ฝรั่งเศสกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

สถานการณ์สงครามในยูเครนกลับมาดุเดือดอีกครั้ง หลังจากรัสเซียเละยูเครนยกระดับการโจมตีใส่กันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และจากสุนทรพจน์ปีใหม่ของผู้นำทั้งสอง คือการส่งสัญญาณว่า ในปี 2024 นี้ สันติสุขอาจยังเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ ทั้งนี้ หลายฝ่ายประเมินว่าในปีนี้สงครามในยูเครนอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากหลายปัจจัย

“สำหรับฝรั่งเศส เรายืนหยัดเคียงข้างยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเข้ารุกรานทำสงครามกับประเทศอธิปไตย”

“การรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการจงใจละเมิดกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ ด้วยเหตุนี้ การสนับสนุนอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือประชาชนให้เป็นอิสระเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศและความมั่นคงของทวีปยุโรปด้วย”

นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยกล่าวเน้นย้ำ

“ดังนั้น นับตั้งแต่เกิดสงครามวันแรก ฝรั่งเศสและประเทศหุ้นส่วนจึงได้สนับสนุนยูเครนและชาวยูเครนอย่างชัดเจน ทั้งการให้ความช่วยเหลือทางทหาร (การจัดส่งอุปกรณ์และการฝึกอบรม) ความช่วยเหลือด้านพลเรือนและมนุษยธรรม การรับผู้ลี้ภัย ตลอดจนสิ่งของที่ส่งผ่านสหภาพยุโรป และโดยไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือในกรณีใด เรากำลังพูดถึงเงินหลายพันล้านยูโร”

ความสัมพันธ์ของสถานทูตกับชุมชนฝรั่งเศสในไทย

“การสานสัมพันธ์กับชุมชนฝรั่งเศสในไทยซึ่งประกอบด้วยชาวฝรั่งเศสราว 45,000 คน และเป็นชุมชนฝรั่งเศสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ถือเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญของผม ซึ่งผมมีโอกาสได้พบผู้แทนชุมชนฝรั่งเศสอยู่เป็นประจำ รวมถึงบุคคลที่ดูแลสมาคมต่างๆ ที่เป็นจุดนัดพบของเพื่อนร่วมชาติของผม”

“ดังเช่นเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงการกุศลของสมาคมเพื่อการกุศล ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เนื่องในโอกาสเทศกาลไวน์ โบโฌเลส์ นูโว (Beaujolais Nouveau) รายได้จากการจัดงานนำไปช่วยเหลือชาวฝรั่งเศสในชุมชนฝรั่งเศสที่กำลังประสบปัญหา”

“แน่นอนว่าเอกอัครราชทูตมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติมากมายในกรุงเทพฯ แต่ในพื้นที่ส่วนอื่นของประเทศไทยก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน การเดินทางเยือนจังหวัดต่างๆ ทำให้ผมมีโอกาสค้นพบด้านอื่นๆ ของประเทศ”

“สำหรับการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ในช่วงแรกนี้ ผมให้ความสำคัญลำดับแรกแก่จังหวัดที่มีชุมชนฝรั่งเศสขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของหน่วยงานเครือข่ายฝรั่งเศสที่สำคัญ เช่น สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศส สมาคมฝรั่งเศส โรงเรียนฝรั่งเศส หน่วยงานวิจัยฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเลือกเดินทางไปเยือน จ.เชียงใหม่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และเดินทางไปเยือน จ.ภูเก็ตและ จ.กระบี่ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา”

“ในการเยือนแต่ละครั้ง ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสพบหน่วยงานราชการท้องถิ่นและชุมชนฝรั่งเศสในพื้นที่ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่เป็นไปได้ ผมจะใช้โอกาสในการลงพื้นที่รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ประกอบการฝรั่งเศสที่ประกอบกิจการในพื้นที่ รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการเหล่านั้น”

“อย่างที่ จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการฝรั่งเศสจำนวนมากที่ประกอบกิจการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในสายธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร หรือการบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการฝรั่งเศสที่มีศักยภาพอีกหลายรายที่สามารถมีส่วนช่วยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ จ.ภูเก็ตให้ทันสมัยเพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

อนึ่ง ในช่วงการเยือน จ.ภูเก็ต เอกอัครราชทูตปวงเบิฟได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และได้หารือในประเด็นต่างๆ โดยเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้เน้นย้ำความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างฝรั่งเศสกับ จ.ภูเก็ต ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษา ผ่านหน่วยงานเครือข่ายฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ใน จ.ภูเก็ต ได้แก่ โรงเรียน Berda Claude International School (BCIS) สมาคมฝรั่งเศสภูเก็ต และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศสประจำจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งผู้ประกอบการฝรั่งเศสอีกจำนวนมากที่ประกอบกิจการอยู่ใน จ.ภูเก็ต

พร้อมกันนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งใน จ.ภูเก็ตที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ตลอดจนสถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายใน จ.ภูเก็ตด้วย

นอกจากนี้ ยังได้พบหารือกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่อาศัยอยู่ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง โดยได้มีการหยิบยกเรื่องกระบวนการแจ้งเตือนฝ่ายต่างๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส กรณีเกิดอุบัติเหตุหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชาวฝรั่งเศส

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้กล่าวถึงเหตุต่างๆ ที่ได้รับแจ้งในช่วงปลายปี 2023 รวมถึงปัญหานักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสบางคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมขับขี่รถจักรยานยนต์ เร่งเครื่องยนต์เสียงดังรบกวนในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ

ต่อมา ได้พบหารือกับผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 และได้รับทราบข้อมูลว่าสถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตได้จ้างอาสาสมัครชาวฝรั่งเศสจำนวน 4 คน และชาวเบลเยียมจำนวน 1 คน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือชาวต่างชาติที่พูดภาษาฝรั่งเศสในพื้นที่ จ.ภูเก็ตได้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งได้พบหารือกับผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยได้มีการหยิบยกตัวเลขที่แท้จริงของชาวฝรั่งเศสในชุมชนฝรั่งเศสในประเทศไทย รวมถึงการเดินทางเข้าไทยและการเดินทางมาเยือน จ.ภูเก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2023 เอกอัครราชทูตปวงเบิฟได้เดินทางเยือน จ.เชียงใหม่ และได้เข้าเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยพบหารือกับคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ และคณาจารย์จากสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส เกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการและโครงการแลกเปลี่ยนการเรียนการสอนระหว่างฝรั่งเศสกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมกับเยี่ยมชมสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาควิชาภาษาตะวันตก คณะมนุษยศาสตร์ รวมทั้งพูดคุยกับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย

อะไรคือเคล็ดลับของการทำงานให้สำเร็จลุล่วงมากมายหลังมาประจำการเพียงไม่กี่เดือน

“ผมไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องปกติที่เอกอัครราชทูตที่เพิ่งเข้ารับหน้าที่จะต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกับบุคคลจำนวนมากจากทุกภาคส่วน ซึ่งเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสท่านก่อนก็ได้เตรียมรายชื่อบุคคลที่ผมควรพบโดยเร็วที่สุดไว้ให้ ก่อนที่ท่านจะพ้นจากหน้าที่ ผมจึงปฏิบัติตามคำแนะนำอันเป็นประโยชน์ของท่าน ทำให้ผมมีภารกิจแน่นขนัดขึ้นมาทันที” เอกอัครราชทูตปวงเบิฟตอบ

“อย่างไรก็ตาม ผมยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลอีกหลายท่านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้านี้ กิจกรรมที่แน่นขนาดนี้น่าจะทำให้เห็นได้ว่ามีสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในด้านต่างๆ มากมายแค่ไหนระหว่างฝรั่งเศสกับไทย” •

 

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022