หมากตาสุดท้าย

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

“เราไม่ใช่กระต่ายน้อยอีกต่อไป เราไม่สามารถกระโดดได้แบบที่เคยทำ”

เป็นคำอธิบายเหตุผลในการลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลของ “เจอร์เก้น คล็อปป์”

ตามปกติถ้าผู้จัดการทีมฟุตบอลจะลาออกจากตำแหน่งเอง เขาจะประกาศหลังจบฤดูกาล

แต่ “คล็อปป์” กลับประกาศตั้งแต่วันนี้ ทั้งที่เหลือเวลาอีกนานพอสมควรกว่าฤดูกาลนี้จะสิ้นสุดลง

ต้องยอมรับว่า “คล็อปป์” เป็นผู้จัดการทีมที่แฟนหงส์แดงรักมาก

เขาฟื้นทีมลิเวอร์พูลให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก

ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก

ทำให้ทีมหงส์แดงมีลีลาการเล่นที่เร้าใจ

การตัดสินใจลาออกของเขาจึงทำให้แฟนหงส์แดงทุกคนเกิดอาการอกหักโดยถ้วนหน้า

“คล็อปป์” ใช้วิธีการให้สัมภาษณ์กับสื่อของสโมสรถึงเหตุผลที่อำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม

เขาบอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้มาจากแรงกดดัน หรือปัญหาอะไรเลย

แต่มาจากตัวของเขาเอง

การเป็นผู้จัดการทีมต้องใช้พลังชีวิตมาก

เขาเคยมี “พลัง” แบบนั้น

“แต่ผมไม่อาจทำงานแบบนั้นได้อีกในปีหน้า เมื่อทำแบบที่เคยทำไม่ได้ ผมก็ไม่เหมาะกับงานนี้อีกต่อไป”

“คล็อปป์” บอกว่าชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม เขาทุ่มเทและใช้พลังมาก แต่เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

และเขาอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาบ้าง

“ผมไม่อยากแก่เกินกว่าจะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอมีโอกาสลองใช้ชีวิตแบบนั้นดูสักหน่อย”

เขาแจ้งกับบอร์ดบริหารถึงการตัดสินใจตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

และเก็บเงียบจนถึงปลายเดือนมกราคม

ก่อนตัดสินใจแจ้งข่าวนี้กับคนทั้งโลก

“ในโลกแห่งอุดมคติ ผมไม่ควรบอกใครจนกระทั่งจบฤดูกาล เราได้แชมป์ทุกอย่าง แล้วกล่าวลา แต่ในโลกวันนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บความลับไม่ให้ใครรู้ แค่เก็บเป็นความลับจนกระทั่งตอนนี้ก็แปลกแล้ว”

เขาบอกว่าทีมงานของเขาจำเป็นต้องรู้ สโมสรจำเป็นต้องรู้แต่เนิ่นๆ เพื่อมีเวลาในการวางแผนงาน

นั่นคือ เหตุผลที่ “คล็อปป์” แถลงกับสื่อมวลชน

 

ผมนึกถึงวันที่ “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” สุดยอดผู้จัดการทีมประกาศวางมือหลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แชมป์พรีเมียร์ลีก

เขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ “ผู้จัดการทีมฟุตบอล”

แต่เป็น “ผู้จัดการชีวิต” ที่เก่งมาก

“เฟอร์กี้” วาง “หมากตาสุดท้าย” ได้สวยงาม

เพราะก่อนหน้านี้ 1 ปีเขาเคยคิดจะวางมือมาแล้วครั้งหนึ่ง

แต่เมื่อจบฤดูกาล “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ได้อันดับที่ 2

แพ้ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้”

ถ้าวางมือในวันนั้น คนจะจดจำภาพสุดท้ายในตำแหน่ง “ผู้จัดการทีม” ในฐานะ “ผู้แพ้”

เขาขยับเวลาออกไปอีก 1 ปี

ไม่บอกใครว่าจะวางมือ

กลัวนักเตะจะเสียกำลังใจ

เพราะนักเตะบางคนย้ายทีมมาเพราะเชื่อมั่นในตัว “เฟอร์กี้”

จนเมื่อจบฤดูกาลกับตำแหน่ง “แชมป์ฟรีเมียร์ลีก” เขาจึงประกาศวางมืออย่างเป็นทางการ

“ภาพสุดท้าย” ของ “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” ในตำแหน่ง “ผู้จัดการทีม” ที่คนทั้งโลกจดจำ

คือ แชมป์พรีเมียร์ลีก

“อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” จึงเป็นสุดยอด “ผู้จัดการทีม”

ทั้งในสนามฟุตบอล

และสนามชีวิต

 

แต่ “เจอร์เก้น คล็อปป์” เลือกเดินหมากอีกทางหนึ่ง

แทนที่จะรอให้จบฤดูกาล

เขากลับให้สัมภาษณ์ว่าจะวางมือตั้งแต่ตอนนี้

ทั้งที่ “ลิเวอร์พูล” อยู่ในตำแหน่ง “จ่าฝูง” พรีเมียร์ลีก

ได้เข้าชิง “คาราบาวคัพ”

และยังมีโอกาสในถ้วยยูโรป้า ลีก และเอฟเอคัพ

แล้วทำไมเขาเลือกประกาศวางมือในห้วงเวลาแบบนี้

หลายคนมองว่าเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของนักเตะและแฟนบอล

ปรากฏการณ์ “หัวใจสลาย” ของแฟนหงส์ทันทีที่รู้ข่าวนี้ชัดเจนที่สุด

แล้ว “คล็อปป์” ทำแบบนี้เพื่ออะไร

ผมเชื่อว่าเหตุผลที่เขาแถลงมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง

เขาต้องการให้สโมสรได้วางแผนล่วงหน้า ไม่ใช่กะทันหันตอนจบฤดูกาลแล้ว

และ “คล็อปป์” ก็เคยประกาศแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่คุมทีมโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์

เขาแถลงการลาออกตอนที่ “ดอร์ตมุนด์” ผ่านเกมที่ 28 ไปแล้ว

เหลืออีก 6 นัดจะจบฤดูกาล

ปีนั้นเป็นปีที่ “ดอร์ตมุนด์” ฟอร์มย่ำแย่มาก จมบ๊วยอยู่พักใหญ่ก่อนกระเตื้องขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง

“คล็อปป์” ประกาศวางมือ เพราะรู้สึกว่าเขาไม่สามารถผลักดันทีมให้ไปไกลกว่านี้ได้อีก

แต่หลังจากประกาศวางมือ นักเตะ “ดอร์ตมุนด์” กลับรวมใจเป็นหนึ่ง

6 นัดเก็บได้ 13 แต้ม

ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1

ได้อันดับที่ 7 ไปเล่นบอลยูโรป้า คัพ

ครับ ถ้าเล่นได้แบบนี้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลก็คงเป็นแชมป์ไปแล้ว

ผมไม่รู้ว่าจากประสบการณ์ในครั้งนั้นหรือเปล่า

เขาจึงตัดสินใจวาง “หมากตาสุดท้าย” แบบนี้

ในวันที่ “หงส์แดง” นำจ่าฝูง

 

อย่าลืมว่า “คล็อปป์” คือ สุดยอดผู้จัดการทีมฟุตบอล

เขาเชี่ยวชาญในการวางหมากเพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง

ผมคิดว่าการเลือกประกาศวางมือในช่วงนี้ คือ การวางหมากของ “คล็อปป์”

เป็นการวางหมากที่แตกต่างจาก “เฟอร์กูสัน”

เมื่อตัว “คล็อปป์” ตัดสินใจแล้วว่าวางมือจากตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาล

บอกบอร์ดบริหารตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เขามี “ทางเลือก” คือ จะบอกนักเตะและแฟนบอลเมื่อจบฤดูกาลแล้ว

หรือบอกก่อน

แต่การเลือกจังหวะเวลาเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

ทำไมต้องเป็นปลายเดือนมกราคม

ไม่ใช่ธันวาคม

หรือพฤศจิกายนหลังบอกบอร์ดบริหาร

ตอนที่อำลา “โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์” เขารอจนเหลือ 6 นัด

แต่ที่ “ลิเวอร์พูล” เขาเลือกช่วงที่เหลือการแข่งขันอีก 17 นัด

สถานการณ์ตอนนี้ “ลิเวอร์พูล” อยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

“หงส์แดง” เป็น “จ่าฝูง”

แต่ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไล่ตามหลังมาติดๆ

และกำลังได้ “เควิน เดอบรอยน์” และ “เออร์ลิง ฮาร์แลนด์” กลับมาลงสนาม

อย่าลืมว่า “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” ผู้จัดการทีม “เรือใบสีฟ้า” เก่งมากในการเข้าโค้งสุดท้ายของการแย่งแชมป์

เขาพิสูจน์มาแล้วหลายครั้ง

เป็นไปได้ไหมที่ “คล็อปป์” รู้ว่าเพียงแค่ฝีเท้าในสนามของนักเตะอาจไม่เพียงพอต่อการลุ้นแชมป์กับ “เป๊ป”

เขาต้องการ “พลัง” บางอย่างที่นอกเหนือจาก “ฝีเท้า” และการวางเกมในสนาม

พลังที่ทุ่มเทเพื่อชัยชนะ

พลังที่ทุ่มเทเพื่ออะไรบางอย่าง

หรือใครบางคน

เขาจึงเลือกประกาศวางมือวันนี้

 

“คล็อปป์” ก็เหมือนผู้จัดการทีมทุกคนในโลกนี้

อยากวาง “หมากสุดท้าย” ในตำแหน่ง “ผู้ชนะ”

บางทีการเลือกประกาศวางมือในช่วงเวลานี้ คือ การรีด “พลังใจ” ของนักเตะทุกคน

และแฟนบอลเดอะ ค็อปในสนามแอนฟิลด์

ให้เป็น “หนึ่งเดียว”

เพราะทุกคนรัก “คล็อปป์” มาก

ถ้าฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลสุดท้ายของคนที่เขารัก

ทุกคนจะทำเพื่อเขาอย่างเต็มที่

“ความรัก” นั้นเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

“คล็อปป์” กำลังใช้พลังนี้สู้กับ “เป๊ป”

เพียงแค่นัดแรกหลัง “คล็อปป์” ประกาศวางมือ

เราก็ได้เห็นภาพนี้

แฟนหงส์ทั้งสนามชูผ้าพันคอที่มีชื่อเขา ตะโกนเรียกชื่อ “คล็อปป์”

นักบอลยิงประตูได้ ชี้นิ้วไปที่ผู้จัดการทีมของเขา

เหมือนจะบอกว่าประตูนี้เพื่อคุณ

ผมเชื่อว่าต่อไปนี้สนามแอนฟิลด์จะไม่ใช่เพียงแค่ “นรก” สำหรับคู่แข่ง

แต่มันจะเป็น “ขุมนรก” ขั้นเลวร้ายสุดสำหรับทุกทีมที่มาเยือน

เสียงเชียร์จะกระหึ่มไม่หยุด

เป็นนักเตะคนที่ 12-13-14 และไม่สิ้นสุด

ถ้า “คล็อปป์” แปร “ความเสียใจ” ของนักเตะและแฟนหงส์แดงให้เป็น “พลัง” แห่ง “ความรัก” ได้สำเร็จ

บางทีฤดูกาลนี้ “ลิเวอร์พูล” จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

และเป็นการวางหมากตาสุดท้ายที่สุดยอดที่สุด

ของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” •

 

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์