‘ลูกนักการเมือง’ ดังอีก สาวแจ้งจับคดีอนาจาร วงจรปิดชัดฉุดกระชาก ‘เควิน’ มอบตัว-ปฏิเสธ

คดีความรุนแรงทางเพศไม่เคยหมดไปจากสังคม โดยเฉพาะเมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักการเมือง นักธุรกิจหรือข้าราชการระดับสูง ก็จะกลายเป็นที่จับจ้องของคนในสังคม

ล่าสุด ลูกชายนักการเมืองใหญ่ถูกกล่าวหาว่าทำอนาจารหญิงสาวในบ้านของตนเอง

จึงเป็นข่าวใหญ่ที่ต้องตามเกาะติดว่าเรื่องราวความจริงจะเป็นเช่นไร

ณพวีร์ เตชะอุบล (เควิน)

แจ้งจับลูกนักการเมืองใหญ่

เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ สน.ประเวศ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขาฯ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายวัย 25 ปี ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูกหนุ่มไฮโซนักธุรกิจ ลูกชายนักการเมืองใหญ่ พยายามใช้กำลังและกระทำอนาจาร เหตุเกิดที่บ้านพักซอยพรีเมียร์ 1 แยก 4 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายหลังเข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์

น.ส.เอเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนสาวไปดื่มที่ผับแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่มีโต๊ะนั่งเลยไปยืนกับเพื่อนที่บาร์เหล้า

ต่อมามีชายรู้จักกันเป็นลูกไฮโซนามสกุลดัง และเป็นเพื่อนของแฟนตนซึ่งเป็นตำรวจเข้ามาทัก และชวนตนกับเพื่อนไปนั่งที่โต๊ะซึ่งมีเพื่อนชายหญิง รวม 5-6 คนนั่งดื่มกินกันก่อนแล้ว

เมื่อไปอยู่ที่โต๊ะ ชายคนดังกล่าวให้ตนดื่มเหล้าเตกีล่าจากขวด โดยจับขวดกรอกปากประมาณ 5-6 ครั้ง จนตนมีอาการมึนเมา จึงโทร.เรียกแกร็บจะนั่งรถไปหาแฟนที่ผับอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน

แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้ไป ให้ดื่มต่อแล้วเอาโทรศัพท์ของตนไปเก็บไว้ไม่คืน

สุดท้ายตนบอกว่าเมาแล้วจะกลับบ้าน เดินออกมาหน้าร้านชายคนดังกล่าวเดินตามออกมาพร้อมโทรศัพท์บอกว่าถ้าจะกลับบ้านจะไปส่ง จึงยอมนั่งรถยนต์ไปด้วย

น.ส.เอเล่าอีกว่า พอขึ้นรถได้ก็หลับไปด้วยความเมา มารู้สึกตัวอีกทีพบว่ารถมาจอดในบ้านเหมือนคฤหาสน์ ตนตกใจไม่ยอมลงจากรถ ชายคนดังกล่าวพยายามให้ลงจากรถมาเปิดประตูรถดึงข้อมือตนออกจากรถ จนล้มลงข้างรถ

ตอนนั้นตนอ้วกออกมาด้วย ชายคนดังกล่าวก็บอกว่าให้ไปเข้าห้องน้ำล้างปาก ตนไม่อยากเข้าบอกจะกลับบ้าน แต่ชายคนดังกล่าวมานั่งอ้อนวอน และดึงตัวเข้าไปในบ้าน พาไปที่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว

เมื่อเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าล้างตาออกมา พบว่าชายคนดังกล่าวได้ถอดกางเกงขายาว นุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ แต่ยังใส่เสื้อทำให้ตนตกใจ ชายคนดังกล่าวพุ่งเข้ามากอด มีลักษณะจะทำมิดีมิร้าย ตนอ้อนวอนขอไปสูดอากาศนอกบ้าน โดยสะพายกระเป๋าออกไปด้วย แต่เขายังไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้ พอเขาเผลอและประตูรั้วบ้านเปิดแง้มไว้ ตนจึงวิ่งหนีออกจากบ้านไกลเกือบร้อยเมตรในซอยมืดและเปลี่ยวมาก ร้องขอความช่วยเหลือ

แต่ชายคนดังกล่าววิ่งตามออกมาทัน จับตัวตนลากถูไปกับถนนมาที่ถนนหน้าบ้านอีก ทำให้บาดเจ็บที่ฝ่ามือถลอกทั้ง 2 ข้าง หัวเข่าทั้ง 2 ข้างบวมช้ำ เป็นแผล และยังบาดเจ็บที่นิ้วหัวแม่โป้งเท้าทั้ง 2 ข้าง

และเมื่อมีจังหวะตนวิ่งหนีออกมาทางเดิม และเห็นป้อมยามของหมู่บ้าน ได้ไปขอความช่วยเหลือ แต่ รปภ.ไม่ยอมช่วย

ขณะเดียวกันมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย ตนจึงขอความช่วยเหลือขึ้นซ้อนท้าย ชายคนดังกล่าวพยายามรั้งตนลงจากรถ แต่คนขี่รถจักรยานยนต์เร่งเครื่องรอดพ้น ก่อนเข้าแจ้งความ และไปตรวจร่างกายที่ รพ.จุฬาฯ

ต่อมาวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.ศิริพงษ์ วรรณสัมผัส สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ ให้มารับโทรศัพท์คืน และวันที่ 8 กุมภาพันธ์ สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม

นอกจากคำให้การของ น.ส.เอแล้ว ยังมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้านที่เกิดเหตุ ระบุเวลาประมาณ 02.57 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 จะเห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่ง วิ่งหนีออกไปจากบ้านหลังหนึ่งแบบไม่คิดชีวิต จากนั้นเวลา 03.12 น. กล้องตัวเดิมจับภาพของผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้ได้ ในลักษณะเหมือนตามไปดึงฉุดกระชากหรือดึงผู้หญิงกลับมา ถ้าดูจากภาพเหมือนฝ่ายหญิงพยายามขัดขืนไม่ยอมไป

ไฮโซเควินมอบตัว – ปฏิเสธข้อหา

ตร.ออกหมายเรียก-แจ้ง 3 ข้อหา

พ.ต.ท.พีรวัฒน์ สุขรมย์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ประเวศ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้ส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายพร้อมสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเหลือพยานอีก 1 ปากที่เป็นผู้พาผู้เสียหายออกจากที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้มีพยานหลักฐานครบ จึงเตรียมออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือ

1. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ

2. กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ

3. กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ เหตุที่ไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากโทษทางคดีสั่งจำคุกไม่เกิน 3 ปี และผู้ก่อเหตุมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

พอเป็นเรื่องราวขึ้นตามหน้าสื่อต่างๆ สังคมก็ต่างจับจ้องว่านักการเมืองใหญ่ที่ลูกชายถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุในครั้งนี้เป็นใคร ถึงมีพฤติกรรมอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายได้ขนาดนี้

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์และผู้ก่อเหตุมีชื่อเสียงและเกี่ยวข้องในแวดวงการเมือง

จึงได้สั่งการให้ทาง บก.น.4 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย

เหยื่อสาวตามคดีที่สน.ประเวศ

ต่อมา นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้เป็นบิดา ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า เรื่องที่มีคนไปแจ้งความกล่าวหาไม่เป็นความจริง ระบุเป็นขบวนการแบล็กเมล์ทำให้เสียชื่อเสียง ตอนนี้กำลังให้ทนายจัดการดำเนินคดีกลับ ยืนยันไม่มีการไปทำร้ายร่างกายตามที่อ้าง หรือยึดโทรศัพท์เอาไว้

นายอภิชัยกล่าวด้วยว่า ถ้าลูกตนทำไม่ดีจะไม่ว่า แต่ถ้าโดนกลั่นแกล้งแบบนี้ก็ว่าไปตามกฎหมาย ผิดก็คือผิดก็จบไป ให้ติดคุกไม่ช่วยเหลือ แต่สิ่งที่พวกนี้ทำ และออกมาพูด มีการวางแผนอย่างดี และไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องการทำให้เราเสียชื่อเสียง จึงต้องดำเนินการกลับ ไม่มีการไกล่เกลี่ย คนพวกนี้ต้องเอาให้เข็ด ต้องสั่งสอนอย่าไปทำร้ายคนอื่น ไม่ใช่คิดว่าเขามีเงินก็ทำได้

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องถามว่าตัวกรรมการบริหารพรรคได้ไปทำผิดหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรค อย่าพยายามโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะนายอภิชัยเป็นสมาชิกพรรค แต่ลูกชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนกรณีที่สมาชิกของพรรคภูมิใจไทย พาผู้เสียหายไปแจ้งความ ทางพรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหากันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ต้องแยกระหว่างผู้กระทำความผิดต้องให้สิทธิ์เขาในการโต้ตอบ ส่วนที่ถูกสังคมกล่าวหา ก็ต้องให้ตำรวจสอบสวน หากเอามาเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหมด ลูกหลานใครก็เอาไปโยงกับพรรคนั้นพรรคนี้ แบบนี้ไม่มีใครอยากเป็นนักการเมือง ก็ต้องแยกแยะให้ชัดเจน

ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ทางพรรคพลังประชารัฐมีความห่วงใยในเรื่องของการใช้ความรุนแรงกับสตรีมาโดยตลอด ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสนับสนุนนโยบายด้านการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนและพัฒนากลุ่มสตรีด้วย

“พปชร.ขอยืนยันว่า พรรคเราไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในสังคมไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ หรือหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นการกระทำผิด ดังนั้น ต้องรอกระบวนการพิสูจน์ สืบสวน ไต่สวนในขั้นตอนต่อไปก่อน” โฆษก พปชร.กล่าว

สภาพเหยื่อสาว

จากนั้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายณพวีร์ เตชะอุบล หรือเควิน อายุ 27 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนง ก่อนศาลให้ประกันตัววงเงิน 2 แสนบาท

ด้านอภิชัย ซึ่งเป็นพ่อได้ปล่อยคลิป ก่อนที่ลูกชายจะไปรับทราบข้อกล่าวหาโดยมีท่าทีอ่อนลง ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามติดต่อฝ่ายหญิง สอบถามด้วยความห่วงใยและตั้งใจจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนที่ไม่ได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเกรงว่าฝ่ายหญิงจะได้รับความเสียหาย

เจ้าตัวระบุด้วยว่า รู้สึกไม่สบายใจกับภาพวงจรปิดที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ เพราะเป็นภาพเพียงบางส่วนของเหตุการณ์ทั้งหมด อาจจะทำให้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เกิดความเข้าใจผิด จึงขอให้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักของตนให้สื่อมวลชนเพิ่มเติม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายของตน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะฟ้องร้อง เอาเรื่อง หรือดำเนินคดี กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด

และบอกด้วยว่า บุตรชายก็พร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการมอบตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

จะทำจริงตามคำกล่าวหาของหญิงสาวผู้เสียหาย หรือเป็นขบวนการแบล็กเมล์ทำให้เสียชื่อเสียง ตามที่นักการเมืองใหญ่บิดาของนักธุรกิจไฮโซออกมาตอบโต้ อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน

วงจรปิดนาทีฉุดกระชากจนหญิงสาวล้ม