สูตร “ยาดองน้ำผึ้ง” ตามแพทย์แผนไทย เป็นยาอายุวัฒนะ

หลักวิชาการปรุงยาของการแพทย์แผนไทยได้กล่าวไว้ถึง 28 วิธี ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการดองยาสมุนไพรด้วย

ซึ่งการดองยาทำได้ เช่น ดองด้วยสุราที่เรามักคุ้นเคย ดองด้วยเกลือก็ได้ ดองด้วยน้ำมูตรหรือน้ำปัสสาวะก็กล่าวไว้ และดองด้วยน้ำผึ้งที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย

การดองยาเป็นวิธีการสกัดเอาตัวยาจากสมุนไพรออกมาอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับการชงด้วยน้ำร้อน การต้มเดือดหรือต้มเคี่ยว โดยใช้น้ำเป็นการสกัดตัวยาหรือสารสำคัญออกมานั่นเอง

การดองด้วยสุราหรือแอลกอฮอล์ การดองด้วยน้ำผึ้งก็เป็นการค่อยสกัดเอาตัวยาอออกมา

และที่น่าสนใจของศิลปะการปรุงยาแต่ดั้งเดิมก็คือมีการใช้น้ำผึ้งดองกับสมุนไพรที่มีรสขมบ้าง รสฝาดบ้าง เพื่อให้กินยาง่ายขึ้น

และในเวลาเดียวกัน น้ำผึ้งก็เป็นสมุนไพรในตัวเอง มีสรรพคุณที่กล่าวถึงในการใช้ทั้งบำรุงสุขภาพและเรื่องความงาม ย้อนกลับไปได้นับพันปี

เช่น นางคลีโอพัตราแห่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ อารยธรรมลุ่มน้ำแยงซีเกียงของจีนก็ใช้ ในดินแดนชมพูทวีปอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ การแพทย์อายุรเวทรู้จักใช้น้ำผึ้งผสมผงอบเชยเป็นยาบำรุงร่างกายที่ดีมานานหลายศตวรรษแล้ว เป็นต้น

ภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยและประสบการณ์การใช้ของชาวบ้านจำนวนไม่น้อย รู้จักใช้น้ำผึ้งเป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพร โดยเฉพาะใช้เป็นยาบำรุงกำลัง โดยเฉพาะช่วยฟื้นฟูร่างกายแก้อ่อนเพลีย มีการแนะนำให้กินน้ำผึ้งแท้ๆ วันละ 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอนทุกวัน สัก 7 วัน ช่วยบำรุงร่างกาย (ผู้ที่เสี่ยงเบาหวานไม่ควรใช้)

ภูมิปัญญาไทยเรายังนำน้ำผึ้งไปดองสมุนไพรที่น่าสนใจอีกหลายชนิด

แต่ก่อนที่จะไปถึงสูตรยาดองนั้น ขอเพิ่มเติมเรื่องน้ำผึ้งต่ออีกนิด

 

นํ้าผึ้งมาจากผึ้ง ผึ้งเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ในการจัดอนุกรมวิธาน ผึ้ง เป็นแมลงที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ Hymenoptera รวมกันกับพวกมด ต่อ แตน

ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จำแนกผึ้งออกเป็น 7 วงศ์ (family) อย่างเป็นทางการ ได้แก่ Andrenidae Apidae Colletidae Halictidae Megachilidae Melittidae และ Sternotritidae

ดังนั้น ผึ้งที่บินอยู่ทั่วโลกก็อาจอยู่คนละวงศ์

สำหรับในประเทศไทยที่เราคุ้นเคยนั้น ผึ้ง (Honeybee) ที่ให้น้ำหวานเรากินอยู่ในวงศ์ Apidae สกุล Apis ตัวอย่างที่เราได้ยินบ่อยๆ เช่น ผึ้งหลวง (Apis dorsata frabicius) ผึ้งมิ้ม (Apis florea) ผึ้งโพรง (Apis cerana) ผึ้งพันธุ์ (Apis mellifera) ซึ่งเข้าใจว่านำมาจากต่างประเทศจนกลายเป็นผึ้งที่อยู่ในไทยแล้ว เป็นต้น

ปัจจุบันมีการพูดถึงน้ำผึ้งชันโรง น้ำผึ้งชนิดนี้มาแรงแซงโค้งที่กล่าวถึงสรรพคุณและราคาแรงเช่นกัน นักวิชาการอธิบายว่า ชันโรง (Stingless Bee) เป็นแมลงจำพวกผึ้งที่ไม่มีเหล็กใน จึงปลอดภัยไม่โดนต่อย

กล่าวกันว่าชันโรงจะมีความสัมพันธ์และวิวัฒนาการที่ใกล้ชิดกับผึ้ง (honey bee), ผึ้งหึ่ง (bumble bee) และผึ้งกล้วยไม้ (orchid bee)

ทั่วโลกพบชันโรงประมาณ 500 ชนิด ในประเทศไทย มีรายงานว่า ชันโรง สกุล Tetragonula พอที่จะจำแนกได้แล้วประมาณ 30 ชนิด อาศัยอยู่ทุกภาคของประเทศและมีความแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นด้วย

ซึ่งชื่อเรียกแต่ดั้งเดิม เรียก “ชันโรง” ภาคเหนือเรียก ขี้ตังนี ขี้ตัวนี หรือ ขี้ย้าแดง ภาคใต้เรียก แมลงอุง ทางอีสานเรียก แมลงขี้สูด ภาคตะวันออกเรียก ตัวตุ้งติ้ง เป็นต้น

นํ้าผึ้งจากผึ้งชนิดใดก็นำมาดองยาสมุนไพรได้ทั้งหมด

แต่ในเวลานี้เราจะต้องช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมเพื่อให้ผึ้งอยู่ได้ ก็จะได้น้ำผึ้งแท้ไม่ปลอมปนนำมาดองสมุนไพร

ที่นิยมกันทั่วไปมักจะดองกล้วยน้ำว้ากับน้ำผึ้ง กินเนื้อกล้วยวันละลูกและดื่มน้ำผึ้งด้วยวันละ 1 ช้อนชา ท่านว่าเพิ่มพลังกายบำรุงกำลังอย่างดี

วิธีดองไม่ยุ่งยาก นำกล้วยน้ำว้าสุกปลอกเปลือกออก จะใช้ทั้งลูกหรือหั่นกล้วยเป็นชิ้นๆ ลูกหนึ่งหั่นสัก 3-4 ชิ้นก็ได้ ใส่ในโหลที่มีฝาปิด เทน้ำผึ้งให้ท่วมกล้วย ปิดฝาไว้ แต่หมั่นเปิดฝาเพื่อถ่ายเทอากาศ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการหมักไวน์

บางท่านแนะนำให้ใช้ผ้าขาวบางปิดฝาโหลมัดผ้ากันสิ่งสกปรก แต่ยังให้อากาศถ่ายเทได้

ตามตำราให้ดองน้ำผึ้ง 1 เดือน บางคนที่ใจร้อน ดองสัก 1 สัปดาห์ก็พออนุโลมนำมากินได้

 

สูตรที่ 2 บอระเพ็ดดองน้ำผึ้ง นำเถาบอระเพ็ดมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ยาวสัก 1 นิ้วหรือใครจะหั่นเล็กกว่านี้ก็ได้ แล้วผึ่งให้แห้ง

บางท่านก็นำน้ำผึ้งมาดองเลย แต่ถ้าจะไล่ความชื้นในน้ำผึ้งออกบ้าง ก็นำน้ำผึ้งตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวไล่น้ำออก ทิ้งไว้ให้เย็น นำบอระเพ็ดที่เตรียมไว้ ใส่ลงในโหลประมาณครึ่งโหล ใส่น้ำผึ้งให้ท่วมยา

ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 3 เดือน อย่าให้ถูกแดด

นำน้ำผึ้งที่ดองแล้วมากินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 แก้ว กินวันละ 2-3 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เพื่อบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ

ตำรับยาพื้นบ้านอินเดียที่คนไทยก็นำมาดองกินเช่นกัน และเป็นที่รู้จักกันในครัวเรือนชาวอินเดีย คือ ชิงช้าชาลี (Tinospora baenzigeri Forman) ซึ่งเป็นไม้เถาเลื้อยพัน เถามีปุ่มเล็กน้อย และมีรสขม

ซึ่งหมอยาไทยถือว่าชิงช้าชาลีมีสรรพคุณเทียบเคียงกับบอระเพ็ด จึงมีการนำมาใช้ทดแทนกันได้

 

สูตรสุดท้ายที่ขอแนะนำ กระชายเหลืองดองน้ำผึ้ง

ให้นำแขนงรากกระชายสด (กระชายเหลือง) จำนวนเท่าอายุของผู้ใช้ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง และใช้วิธีการดองเหมือนบอระเพ็ด

ยาดองน้ำผึ้งไทยไร้แอลกอฮอล์ ดองสมุนไพรได้หลากหลาย เช่น ยอ มะขามป้อม สมอไทย และสูตรตรีผลา เป็นหนึ่งในซอฟต์เพาเวอร์สมุนไพรไทย •