SOCIETY OF THE SNOW | ‘เพื่อความอยู่รอด’

นพมาส แววหงส์

เกือบห้าสิบปีมาแล้ว ได้ยินเรื่องอุบัติเหตุที่ตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

คือ เมื่อ ค.ศ. 1972 เครื่องบินเหมาลำของสายการบินอุรุกวัยตกในเทือกเขาแอนดีส ชะตากรรมของผู้โดยสารและลูกเรือ 45 คนบนเครื่องแขวนอยู่บนเส้นด้าย…ซึ่งอาจจะขาดผึงไปหมดแล้วก็เป็นได้

การค้นหาและกู้ภัยโดยใช้เฮลิคอปเตอร์บินวนเหนือบริเวณที่เกิดเหตุเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนหิมะขาวโพลนปกคลุมหนา ดำเนินอยู่แปดวันเต็ม…โดยไร้ผล

ไม่ปรากฏว่าพบเห็นซากเครื่องบินตกหรือชิ้นส่วนใดๆ จากเบื้องสูงที่เฮลิคอปเตอร์บินวนค้นหายามกลางวัน

หลังจากไม่พบเห็นชิ้นส่วนใดๆ ภารกิจกู้ภัยก็ถูกยกเลิกไป โดยจะมีปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินใหม่เมื่อหิมะละลายและภูมิประเทศเปลี่ยนไป

ข้อสันนิษฐานคือผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำเสียชีวิตทั้งหมด และต่อให้ยังมีคนรอดชีวิตจากเครื่องบินตก แต่ก็ไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดได้จากสภาพอากาศที่เลวร้ายขนาดนั้น โดยเฉพาะหากอยู่กลางแจ้งในตอนกลางคืนซึ่งอุณหภูมิลดต่ำลงมากจนเกินกว่าที่ร่างกายมนุษย์จะทนทาน

ว่ากันว่าเทือกเขาแอนดีสในฤดูหนาวเป็นที่ที่เข้าถึงยากที่สุดและมีสภาพอากาศเป็นปฏิปักษ์ต่อสิ่งมีชีวิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

หลังจากเครื่องบินตกได้ 72 วัน ด้วยความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของภารกิจค้นหากู้ภัย ผู้รอดชีวิตสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศชิลีที่อากาศอบอุ่นกว่า และแจ้งตำแหน่งแหล่งที่ของจุดเกิดเหตุและผู้รอดชีวิตที่เหลือ

มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ทั้งหมด 16 คน

มีหนังสือหลายเล่มเขียนเรื่องเหตุการณ์ครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือ Alive ที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ปี 1993 (ซึ่งมีแฟรงก์ มาร์แชล กำกับฯ และอีธาน ฮอว์ก นำแสดง) และ Society of the Snow ที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ปี 2023 และเป็นตัวแทนของสเปนที่ได้เข้ารอบสุดท้ายของรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศในปีที่ผ่านมา

ผู้เขียนได้ดูหนังทั้งสองเรื่อง ซึ่งเล่าจากมุมมองของคนละคนกัน และโดยรวมแล้วก็ไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ว่า Society of the Snow ดูจะใกล้เคียงความจริงมากกว่า เพราะไม่ได้ใช้นักแสดงที่เรารู้จักหน้ากันดี แต่ใช้นักแสดงโนเนมซึ่งดูเหมือนคนท้องถิ่นอเมริกาใต้ และสื่อสารด้วยภาษาในละตินอเมริกา

ประเด็นที่น่าสะเทือนขวัญที่สุดของการอยู่รอดมาได้ถึง 72 วัน คืออาหารที่ผู้รอดชีวิตกินเพื่อประทังชีพ

และ Society of the Snow ให้ความสนใจในประเด็นนี้โดยลงลึกไปครุ่นคำนึงถึงปัญหาทางศีลธรรม ศาสนา ปรัชญา และกฎหมาย

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากสภาพอากาศและความสามารถของนักบินที่อ่อนประสบการณ์ซึ่งอ่านพิกัดของตำแหน่งแหล่งที่ผิดไป

หนังเล่าถึงสภาพการณ์อันโหดร้ายที่ผู้รอดชีวิตต้องประสบ อันรวมถึงความหนาวเยือกในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ความน่าพรั่นพรึงของการต้องประสบพบเห็นคนใกล้ชิดจากไปแบบเห็นกันหลัดๆ และการหาสิ่งหล่อเลี้ยงร่างกายเพื่อประทังชีพ ซึ่งเป็นประเด็นชวนขนหัวลุกที่สุด

นี่ยังไม่รวมถึงพายุหิมะถล่มหลายครั้งหลายหน ทำให้โดนฝังทั้งเป็นอยู่ใต้หิมะหนาหลายฟุต ความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและความหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ท่ามกลางการตระหนักว่าพวกเขาถูกทอดทิ้งให้กระเสือกกระสนสู้ต่อไปโดยปราศจากความช่วยเหลือใดๆ จากภายนอก

ในที่สุดแล้ว โรแบร์โต (มาติอัส เรคัลต์) กับนันโด (อากุสติน ปาร์เดลลา) ก็ตัดสินใจออกเดินมุ่งหน้าตะวันตกสู่ประเทศชิลี พกอาหารประทังชีพเฉลี่ยสำหรับสองคน เดินเท้าเป็นระยะทาง 61 กิโลเมตร โดยต้องปีนยอดเขาสูง 4,650 เมตรโดยปราศจากเครื่องมือของนักปีนเขา กลางคืนนอนเบียดหาความอบอุ่นของกันและกัน โดยคลุมด้วยผ้ากันน้ำที่หาได้จากซากเครื่องบิน

รวมระยะเวลาการเดินเท้าอย่างยากลำบากท่ามกลางภูมิประเทศและภูมิอากาศเลวร้ายทั้งสิ้น 10 วัน ซึ่งต่อมามีคนเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “ปาฏิหาริย์แห่งเทือกเขาแอนดีส”

สิ่งน่าสะเทือนใจที่บอกภาวะจิตของคนทั้งสองนี้คือ เมื่อได้พบชาวบ้านขี่ม้าและดีใจว่าพวกเขารอดชีวิตแล้ว พวกเขาฝัง “อาหาร” ที่ติดตัวมาลงในดินทั้งหมด

การรอดชีวิตของคน 16 คนนี้ตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก สื่อมวลชนเบียดเสียดกันมาขอสัมภาษณ์

แต่พวกเขาก็มีภาระหนักหน่วงที่แบกอยู่ในใจและจิตสำนึกจนตลอดชีวิต

คนทั้งสิบหกยังอยู่ในวัยหนุ่ม และส่วนใหญ่ยังมีชีวิตต่อมาจนถึงปัจจุบัน หลายคนประสบความสำเร็จอย่างดี เป็นหมอ เป็นนักเขียน เป็นนักพูดเสริมสร้างกำลังใจ เป็นนักธุรกิจ และเป็นนักการเมือง

มีหนังสือหลายเล่มที่เล่าถึง “ปาฏิหาริย์” ครั้งนี้ ทั้งที่เขียนจากประสบการณ์จริงของเจ้าตัวที่อยู่ในเหตุการณ์ และเขียนโดยนักเขียนอื่น

Society of the Snow นำเสนอและจำลองเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของผู้คนที่เกี่ยวข้อง หนังออกจะยาวสักนิดนะคะ

แต่ดูเถอะค่ะ แล้วจะรู้สึกได้ว่ามองไปรอบๆ แล้ว ชีวิตเราดีขนาดไหน ที่ไม่ต้องเจอะเจอเรื่องร้ายกาจชวนฝันร้ายแบบนั้น… •

SOCIETY OF THE SNOW

กำกับการแสดง

J.A. Bayona

แสดงนำ

Enzo Vogrincic

Matias Recalt

Agustin Pardella

Tomas Wolf

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์