อนาคตรัฐบาล หลังจันทร์ส่องหล้ายุคใหม่ | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

หลังจาก “ดีลลับ” เป็นสิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยปฏิเสธมาเกือบปี

ในที่สุดภาพคุณทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าก็เป็นใบเสร็จยืนยันแล้วว่า “ดีลลับ” มีจริง

และการทำทุกทางให้คุณทักษิณกลับบ้านคืองานที่ประสบความสำเร็จก่อนนโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงในทุกกรณี

เมื่อเทียบกับนโยบายที่คุณเศรษฐา ทวีสิน และคุณแพทองธารพูดแต่ไม่ทำอย่างขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 ในปี 2567, แจกเงินทุกคนหนึ่งหมื่นบาทโดยไม่กู้, จ่ายให้ทุกครอบครัวมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท ฯลฯ

การที่ภารกิจที่เรียกว่า “ดีลลับ” สำเร็จขณะรัฐบาลไม่มีผลงานใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ดีกับเพื่อไทยเลย

ยิ่งรัฐบาลสาละวนกับการแก้ตัวแทนคุณทักษิณ และยิ่งรัฐมนตรีมาประกาศกลางทำเนียบแทนหมอว่าคุณทักษิณกระดูกหัก, เส้นเอ็นขาด และกล้ามเนื้อเปื่อยยุ่ย ความรู้สึกของประชาชนว่ารัฐบาลทุ่มเทพลังกับเรื่องคุณทักษิณกว่าเรื่องอื่นก็จะรุนแรงขึ้น

ต่อให้รัฐบาลจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่เกี่ยวก็ตาม

 

ปริศนาที่ไม่มีใครรู้คือคุณทักษิณต้องทำอะไรเพื่อแลกกับ “ดีลลับ” เมื่อเทียบกับหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณทักษิณต้องการได้ในระยะยาว

เพราะถึงแม้ตอนนี้ “ดีลลับ” จะทำให้คุณทักษิณกลับบ้านโดยไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว แต่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังกลับไม่ได้ และคุณทักษิณยังมีคดี 112 ค้างอยู่อีกคดี

ขณะที่ความต้องการกลับบ้านทำให้เพื่อไทยจับมือกับคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา และคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเพื่อสกัดก้าวไกล ความต้องการเอาคุณยิ่งลักษณ์กลับไทย และความไม่ต้องการถูกฟ้อง 112 จากคำสัมภาษณ์ว่าใครอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 2549 ก็แปลว่าคุณทักษิณมีอะไรต้องทำอีกมากเหลือเกิน

เฉพาะกรณีคุณยิ่งลักษณ์ที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ข้อหาปล่อยปละให้มีทุจริตจำนำข้าว คำสัมภาษณ์ของอัยการปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ในรายการของคุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ชี้ให้เห็นโอกาสที่ฝ่ายคุณยิ่งลักษณ์จะขอรื้อฟื้นคดี และสิ่งที่อาจมีคนต้องทำเพื่อให้คุณยิ่งลักษณ์หลุดคดีทั้งที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้วก็ตาม

ต้องไม่ลืมว่าคุณยิ่งลักษณ์โดนจำคุกเพราะปล่อยให้รัฐบาลขายข้าวกับรัฐวิสาหกิจจีนโดยผิดกฎหมาย ซ้ำตัวแทนจีนยังเป็นผู้ช่วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย

การรื้อฟื้นคดีให้คุณยิ่งลักษณ์พ้นผิดจึงต้องมีหลักฐานใหม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้ปล่อยปละ ซึ่งเป็นไปแทบไม่ได้ หากไม่มีการตีความหลักฐานแบบพิสดาร

ยิ่งคิดถึงคดี 112 ที่คุณทักษิณจะรอดคดีได้ก็ต่อเมื่ออัยการยกฟ้องหรือขยายระยะเวลาการสืบสวนไปไม่มีกำหนด อนาคตคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ก็ยิ่งอยู่ในมือเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

คุณทักษิณจึงยิ่งต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแลกกับอิสรภาพของตัวเองและคุณยิ่งลักษณ์จริงๆ

หากอัยการยกฟ้องคุณทักษิณทั้งที่เคยมีหมายจับคุณทักษิณไปแล้วหลังหนีคดี อัยการก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมหลักฐานเดิมที่เป็นเหตุให้ออกหมายจับคุณทักษิณ กลับกลายเป็นไม่มีน้ำหนักจนต้องยกฟ้องคุณทักษิณ และท่าทีอัยการเรื่องนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะอะไร?

ยิ่งคิดถึงเรื่องที่คุณทักษิณต้องทำเพื่อพาคุณยิ่งลักษณ์กลับไทย ฉากอนาคตที่เห็นได้ทันทีคือการลากจูงอัยการและกระทรวงยุติธรรมมาช่วยคุณยิ่งลักษณ์แบบช่วยคุณทักษิณเยอะไปหมด ไม่ว่าจะในแง่รื้อฟื้นคดี, กลับไทยโดยไม่ติดคุก, มาแล้วป่วยทันที ฯลฯ สุดแท้แต่ความหนา-บางของแต่ละคน

 

ถ้ายอมรับความจริงว่ารัฐบาลข้ามขั้วคือ “ดีลลับ” ข้อแรกเพื่อสกัดไม่ให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล

ดีลลับข้อสองก็น่าจะเป็นปฏิบัติการกำจัดแคนดิเดตนายกฯ และกำจัดพรรคก้าวไกลให้สิ้นซากทั้งหมด และสิ่งที่ต้องจับตามองคือคุณทักษิณจะมีบทบาทอย่างไรก่อนถึงวันพิพากษายุบพรรคเดือนพฤษภาคม

ต้องไม่ลืมว่าหนี่งสัปดาห์ก่อนคุณทักษิณกลับบ้านคือช่วงเวลาที่คุณภูมิธรรม เวชยชัย โจมตีคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลางสภาว่าเกี่ยวกับกลุ่มป่วนขบวนเสด็จ

คำถามคือคำพูดคุณภูมิธรรมแบบนี้เป็นความคิดที่พูดโดยไม่คิดของคุณภูมิธรรมเองล้วนๆ หรือเป็นภาพสะท้อนของยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเพื่อไทยจะใช้โจมตีพิธา

ตรงข้ามกับคำอธิบายของรัฐบาลว่าคุณทักษิณกลับบ้านคือสัญลักษณ์ความปรองดอง ทุกอณูใน “ดีลลับ” ล้วนเกี่ยวพันกับการตอกย้ำว่าเสียงประชาชนหมดความหมาย ไม่ว่าจะเป็นสกัดไม่ให้พรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล, การไม่ต้องนอนคุก หรือการกำจัดแคนดิเดตนายกฯ ที่ชนะเลือกตั้งอย่างถาวร

ประชาธิปไตยคือการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ทุกอณูของระบอบประชาธิปไตยจึงต้องอิงหลักการเรื่องอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ต่อให้ความจริงจะเป็นหรือไม่ และแค่ไหน

แต่ใน “ดีลลับ” ทั้งหมดกลับมีแต่การตอกย้ำว่าประชาชนอยู่ต่ำกว่าผู้มีอำนาจตลอดเวลา

 

คุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ถูกรังแกจากรัฐประหารปี 2549 และ 2557 แต่ข้อเท็จจริงคือมีคนที่ถูกอำนาจมืดหลังรัฐประหารรังแกแบบพี่น้องคู่นี้เป็นร้อย ตราบใดที่ปฏิบัติการ “ดีลลับ” เดินหน้า ตราบนั้นคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ก็เป็นสัญลักษณ์ของอภิสิทธิ์ชนที่ได้ความยุติธรรมแบบเทวดาไม่กี่คน

สำหรับคนที่เชื่อแบบรัฐบาลอ้างว่าคุณทักษิณกลับบ้านตามกฎหมายจนไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน ตรรกะพื้นฐานคือยังไงคุณทักษิณก็ต้องกลับบ้านตามขั้นตอนทางกฎหมาย ผิดขั้นตอนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นรัฐมนตรียุติธรรมกับอธิบดีราชทัณฑ์ติดคุก เผลอๆ โทษจะลามคุณเศรษฐาที่ไม่ขัดขวางเรื่องนี้อีกคน

มองในแง่นี้ การทำตามกฎหมายไม่ได้บอกอะไรเลยมากกว่าทำไงไม่ให้คนที่ช่วยเหลือคุณทักษิณมีจุดจบแบบคุณบุญทรง เตริยาภิรมย์

ความเป็นอภิสิทธิ์ชนกรณีนี้ไม่ใช่การทำตัวเหนือกฎหมาย แต่คือการมีขบวนการหัวหมอคุ้ยช่องทางกฎหมายเพื่อตอบสนองคุณทักษิณในเรื่องเหนือคนธรรมดาที่สุด ผลก็คือคุณทักษิณโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่นอนโรงพยาบาล 180 วันแล้วได้กลับบ้านเหมือนอีก 900 คนที่ต้องนอนคุกมานับสิบปี

ปัญหาคุณทักษิณจึงอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สะเทือนรัฐบาลเศรษฐาระยะยาวอย่างที่ยังไม่มีใครประเมินจุดจบได้ในปัจจุบัน