Nimona เมืองโบราณไฮเทค

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

น่าสนใจเพราะอะไรนักวิจารณ์และผู้ชมให้คะแนนหนังการ์ตูนเรื่องนี้นักหนา เมื่อนั่งดูจบพบว่าสนุกดีแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกใหม่มากนัก

เรื่องรักเพศเดียวกัน เรื่องเหยียดผิว เรื่องกลัวคนที่ไม่เหมือนเรา เรื่องผู้แปลงร่าง (shape shifter) หรือแม้แต่เรื่องกำแพงสูงครึ่งฟ้าประหนึ่งล้อมกรอบตัวเองแต่อ้างว่าเพื่อป้องกันศัตรูนอกกำแพง เหล่านี้มีปรากฏในการ์ตูนหลายเรื่องมาก่อนแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกำแพงเราเพิ่งผ่านประสบการณ์กำแพงกั้นไททันมาไม่นาน จะมีเรื่องอะไรทำได้ซับซ้อนกว่านั้นอีก

หรือว่าบางทีเพราะมีข่าวว่าการสร้างหนังการ์ตูน Nimona จากกราฟิกโนเวลของ ND Stevenson เรื่องนี้มีปัญหาตั้งแต่ต้นและถูกดิสนีย์เททั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จ เดือดร้อนผู้สร้างต้องวิ่งหาทุนใหม่เพื่อสานต่อฝันของตัว

ผลลัพธ์ที่ได้ถึงกับเข้าชิงออสการ์แอนิเมชั่นประจำปีนี้ด้วย

กว่าข้อเขียนนี้จะตีพิมพ์ก็ทราบผลกันแล้วว่าใครจะได้

แต่ดิสนีย์มิได้แน่ๆ เพราะรายงานข่าวว่าการ์ตูนดิสนีย์เข้าไม่ถึงรอบชิงมาสองปีติดกันแล้ว เป็นเรื่องเสียหน้าดิสนีย์อีกครั้งหนึ่ง

หนังเล่าเรื่องนครหลังกำแพงสูงที่มีตำนานเล่าว่าพันปีก่อนอัศวินสตรีผู้สูงศักดิ์กลอเร็ธได้ปราบมังกรเพลิงตัวใหญ่ยักษ์แล้วขับไล่ออกนอกอาณาจักรไปได้ มีแผ่นหนังโบราณเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์อยู่

หลังจากนั้นจึงมีกำแพงกั้นสัตว์ประหลาดต่างๆ นานาโดยรอบ

มีอนุสาวรีย์ของวีรสตรีสีทองคำขนาดสูงเทียมฟ้าในท่าเงื้อดาบทองคำพร้อมทิ่มแทงอริราชศัตรูตั้งอยู่ใจกลางเมือง

และมีธรรมเนียมรับหนุ่มสาวชนชั้นสูงเข้ารับการฝึกวิชาแล้วแต่งตั้งเป็นอัศวินพิทักษ์นครในที่สุด

หากไม่ต้องการถูกสปอยล์ให้หยุดอ่านตรงนี้

ในตอนท้ายเรื่องมีการเปิดเผยเรื่องราวแต่หนหลังของนิโมนาซึ่งเป็นผู้เปลี่ยนร่าง เมื่อพันปีก่อนเธอยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิงเหงาๆ ไม่มีเพื่อน เธอเปลี่ยนร่างได้จึงเปลี่ยนร่างตนเองเป็นสรรพสัตว์ตัวเล็กๆ น่ารักๆ เพื่อหาเพื่อนในป่า ตัวใหญ่ที่สุดที่เคยทำคือเป็นกวาง แต่จะตัวเล็กน่ารักเท่าไรหรือเป็นกวางขนตางามเพียงไรไม่เป็นผล เธอไม่เป็นที่ต้องการ

แม้แต่สัตว์ก็ไม่ต้อนรับ “สัตว์ประหลาด”

วันหนึ่งเด็กหญิงผมดำผู้เปลี่ยนร่างพบกับเด็กหญิงผมทองหน้าตาสะสวยที่ชายป่า เด็กผู้หญิงสองคนเล่นกันสนุกสนานจนกระทั่งคราวหนึ่งนิโมนาเปลี่ยนร่างให้กลอเร็ธเห็น เด็กหญิงผมทองแปลกใจในตอนแรกๆ เท่านั้นแต่ก็ยอมรับได้ เด็กสองคนจึงยังคบหาเล่นสนุกกันต่อไปอย่างโลดโผนมากกว่าเดิม ก็นิโมนาเป็นสัตว์ใหญ่หรือบินได้แล้วนี่

ผมทองไม่มีทีท่ารังเกียจหรือหวาดกลัวนิโมนา

จนกระทั่งวันหนึ่งชาวบ้านเห็นเด็กผมดำผมทองเล่นด้วยกันมิหนำซ้ำเจ้าผมดำแปลงร่างได้ พ่อแม่ของกลอเร็ธและชาวบ้านจึงคว้าอาวุธขับไล่

ระหว่างเหตุการณ์ตึงเครียดชุลมุนนั้นเองก็เกิดไฟไหม้ลุกลามบ้านเรือนและหลังคาบางเรือนที่มุงด้วยฟาง

เท่าที่เห็นพื้นเพของเด็กหญิงผมทองก็เป็นชนชั้นเกษตรกรมาก่อน อาวุธที่พวกเขาใช้ก็เป็นเครื่องมือในท้องทุ่งท้องนา

นิโมนาจำได้เท่านั้น พันปีผ่านไปมีเรื่องเล่าและตำนานสดุดียอดหญิงกลอเร็ธจนสูงส่งดังที่เห็น

ส่วนนิโมนาเองเฝ้าคิดถึงแต่ความต่ำต้อยของตนเองจนกระทั่งวาดภาพตนเองเป็นปีศาจดำขนาดใหญ่รูปร่างหน้าตาพิกลพิการน่าเกลียดน่าสมเพชระคนน่ากลัว

แถวๆ นี้แหละครับที่อยากให้นักเรียนบ้านเราเห็น ตำนานหรือตำราที่เราได้ยินทุกวันนี้เราไม่รู้อย่างแน่นอนว่าเรื่องเริ่มต้นอย่างไร มัน “แปลงร่าง” มาเป็นอย่างที่เล่าๆ กันทุกวันนี้ได้อย่างไร

เด็กหญิงผมทองชนชั้นชาวนากลายเป็นผู้สูงศักดิ์ไปได้ตั้งแต่เมื่อไร ธรรมเนียมไม่รับอัศวินที่เป็นสามัญชนเริ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งใด ไฟไหม้กองฟางด้วยอุบัติเหตุกลายเป็นมังกรไฟตัวใหญ่ยักษ์น่าเกรงขามไปได้อย่างไร หรือแม้กระทั่งตั้งแต่ครั้งไหนที่ผมดำผมทองหรือเพศเดียวกันไม่ควรใกล้ชิดกัน

เป็นว่าแม้แต่หลักฐานเชิงประจักษ์ก็มีสิทธิถูกตั้งคำถาม

หนังการ์ตูนตั้งใจทำท่อนกลางหายไปจากการรับรู้ของผู้คน ชีวิตจริงของพวกเราวันนี้ก็เป็นเช่นนั้นคือเผชิญกับเรื่องเล่าต่อๆ กันมาที่ไม่มีท่อนกลางอยู่เสมอ

จนกระทั่งวันหนึ่ง ราชินีเป็นคนที่คิดได้ว่ากำแพงมิได้กั้นสัตว์ประหลาดแต่ปิดกั้นความคิดของพวกเรากันเองด้วย

ดำริแล้วพระองค์จึงแก้ไขระเบียบให้สามัญชนผมดำสามารถสมัครเข้าเป็นอัศวินได้ พระเอกของเรา บัลลิสเตอร์ จึงได้เลื่อนชั้นจากสามัญชนขึ้นมาได้

แต่ก็เหมือนนิยายหลายๆ เรื่องหรือเรื่องเล่าจากหลายๆ ที่หรือที่ได้อ่านจากพงศาวดารหลายๆ เล่ม มิใช่เหนือหัวองค์เดียวจะแก้ไขอะไรได้ง่ายๆ ตามใจตน

ที่ร้ายกว่าคือพวกข้าราชบริพารหรือคนในที่แวดล้อม พวกนี้ต่างหากที่จะตายก็ไม่ยอมเปลี่ยนร่าง

อัศวินสามัญชนบัลลิสเตอร์ผมดำหนวดดำจึงประสบเคราะห์กรรมตั้งแต่ฉากแรกๆ เลยทีเดียว

อีกเรื่องหนึ่ง เด็กที่ถูกสังคมตีตราหรือขาดรัก สิ่งที่สังคมจะได้กลับมาคือเด็กที่คิดว่าตนเองน่าเกลียด เป็นสัตว์ประหลาด เป็นคนนอก

เมื่อถึงที่สุดพวกเขาสามารถขยายความน่าเกลียดได้มโหฬารดังที่จะได้เห็นในหนัง

และถึงแม้ “มัน” คิดตายแต่วิธีที่มันใช้สร้างความเสียหายมากมายติดตัวไปด้วย

เป็นหนังอัศวินปราบสัตว์ประหลาดก็จริงแต่ฉากหลังเป็นเมืองสมัยใหม่และเทคโนโลยีสมัยใหม่

เมื่อบัลลิสเตอร์ถูก “เพื่อนรัก” ตัดแขนเขาได้แขนกลมาทดแทนโดยไม่ยาก

มีเทคโนโลยีถ่ายคลิปเผยแพร่จอภาพทั้งเมือง มีปืนใหญ่กลางเมืองที่สามารถทำลายสัตว์ยักษ์ได้ราบคาบพร้อมประชาชนในพื้นที่

มีเครื่องมือสื่อสารทันสมัย มียานพาหนะที่บินได้ มีวิศวกรรมสร้างกำแพงเทียมฟ้า

แต่พวกอัศวินยังใช้ดาบซึ่งมิใช่ไลท์เซเบอร์ สวมชุดเกราะโบราณทั้งที่เทคโนโลยีนาโนน่าจะก้าวหน้าตามไปด้วยได้แล้ว บางทีผู้สร้างเจตนาทำให้เห็นว่าช่างเป็นเมืองที่โบราณเสียจริงๆ

ไหนๆ ก็ชิงออสการ์แล้ว ดูซะหน่อย •

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์