ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 กุมภาพันธ์ 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี เมื่อหลายค่ายญี่ปุ่นยกขบวนเปิดตัวรถใหม่ โดยเฉพาะแบบไมเนอร์เชนจ์ เพื่อกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากขึ้น
โดยเน้นไปที่รถยนต์พลังงานทางเลือกกลุ่ม “ไฮบริด”
ฮอนด้า ส่ง “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” อัพเกรดชุดแต่ง ออปชั่น และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในกลุ่มไฮบริด
ขณะที่มิตซูบิชิ มีตัวตึงที่ขายดิบขายดีพอสมควร “เอ็กซ์แพนเดอร์” ที่เพิ่มขุมพลังเอชอีวี
แม้ค่ายญี่ปุ่นจะยังไม่เทน้ำหนักไปยังกลุ่มอีวีโดยตรง แต่ส่งรถ “ฟูลไฮบริด” มาเป็นทางเลือกให้คนไทย
แถมทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมโปรโมชั่นสุดเดือด
เริ่มกันที่ “ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” ดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน กับกระจังหน้า กันชนหน้าและกันชนหลัง และล้ออัลลอยในดีไซน์ใหม่
เสริมลุคสปอร์ตเท่กับรุ่น RS และ e:HEV RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS และเพิ่มสเกิร์ตข้างใหม่ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่
ส่วนอื่นๆ ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
ห้องโดยสารกว้างขวาง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย
ที่เติมเข้ามาเพิ่ม เช่น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัด
และตามคำเรียกร้องเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง
ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต (Remote Engine Start)
เบาะนั่งอัลตราซีต (ULTR) ปรับพับราบเพิ่มพื้นที่ใช้สอยหลากหลายรูปแบบ
2 ขุมพลังทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมัน 27.8 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ ตามสถานการณ์การขับขี่
ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า, โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์
ส่วนใครที่ชอบความแรงต้องไปที่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ
ระบบที่อัพเกรดเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม มีระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย
e:HEV RS ราคา 799,000 บาท และ e:HEV SV ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ราคา 729,000 บาท
ขุมพลัง VTEC TURBO รุ่น RS ราคา 749,000 บาท, รุ่น SV ราคา 679,000 บาท และรุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
ส่วนมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มาในขุมพลังฟูลไฮบริด ครั้งแรกชูจุดเด่นระบบขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบ
มี 2 รุ่นหลักคือ “เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี” และ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี”
จุดเด่น 3 สุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แบบ Mitsubishi e:MOTION ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) พัฒนามาจากรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs)
ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เอชอีวี พัฒนาขึ้นใหม่ประกอบด้วยรูปแบบการขับขี่แบบ EV (พลังงานไฟฟ้า 100%) รูปแบบการขับขี่แบบไฮบริด และระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือ Regenerative Braking
สามารถปรับเข้าสู่รูปแบบการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การขับขี่ และพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว
มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ให้ต่อแรงบิด 255 นิวตันเมตร
ติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ของมิตซูบิชิ พร้อมคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า ประหยัดน้ำมันดีขึ้นกว่าเดิม
โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ในจำนวนนี้มีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมด
ภายนอกตัวรถเด่นด้วยโลโก้ “HEV” ที่กระจังหน้าและฝาประตูท้าย พร้อมด้วยโลโก้ “HYBRID EV” ที่ประตูหน้า
ตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินที่กันชนหน้า กาบข้างประตู กันชนหลัง และล้ออัลลอยแบบทูโทนทั้ง 4 ล้อ
ภายในสะดุดตาด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว แสดงข้อมูลสำคัญเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด อาทิ แรูปแบบการขับขี่ที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การขับขี่และอัตราเร่ง
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน อัตราการประหยัดพลังงาน ระดับพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ
เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ จะแสดงภาพกราฟิกกลางหน้าจอเพื่อแจ้งโหมดการขับขี่ที่กำลังทำงานอย่างชัดเจน
สามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอแบบ Enhanced Mode ที่ล้ำสมัย หรือแบบ Classic Mode
ช่วงแนะนำยังตั้งราคาพิเศษถึง 7 เมษายน
เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่ ราคา 912,000 บาท
เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่ ราคาเริ่มต้น 946,000 บาท ซึ่งเท่ากับรถเครื่องยนต์สันดาป
หากพ้นวันที่ 7 เมษายน จะปรับราคาขายตามปกติ โดยเอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่ ราคา 933,000 บาท
และเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ราคา 961,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022