ้าย มีเวทีใหญ่เวทีหนึ่ง มีพระจันทร์จำลองวางบนชายหาด

คนแน่นมาก

มองไปด้านขวา ค่อยโล่งหน่อย

“ฟาง” น้องที่ดูแลกลุ่มเราบอกว่าให้เดินไปด้านขวาก่อน

นัดแนะเวลาว่า 45 นาที มาเจอกันที่นี่

ช่วงหน้าโรงแรมคนเยอะ แต่ไม่แน่นมาก

แต่พอเดินๆ ไปผู้คนเริ่มหนาแน่นขึ้น

และเราเริ่มลอยไปตามฝูงชน

ขยับตัวไปช้าๆ

ยิ่งไกลจากโรงแรมคนยิ่งเบียดแน่นขึ้นกว่าเดิม

ระหว่างทาง ผมก็เก็บข้อมูลบรรยากาศรอบข้าง

จะมีผับ-เธค อยู่บนชายหาดเต็มไปหมด

ทุกแห่งจะเปิดเพลงของตัวเอง

ใครจะเดินไปนั่งดื่มหรือแดนซ์ในร้านก็ได้

หรือจะเต้นหน้าร้านก็ได้

“ฟาง” บอกว่าถ้าใครที่ชอบเต้น มาที่นี่ต้องเปลี่ยนจังหวะแดนซ์ตลอด

เพราะเดินจากหน้าผับหนึ่งไปอีกผับหนึ่ง

เพลงก็เปลี่ยนไป

หน้าผับจะมีโต๊ะเล็กๆ ขายเครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยว

และ “แก๊สหัวเราะ”

เขาจะบรรจุแก๊สลงในลูกโป่งขายครับ

ถามว่า “กัญชา” มีไหม

ผมไม่เห็นใครขาย

แต่กลิ่นฟุ้งเต็มชายหาดเลยครับ 555

มีเวที “คนเล่นไฟ” ให้เห็นเป็นระยะ

ที่น่าสนใจก็คือ งานนี้ชื่อฟูลมูนปาร์ตี้

แต่ผมไม่เห็นมีใครสนใจแหงนดูพระจันทร์เลย

เราเดินแบบเบียดๆ ไปเรื่อยๆ

มองไปข้างหน้า เห็นแต่ผู้คนเบียดแน่น

ไม่รู้ว่ามันจะจบที่ไหน

พักใหญ่ทุกคนเริ่มหันมามองหน้ากัน แล้วพยักหน้า

กลับดีกว่า

เราเลือกทางเดินริมทะเลที่ค่อนข้างโล่งหน่อย

เชื่อไหมครับว่าแค่เดินไปและเดินกลับ

เราใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง

ช่างเป็นชายหาดที่กว้างใหญ่จริงๆ

 

ตอนเย็นวันต่อมา เรามากินมื้อเย็นที่โรงแรมนี้ก่อนจะเดินทางกลับ

ชายหาดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนเมื่อคืนก่อน

ว่างโล่ง มีคนนอนอาบแดดเป็นจุดๆ บนผืนทราย

หาดริ้นในตอนเย็นสวยงามมากครับ ทรายขาวละเอียด น้ำใสมาก

ต้องชมคณะกรรมการหมู่บ้านหาดริ้นที่ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญ ผมมองไปทางซ้ายที่เมื่อคืนเป็นเวทีที่มีพระจันทร์จำลอง

เฮ้ย…ทำไมมันเล็กมาก

มองไปทางขวาที่เราใช้เวลาไป-กลับ 1 ชั่วโมง

โห…หาดแค่นี้เอง

เดินไป-กลับ สุดชายหาดไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 20 นาที

ไม่น่าเชื่อ

ความรู้สึกของเมื่อคืนกับวันนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

มีข่าวใน “มติชนออนไลน์” บอกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้เมื่อคืน 30,000 คน

ผมคำนวณอย่างรวดเร็ว

ค่าเข้า 200 บาท 30,000 คน ก็ 6 ล้านบาท

ถ้านักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินในงานคนละ 1,000 บาท

ก็ 300 ล้านบาทในคืนเดียว

ยังไม่รวมค่าห้องพักที่เต็มทุกแห่ง

และเงินที่ใช้จ่ายในวันอื่นๆ อีก

 

เมื่อคืน ก่อนกลับจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ ผมแหงนมองพระจันทร์เต็มดวง

แล้วพูดในใจ

“อาจารย์ครับ ผมมาดูงานฟูลมูนปาร์ตี้ให้แล้วนะครับ”

ตอนแรกจะบอกแค่นี้

แต่ด้วยความรอบคอบ กลัวว่า “อาจารย์โกร่ง” อยากรู้เรื่องเร็วๆ

“เอ่อ…ผมสัญญาว่าจะไปเล่าให้อาจารย์ฟังอย่างละเอียด” ผมบอก

“แต่ขอเวลาอีกสัก 20 ปีนะครับ” •

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์