ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 29 มกราคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี นั่งหัวโต๊ะ ได้ผ่านร่างข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ…. ใช้สำหรับการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน เรียกกันว่า “นายพลแก้มลิง” เป็นการเฉพาะ

มีแนวทางหลักๆ คือ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร.(ยศ พล.ต.อ. เทียบรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) 10 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 1 ปี

ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) (ยศ พล.ต.ท. เทียบผู้บัญชาการ) มี 20 ตำแหน่ง พิจารณาจากระดับรองผู้บัญชาการ, รองจเรตำรวจ ไม่น้อยกว่า 2 ปี

และผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. (ยศ พล.ต.ต. เทียบผู้บังคับการ) มี 30 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ ไม่น้อยกว่า 4 ปี

โดยทั้ง 3 ตำแหน่ง พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส

ที่สำคัญ ก.ตร.ยังมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ…. โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 88

จึงคาดว่าจะเริ่มใช้ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2567 ประมาณเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ถอนวาระ “ข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ” ที่เคยประกาศใช้เมื่อ 17 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา นำมาใช้อนุโลมเพื่อแต่งตั้งเดือนเมษายนนี้ออกไป ว่ากันว่าเพื่อเปิดทางให้คนบางคน

เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไปอีก 6 เดือน ด้วยข้อจำกัดข้อกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถแต่งตั้ง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 39 เป็นรอง ผบ.ตร.ได้

แม้ว่าจะมีมติ ครม.ในวันรุ่งขึ้น ให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 40 เกษียณอายุ 30 กันยายนนี้ ข้ามห้วยไปนั่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

อีกทั้งตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ที่ว่างลงก่อนหน้านี้ เนื่องจาก พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ นรต.41 ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุปี 2568 โอนย้ายนั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก็ตาม

ดังนั้น 2 ตำแหน่งนี้ไปรอแต่งตั้งประจำปี 2567 ราวๆ เดือนสิงหาคม

 

ส่วนกระแสข่าวที่ผลักดัน “ร่างข้อกำหนด ก.ตร.” เพื่อแต่งตั้ง พล.ต.ท.ประจวบ ขึ้นรอง ผบ.ตร. ให้เข้าไลน์ “แคนดิเดต ผบ.ตร.” เพื่อให้ทันการแต่งตั้งโยกย้ายฤดูกาลประจำปีนี้นั้น

ตอนแรกพูดกันว่ามีสัญญาณจาก “ชั้น 14” เนื่องจากนายตำรวจผู้นี้มีความโดดเด่นเป็นที่ไว้วางใจ ด้วยความเป็นคนเหนือด้วยกัน เกิดเมืองแพร่ เติบโตจากนายตำรวจภาคเหนือจนถึงระดับ ผบช.ภ.5 แล้วขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. มีสายสัมพันธ์แน่นปึ้ก “ผู้ป่วย” บิ๊กเนม

แม้กระทั่งการกลับบ้านครั้งแรกในรอบ 15 ปีของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 เพื่อมารับโทษตามกฎหมายเมืองไทยตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ขณะนั้นได้มอบภารกิจให้ดูแลแผนอารักขาความปลอดภัยและแผนจราจรภารกิจ

ปรากฏว่าภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วย ทำให้สปอตไลต์ส่อง “ผช.ผบ.ตร.ผู้นี้” ทันที ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากอดีตนายกฯ

แต่เมื่อมีการโยนหินถามทางกันแล้ว ถึง “กติกา” ที่จะใช้แต่งตั้ง ได้หยั่งเชิงไปแล้วพบว่าเต็มไปด้วยขวากหนาม ที่ ก.ตร.เสียงแตก มีการวิพากษ์วิจารณ์กันสูงในอาณาจักรโล่เงิน จึงเห็นว่าไม่สามารถเดินต่อได้

เนื่องจากเสี่ยงถูกพิจารณาว่ามีธรรมาภิบาลหรือไม่ เป็นการทำโดยเฉพาะกิจเพื่อคนบางคน อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตรา 60(3) พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ส่งผลให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) วินิจฉัยแก้ไขยกเลิกได้ และยังมีความผิดอาญาด้วย

ดังนั้น ทำให้เปิดเส้นทางฟาสต์แทร็ก สู่ ผบ.ตร.คนที่ 15 ที่จะมีขึ้นในวาระกลางปีต้องพับไป

 

เพราะฉะนั้น แคนดิเดต ผบ.ตร.คนที่ 15 ขณะนี้ มี “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 47 เกษียณอายุราชการปี 2574 อาวุโสอันดับ 1 ยิ่ง “บิ๊กเนม” ผู้ป่วยหมดพันธนาการ นายพลหนุ่มผู้นี้มีแต้มต่อยิ่งสูงขึ้นไปอีก

เนื่องด้วยบิดาที่เคยทำงานใกล้ชิด “บ้านดามาพงศ์” อยู่กับ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ บิดา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หรือคุณหญิงอ้อ อดีตภริยานายกฯ ทักษิณ

ส่วนจุดอ่อนแวดวงสีกากีมองกันว่าเป็น “ขุนเข่าไร้น้ำใจ” และตำรวจใกล้ชิดบางคนมีคดีโยงกับพนันออนไลน์

แต่ถ้ามีการตกลง “ผู้มีอำนาจ” ได้จะเป็นทางลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย เพราะต่างไม่ต้องเจ็บตัวกัน

ถัดมา “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 41 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนที่ 12 เกษียณปี 2569 มีความโดดเด่นทำงานด้านบริหารมาตลอด มีความประนีประนอมสูง ไร้ศัตรู ไม่มีแผล ถือว่าเป็นคนน่ารัก ในมุมมองคนแวดวงเดียวกัน

อันดับ 3 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.รุ่น 39 เกษียณปี 2568 รับทราบกันว่ามีภารกิจดูแล “ผู้มีอำนาจระดับสูง”

และสุดท้าย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 สายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เกษียณปี 2569

เทียบฟอร์มแล้ว “บิ๊กโจ๊ก” มาแรงแคนดิเดต ผบ.ตร. ณ เวลานี้มากที่สุด

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022