‘เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี’ – ‘ซิตี้ แฮทช์แบ็ก’ ปรับโฉมเพิ่มรุ่น ‘ไฮบริด’ – อัดออปชั่นพิเศษ

สันติ จิรพรพนิต

ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี เมื่อหลายค่ายญี่ปุ่นยกขบวนเปิดตัวรถใหม่ โดยเฉพาะแบบไมเนอร์เชนจ์ เพื่อกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากขึ้น

โดยเน้นไปที่รถยนต์พลังงานทางเลือกกลุ่ม “ไฮบริด”

ฮอนด้า ส่ง “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” อัพเกรดชุดแต่ง ออปชั่น และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในกลุ่มไฮบริด

ขณะที่มิตซูบิชิ มีตัวตึงที่ขายดิบขายดีพอสมควร “เอ็กซ์แพนเดอร์” ที่เพิ่มขุมพลังเอชอีวี

แม้ค่ายญี่ปุ่นจะยังไม่เทน้ำหนักไปยังกลุ่มอีวีโดยตรง แต่ส่งรถ “ฟูลไฮบริด” มาเป็นทางเลือกให้คนไทย

แถมทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมโปรโมชั่นสุดเดือด

เริ่มกันที่ “ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก” ดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน กับกระจังหน้า กันชนหน้าและกันชนหลัง และล้ออัลลอยในดีไซน์ใหม่

เสริมลุคสปอร์ตเท่กับรุ่น RS และ e:HEV RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่

สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS และเพิ่มสเกิร์ตข้างใหม่ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่

ส่วนอื่นๆ ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED

ห้องโดยสารกว้างขวาง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย

ที่เติมเข้ามาเพิ่ม เช่น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัด

และตามคำเรียกร้องเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต (Remote Engine Start)

เบาะนั่งอัลตราซีต (ULTR) ปรับพับราบเพิ่มพื้นที่ใช้สอยหลากหลายรูปแบบ

2 ขุมพลังทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)

แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมัน 27.8 กิโลเมตร/ลิตร

ระบบฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ ตามสถานการณ์การขับขี่

ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า, โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์

ส่วนใครที่ชอบความแรงต้องไปที่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ

ระบบที่อัพเกรดเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม มีระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่

มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย

e:HEV RS ราคา 799,000 บาท และ e:HEV SV ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ราคา 729,000 บาท

ขุมพลัง VTEC TURBO รุ่น RS ราคา 749,000 บาท, รุ่น SV ราคา 679,000 บาท และรุ่น S+ ราคา 599,000 บาท

ส่วนมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มาในขุมพลังฟูลไฮบริด ครั้งแรกชูจุดเด่นระบบขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบ

มี 2 รุ่นหลักคือ “เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี” และ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี”

จุดเด่น 3 สุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แบบ Mitsubishi e:MOTION ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) พัฒนามาจากรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs)

ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เอชอีวี พัฒนาขึ้นใหม่ประกอบด้วยรูปแบบการขับขี่แบบ EV (พลังงานไฟฟ้า 100%) รูปแบบการขับขี่แบบไฮบริด และระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือ Regenerative Braking

สามารถปรับเข้าสู่รูปแบบการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การขับขี่ และพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว

มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ให้ต่อแรงบิด 255 นิวตันเมตร

ติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ของมิตซูบิชิ พร้อมคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า ประหยัดน้ำมันดีขึ้นกว่าเดิม

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ในจำนวนนี้มีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมด

ภายนอกตัวรถเด่นด้วยโลโก้ “HEV” ที่กระจังหน้าและฝาประตูท้าย พร้อมด้วยโลโก้ “HYBRID EV” ที่ประตูหน้า

ตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินที่กันชนหน้า กาบข้างประตู กันชนหลัง และล้ออัลลอยแบบทูโทนทั้ง 4 ล้อ

ภายในสะดุดตาด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว แสดงข้อมูลสำคัญเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด อาทิ แรูปแบบการขับขี่ที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การขับขี่และอัตราเร่ง

ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน อัตราการประหยัดพลังงาน ระดับพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ

เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ จะแสดงภาพกราฟิกกลางหน้าจอเพื่อแจ้งโหมดการขับขี่ที่กำลังทำงานอย่างชัดเจน

สามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอแบบ Enhanced Mode ที่ล้ำสมัย หรือแบบ Classic Mode

ช่วงแนะนำยังตั้งราคาพิเศษถึง 7 เมษายน

เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่ ราคา 912,000 บาท

เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่ ราคาเริ่มต้น 946,000 บาท ซึ่งเท่ากับรถเครื่องยนต์สันดาป

หากพ้นวันที่ 7 เมษายน จะปรับราคาขายตามปกติ โดยเอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่ ราคา 933,000 บาท

และเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ราคา 961,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]