ทหารเมียนมา : ประเพณีและโครงสร้าง | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์
(Photo by Sergei BOBYLYOV / TASS Host Photo Agency / AFP)

ครบรอบ 3 ปีแห่งการรัฐประหารเมียนมาเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีอะไรที่ต้องแซ่ซ้องสรรเสริญ ไม่มีอะไรจับต้องได้ในความสำเร็จทางการเมือง การทหาร การทูต และเศรษฐกิจ

แรงกดดันนานาชาติเพิ่มขึ้น นำไปสู่ความสูญเสียของรัฐบาลบริหารประเทศที่เรียกว่า State Administrative Council – SAC ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย 3 ปีทหารเมียนมาประสบการถดถอยอย่างคาดไม่ถึงในแง่เกียรติภูมิ เผชิญการต่อต้านทางจิตใจและกายภาพ สูญเสียเมืองสำคัญหลายเมือง

ท่ามกลางสถานการณ์ถดถอย เกิดการวิจารณ์สาธารณะแม้แต่จากผู้สนับสนุนทหาร รวมทั้งพระสุดโต่งและหมู่ทหาร ไม่นานมานี้ มีข่าวลือต่อต้านรัฐประหารภายในผู้นำทหารต่อมิน อ่อง ลาย แพร่ไปทั่ว มีการเห็นพ้องกันว่าสถานะของมิน อ่อง ลาย เลวร้ายมาก ดูจากผู้มีโอกาสสืบทอดตำแหน่งจากเขา 10 คน วัดจากด้านการทหาร การบริหาร ความสามารถขององค์กร รวมทั้งมุมมองทางทหาร การเมือง เศรษฐกิจ การบริหาร แม้สถานการณ์ท้าทายมาก การสั่งโยกย้ายภายใต้การควบคุมของมิน อ่อง ลาย ยังมีโอกาสน้อยมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เผด็จการยังเป็นปัญหาต่อเผด็จการเมียนมาเสียเอง

ลองดูในเผด็จการเมียนมาตอนนี้

 

เผด็จการทหารเมียนมาและฝ่ายสนับสนุน

ระหว่างการรณรงค์สนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาเนื่องในวันครบรอบ 3 ปีรัฐประหารเมียนมาที่เมือง Pyin Oo Lwin มณฑลมัณฑะเลย์ 16 มกราคม 2024 พระผู้ใหญ่ฝ่ายนิยมทหาร U Ariya Wun เดินขบวนเรียกร้องให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย หัวหน้าคณะรัฐประหารให้นำสถานะพลเรือนของเขากลับมาใช้อีกครั้ง

พระผู้ใหญ่ยืนยันว่าตำแหน่งพลเรือนและตำแหน่งทางทหารอยู่ร่วมกันได้

นอกจากนั้น ท่านยังแนะนำตำแหน่งประธานกำลังป้องกันประเทศ (Chief Defense Forces) ควรมอบให้รองประธานสภาทหาร (Military Council) พล.อ.อาวุโส โซ วิน (Soe Win) เป็นแทน พระผู้ใหญ่ท่านเห็นว่า โซ วิน เหมาะกับตำแหน่งนี้ เพราะเป็นนายพลที่เข้มแข็ง

ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเหมาะกับพลเรือน ซึ่งควรเป็นตำแหน่งของมิน อ่อง ลาย

ข้อเสนอนี้ของ U Ariya Wun และพระผู้ร่วมประท้วงพร้อมเผชิญถูกจับกุม แล้วพวกท่านก็ถูกจับจากข้อเรียกร้องนี้ 1 วันหลังการประท้วง และต่อมาได้รับการปล่อยตัว

นักวิเคราะห์ให้ข้อมูลว่า ข้อเรียกร้องของพระสุดโต่งท่านนี้เผยแพร่ไม่เพียงกลุ่มสนับสนุนทหาร แต่ยังเข้าไปในกลุ่มผู้สนับสนุนอื่นๆ ในสภาทหาร ที่ได้อำนาจจากรัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์ 20211

หมายความว่า มีความไม่พอใจและมีความไม่ลงรอยภายในสภาทหาร อีกทั้งยืนยันให้เห็น ความไม่สามารถต่อต้านมิน อ่อง ลาย ประธานสภาทหารได้

พระฝ่ายนิยมทหารแสดงออกเปิดเผยในการรณรงค์สนับสนุนทหารถึงความปรารถนาของพวกตนให้มิน อ่อง ลาย ลาออกจากตำแหน่ง คำปราศรัยของพระผู้ใหญ่สุดโต่ง U Aruya Wun มีการพูดคุยในเครือข่ายโซเชียลในกลุ่มผู้สนับสนุนทหาร หลายคนยืนยันให้มิน อ่อง ลาย ลาออก แนะให้แต่งตั้งผู้นำที่แสดงความกล้าในการตัดสินใจ มิน อ่อง ลาย ไม่ใช่ “ผู้ถือดาบ” (Sword wielder)

นี่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญมากและท้าทายต่อมิน อ่อง ลาย มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีพัฒนาการและความเป็นจริงทางการเมืองรองรับ

พอสรุปได้ดังนี้

 

1.การปลดและย้าย อดีตประธานสภาทหาร พล.อ.ตาน ฉ่วย (Than Shwe) โดย มิน อ่อง ลาย ก็เหมือนการปลด พล.อ.ซอ หม่อง (Saw Maung) ปี 1992 ซึ่งเหมือนเรื่องเหลือเชื่อ ความจริง พล.อ.ตาน ฉ่วย เลือกมิน อ่อง ลาย มากับมือของเขาจากเหล่านายพลอาวุโสทั้งหลาย แต่ พล.อ.ตาน ฉ่วย ได้สูญเสียอำนาจที่ครั้งหนึ่งเคยคุมกองกำลังให้มิน อ่อง ลาย

2. เมษายนและพฤษภาคม 2023 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเข้าพบกับ พล.อ.ตาน ฉ่วย เขาแนะให้จีนมั่นใจในอำนาจของเขามากกว่ามั่นใจในมิน อ่อง ลาย อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่า พล.อ.ตาน ฉ่วย มั่นใจตัวเองเกินไป รวมทั้งการทำรัฐประหารและการกระทำบางอย่างในอนาคต2

3. ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหาร พล.อ.ตาน ฉ่วย เคยต้อนรับอดีตนายทหารระดับสูงที่มาแสดงการคารวะหรือขอคำแนะนำจากเขาบ่อยๆ เกือบ 1 เดือนหลังเริ่มยุทธการ 1027 มิน อ่อง ลาย ไปคารวะ พล.อ.ตาน ฉ่วย ต่อมา พล.อ.ตาน ฉ่วย พยายามแนะนำให้มิน อ่อง ลาย เกษียณจากตำแหน่งเพราะเรื่องอายุ แต่ผลกลับตรงกันข้าม มีการเปลี่ยนหน่วยคุ้มกันทันทีและเพิ่มหน่วยคุ้มครองรอบบ้าน พล.อ.ตาน ฉ่วย นี่เป็นสัญญาณเตือนแรงๆ จากมิน อ่อง ลาย

ดังนั้น พล.อ.ตาน ฉ่วย ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากภาวนาไม่ให้โดนโต้กลับแบบที่เขากำจัดอดีตเผด็จการ พล.อ.เนวิน (Ne Win) พล.อ.ขิ่น ยุ้นต์ (Khin Nyunt) และหน่วยข่าวกรองทหารทั้งหมด

4. ตอนนี้อดีตผู้นำทหารคนอื่นๆ ไม่อยู่ในตำแหน่งและหมดอำนาจท้าทายความเป็นผู้นำของมิน อ่อง ลาย ได้แก่ พล.อ.หม่อง เอ (Maung Aye) เป็นอัมพาต และ พล.อ.ขิ่น ยุ้นต์ ตกเลือดในสมอง พล.อ.อู เตง เซ่ง (U Thein Sein) คือผู้แข่งขันคนหนึ่งแต่ไร้บทบาท และ ฉ่วย มาน (Shwe Mann) ก็อ่อนแอตั้งแต่เขาถูกขับออกจากผู้นำทหารที่หนุนพรรคสนับสนุนทหารคือ พรรค USDP และกลายเป็นที่รู้กันในภายหลังว่า เกิดรัฐประหารกลางคืน สิงหาคม 2015

5. รองประธานสภาทหาร พล.อ.โซ วิน เห็นกันบ่อยๆ ว่าเป็นทายาททางการเมืองได้ มิน อ่อง ลาย ไม่มีอะไรไม่พอใจต่อตัวเขา โดยเฉพาะหลังจากย้ายเสนาธิการทหารบก พล.อ.เมียว มิน ตุน (Moe Myint Tun) ซึ่งอ้างว่าเป็นมือขวาของมิน อ่อง ลาย และมีโอกาสเป็นทายาททางการเมือง พล.อ.โซ วิน มีตำหนิที่แก้ไขไม่ได้ ซึ่งหลายคนไม่รู้ ลูกชายของเขา 2 คนถูกข่มเหงเกินไป แต่มิน อ่อง ลาย ได้กล่าวขอโทษว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ พล.อ.โซ วิน

6. การกระทำของ พล.อ.โซ วิน ระหว่างการเดินทางของมิน อ่อง ลาย ไปเยือนรัสเซียปี 2022 พล.อ.โซ วิน ถูกกล่าวหารุนแรงว่า ไม่สนใจข่าวลือรัฐประหาร วันนั้นเขายืนและพูดคุยต่อหน้ามิน อ่อง ลาย แล้วมิน อ่อง ลาย พูดพลางหัวเราะพลางก่อนออกเดินทางไปเยือนรัสเซีย

มีข่าวว่า พล.อ.โซ วิน ถึงกับช็อกทีเดียวต่อหน้านายทหารคนอื่นๆ พล.อ.โซ วิน แสดงความเคารพมิน อ่อง ลาย ทันทีและพูดถึงนาย “ไม่มีทาง” พวกเขาคือใคร ผมจะทำลายพวกเขาอย่างแน่นอน โปรดเชื่อมั่นต่อไป

 

ทหารเมียนมา
ประเพณีและโครงสร้าง

ในประวัติศาสตร์ของทหารเมียนมาได้ให้ความเป็นสถาบัน (Institutionalization) ต่อทหาร ไม่เหมือนในอดีตที่อดีตนายทหารออกจากตำแหน่งทหารแล้วยังสามารถมีบทบาทในกิจการภายในปัจจุบันได้ เนื่องจากโครงสร้างและสายการบังคับบัญชา นี่เป็นรูปแบบ ทหารมือเดียว-สายตรงคนเดียว (One-Handed Military Model) แล้วมันได้กลายเป็นประเพณีที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในกิจการทหารทั้งหมด รวมทั้งรองผู้บังคับบัญชาทหารจะเชื่อฟังคำสั่งที่สั่งโดย ‘ผู้นำสูงสุด’ ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีตำหนิและตำแหน่งของเขามีปัญหา เคยมีการพูดในบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ ความจริงคือ ความปรารถนาของบุคคลที่มีอำนาจต้องทำตามอย่างเดียว

ที่สำคัญตอนนี้ มิน อ่อง ลาย ขยายเวลาการโยกย้ายผู้นำทหารระดับสูงออกไป โดยการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในผู้นำทหารจะเป็นไปตามความปรารถนาของมิน อ่อง ลาย เอง มีการท้าทายน้อยมาก

SAC เองถูกปฏิรูปอย่างน้อย 4 ครั้ง ดังนั้น แม้มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก็อาจเป็นเพราะความต้องการของมิน อ่อง ลาย เอง

มีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนย้าย “ดาบ” จากมือขวามาเป็นมือซ้าย แต่ไม่มีใครกล้าท้าทาย

เผด็จการท้าทายและกัดกินเผด็จการด้วยกันเอง ชาติไหนๆ ก็ไม่มีวันพัฒนา

 


1อ้างจาก “Three year Coup Anniversary” Mizzima Weekly, 1 February 2024, : 13.

2เพิ่งอ้าง : 14.