‘ท้องฟ้าสีคราม’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

เดือนกุมภาพันธ์

ในบางวัน เราตกอยู่ภายใต้พายุฝน ทั้งๆ ที่นี่เป็นช่วงเวลาแห่งฤดูแล้ง

แต่ฝนก็ไม่ได้ช่วยให้ท้องฟ้าสดใส เราอยู่ใต้ท้องฟ้า และบรรยากาศขมุกขมัว อากาศยังคงเย็นจัด โดยเฉพาะตอนเช้ามืด

วันหนึ่ง ราว 10.00 นาฬิกา ขณะแหงนหน้ามองผ่านช่องว่างของแนวไม้หนาทึบ สิ่งที่เห็นคือ แผ่นฟ้าสีครามเข้ม เข้มจัด อันเป็นปกติของช่วงเวลาฤดูหนาว

อีกนั่นแหละ นี่คล้ายเป็นเรื่องธรรมดา ช่วงเช้ากระทั่งถึงก่อนเที่ยง ท้องฟ้าจะเป็นเช่นนี้ แสงแดดจัดจ้า ไร้เมฆ เวลาบ่ายนั่นแหละ จะเป็นเวลาของฝน

จึงดูเหมือนว่า ในหนึ่งวัน เราอยู่กับสองฤดูกาล

ในอีกความหมาย ท้องฟ้ากำลังบอกถึงความไม่แน่นอน ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ

 

พายุฝน ในฤดูที่เป็นเวลาของฤดูแล้ง สิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่พ้นคือ ต้นไม้ล้มขวางเส้นทาง ที่เป็นร่องลึก รวมทั้งกอไผ่ซึ่งช้างดึงลงมากองระเกะระกะ

สภาพปกติที่เราจะต้องพบคือจุดหมายที่มีระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเป็นวัน

ก่อนถึงจุดหมาย อันเป็นตำแหน่งที่เราใช้พักแรม ราวสองกิโลเมตร เส้นทางจะลัดเลาะไปตามหน้าผาสูง ด้านล่างเป็นลำห้วยไหลคดเคี้ยวขนาบด้วยทิวเขาซับซ้อน

ที่นั่นเราตั้งกล้องดักถ่ายภาพไว้ กล้องตั้งทิ้งไว้กว่าเดือนแล้ว ฉากหลังอันงดงาม ไม่ว่าตัวอะไรเดินผ่าน มันจะเป็นภาพสวยงาม

ความงามที่ต้องฝ่าฟันเส้นทางยากลำบากไปให้ถึง

 

เมื่อวานผมค้างแรมที่หน่วยพิทักษ์ป่า สมพล พิทักษ์ป่าวัยใกล้เกษียณ หัวหน้าหน่วย คุ้นเคยกับผมมานาน

“ไม่ได้เดินป่ามาร่วมเดือนแล้วล่ะครับ” สมพลบอกขณะเรานั่งคุยกันบนชานบ้านพัก

“มาลาเรียเล่นงานเกือบไม่รอด” เขาเล่าต่อ ก่อนหน้าที่จะไม่สบายเขานำลูกทีมออกลาดตระเวนไม่ได้หยุด

“ก่อนเดินก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย ปวดหัวหน่อยๆ และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในป่าได้สองวันก็จับไข้ตอนบ่าย วันที่สามชักไม่ค่อยดี ฉี่เป็นเลือด ลูกน้องพาเดินกลับประคองกันมา เดินทั้งวันก็ถึงทางรถ วิทยุให้เขาเอารถมารับ เสียเวลาไปอีกหนึ่งวัน ถึงโรงพยาบาลในจังหวัด” สมพลหยุดเล่า ยกจอกเหล้าขาวที่ถือไว้นานขึ้นจิบ คนอื่นในวงเริ่มยุกยิกเพราะรอจอก พวกเขาจะดื่มตามคิวหากคนแรกยังไม่ยกดื่มก็ต้องรอ

“ถึงโรงพยาบาลโดนหมอต่อว่าอีก ว่าทำไมมาช้านัก โธ่ กว่าจะออกจากป่าได้ นี่รีบสุดแล้วนะหมอ”

สมพลยกจอกขึ้นดื่ม และส่งต่อ แขก ลูกน้องที่นั่งติดรีบรับ รินเหล้า และส่งต่อ

“คนทำงานในป่าก็แบบนี้แหละ เป็นอะไรกว่าจะเดินทางถึงหมอต้องใช้เวลา บางคนอาการหนักก็ไปไม่ถึง ตอนป่วยนั่นผมก็ห่วงแต่เมียกับลูก ถ้าตัวผมเป็นอะไรไป อย่างน้อยก็ได้ตายในป่าที่ผมรักล่ะ” สมพลพูดเรียบๆ

เปลวเทียนไหววูบวาบ ผมมองหน้าคล้ำแดดของสมพล

ผมเชื่อในประโยคที่เขาพูด ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชื่อคำพูดของคนที่กำลังทำหน้าที่ของเขาอย่างสุดหัวใจ ถึงแม้จะรู้ว่า อาจต้องแลกด้วยชีวิต

เหยี่ยวต่างสี และนกยูง – เหยี่ยวปกป้องเหยื่อที่มันล่ามาได้ ขณะนกยูงเข้ามาดูอย่างสนใจ

ผมใช้เวลาแค่หกชั่วโมงกับเส้นทางไม่ถึง 10 กิโลเมตร สภาพเส้นทางอย่างนี้นับได้ว่าเร็ว บนทางมีร่องรอยกระทิง และช้าง

ก่อนถึงแคมป์ เราตรวจสอบกล้อง ทิวทัศน์สวยงาม แต่ไม่มีสัตว์เดินผ่าน

ไม่เป็นอย่างที่หวัง คือสิ่งที่ต้องยอมรับ

14.45 นาฬิกา ท้องฟ้าสีครามเปลี่ยนสภาพ เมฆดำเข้าครอบคลุมผืนป่า เสียงเจ้าหน้าที่วิทยุแม่ข่าย แจ้งขอปิดสถานีเพราะฝนตกฟ้าคะนอง

ฟ้าคำรามถี่ๆ ต้นไม้ไหวเอนลู่ พร้อมกับสายฝนกระหน่ำหนัก

ฝนตกอยู่ร่วมสองชั่วโมง เหลือเพียงละอองปรอยๆ แสงแดดยามเย็น สาดส่องเงาสะท้อนหยดน้ำเป็นประกาย

ผมแหงนหน้ามองผ่านแนวไม้หนาทึบ ท้องฟ้ามัวซัว

หากจะเห็นท้องฟ้าเป็นสีคราม คงต้องรอถึงวันพรุ่งนี้

 

20.35 นาฬิกา

ผมลุกขึ้น ผละจากกองไฟ เดินมาที่เปล แผ่นฟ้าดำสนิท ดาวมหาศาลส่องประกายระยิบระยับ เป็นปกติของท้องฟ้าในช่วงเวลาของฤดูหนาว

ดาวระยิบ บอกให้รู้ว่า ท้องฟ้าจะแจ่มใสเมื่อพายุฝนผ่านพ้น

นี่คล้ายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่หลายคนลืมนึกถึง

โดยเฉพาะเมื่ออยู่ภายใต้ท้องฟ้าซึ่งปกคลุมด้วยเมฆดำและสายฝน

วันเวลาในป่าสอนให้รู้ว่า พายุฝน, เมฆดำ จะผ่านพ้นไป และ “ท้องฟ้าสีคราม” จะกลับมา… •

 

หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ