ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 กุมภาพันธ์ 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
นอกเหนือจากหนังการ์ตูนทีวี 31 ตอนกำกับการแสดงโดยโอซามุ เดซะไก เมื่อปี 1982 แล้ว ยังมีหนังโรง คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า อีกเรื่องหนึ่งที่ออกฉายในปีเดียวกัน กำกับฯ โดยโอซามุ เดซะไก เหมือนกัน มิหนำซ้ำยังออกฉายก่อนหน้าหนังการ์ตูนทีวีเพียงไม่กี่เดือน ชื่อทางการคือ Space Adventure Cobra : The Movie
หนังโรงเล่าเรื่องสามสาวเจน แคธเธอรีน และโดมินิกในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง รอบนี้ใช้นามสกุลฟาวเลอร์แทนที่รอยัล ด้วยเนื้อเรื่องที่ออกจะแปลกประหลาดมากกว่า แต่ก็ด้วยงานด้านภาพที่วาบหวามกว่า จะแจ้งกว่า อีกทั้งจูบกันบ่อยครั้งเสียจนต้องแปะหน้าว่า adult animated movie – สำหรับผู้ใหญ่
กลับมาที่หนังการ์ตูนทีวี 31 ตอน สามสาวตระกูลรอยัล เจน แคธเธอรีน และโดมินิก เป็นลูกสาวของนายพลเนลสันผู้ซึ่งสักแผนที่ขุมทรัพย์ก้อนใหญ่ไว้ที่แผ่นหลังของพวกเธอ นำมาซึ่งการตามล่าสามสาวไปทั่วทั้งจักรวาลถึงตาย เจน รอยัล ตายคนแรก แคธเธอรีนเป็นคนถัดมา
โดมินิกเป็นสายตรวจจักรวาลมากความสามารถ เป็นคนเดียวที่รอดได้ (โดมินิก แซนด้า เป็นชื่อนักแสดงสาวฝรั่งเศส)
จนกระทั่งถึงตอนที่ 27 โดมินิกก็เสียชีวิตด้วยน้ำมือของซาลามานเดอร์ นายใหญ่ของพวกโจรสลัดกิลด์ แผ่นหลังของเธอถูกถลกทิ้งไว้ให้คอบร้าดูต่างหน้าชวนสยอง
ซาลามานเดอร์รูปลักษณ์เหมือนขุนศึกญี่ปุ่นโบราณร่างยักษ์ สีม่วงล้วนและมีพลังเหลือล้ำ คอบร้าแค้นหนักหนาแต่รู้ว่าครั้งนี้เขากับเลดี้อามารอยด์มิอาจฉายเดี่ยวได้จึงติดต่อเพื่อนเก่าสามคนมาช่วยเหลือ คือ ดั๊ก พัมพ์กิน และบั๊ด ซึ่งแต่ละคนมีความสามารถพิเศษคนละอย่างสองอย่าง
สี่สหายสังหารซาลามานเดอร์จนได้ นั่งดูก็รู้ว่าง่ายเกินไป แต่นั่นก็เป็นเพียงกลลวง ที่แท้มันไม่ตาย ซาลามานเดอร์กับพวกสลัดกิลด์หวนกลับมาฆ่าดั๊ก พัมพ์กิน และบั๊ดทีละคนอย่างง่ายดายพอกัน
แล้วเราก็มาถึงตอนอวสานของหนังทีวี 31 ตอนแรก คอบร้าพบว่าโดมินิกยังไม่ตาย ไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังเป็นถึงนางชีเจ้าสำนักโบสถ์อวกาศแห่งหนึ่ง
เธอจำตัวเองไม่ได้ จำคอบร้าไม่ได้และมีชื่อใหม่ว่ามิเรล
ที่แท้เป็นซาลามานเดอร์ชักใยเธออยู่เบื้องหลัง ใช้เธอเป็นเครื่องมือสร้างยานอวกาศรูปร่างพิลึกพิลั่นเป็นรูปสาวอียิปต์เปลือยท่อนบนในท่านั่งขัดสมาธิ
ยานอวกาศจำนวนหลายพันลำจะถูกปล่อยขึ้นจากดวงดาวต่างๆ แล้วทำลายทั้งกาแล็กซี่เป็นการเปิดยุคใหม่ของอาณาจักรไรซ์ที่สาม!
ฟังไม่ผิด อาณาจักรไรซ์ที่สาม!
เมื่อคอบร้าทำลายแผนการร้าย กู้คืนความจำของโดมินิก และคว่ำซาลามานเดอร์ได้ เป็นว่าเบื้องหลังซาลามานเดอร์คือวิญญาณของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อย่างไม่น่าเชื่อสายตาว่าเรื่องคอบร้าจะไปได้ไกลเพียงนี้
สําหรับคอบร้าฉบับฉายโรงหนังมีความยาวชั่วโมงครึ่ง สามสาวใช้นามสกุลฟาวเลอร์ เจน ฟาวเลอร์ เป็นนักล่าค่าหัวมือฉกาจทรวดทรงอะร้าอร่าม เธอและคอบร้าพบกัน รักกัน ผูกพันกัน เจนขอคอบร้าออกตามหาพี่สาวแคธเธอรีนที่ถูกคริสตัลโบวี่และพวกสลัดกิลด์จับตัวเอาไว้ที่คุกอวกาศ
ปรากฏว่าแคธเธอรีนอยู่ใต้อำนาจของคริสตัลโบวี่ทั้งกายใจ
แคธเธอรีนฆ่าเจน คริสตัลโบวี่เอาชนะคอบร้าได้ด้วยอาวุธร้ายที่ดึงออกมาจากซี่โครงของตนเอง ความรักคอบร้าของเจนหลังสิ้นชีพถูกส่งข้ามอวกาศไปมอบให้พี่สาวคนโตคือโดมินิก โดมินิกเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรเทือกเขาหิมะสโนว์กอริลลาซึ่งมีสมาชิกแก๊งเป็นหญิงล้วน หัวหน้าแก๊งเป็นสาวทรงใหญ่ชื่อแซนดร้า (แซนดร้าในหนังทีวีเป็นหญิงยักษ์และเป็นพวกสลัดกิลด์)
ที่แท้สามสาวฝาแฝดเป็นธิดาของราชินีแห่งดาวพระเคราะห์ไมรัส คริสตัลโบวี่และแคธเธอรีนตามรอยความรักของเจนมาจนพบโดมินิกแล้วฆ่าทิ้งอีกคนหนึ่ง บัดนี้พลังของสามสาวตกเป็นของแคธเธอรีนแต่ผู้เดียว คริสตัลโบวี่ต้องการใช้แคธเธอรีนเป็น “กุญแจ” ควบคุมดาวไมรัสเพื่อทำลายทั้งกาแล็กซี่
ที่แท้ดาวไมรัสเป็นดาวมนุษย์สร้าง (man-made planet)
เมื่อดูถึงตอนนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่าไม่มากก็น้อยคอบร้าได้รับอิทธิพลจากสตาร์วอร์สอยู่บ้างดังที่เขาว่าๆ กัน เดธสตาร์ที่คริสตัลโบวี่ควบคุมบังคับไว้ได้นี้มิได้ทำลายดาวเคราะห์เพียงทีละดวง แต่มันตั้งใจทำลาย “กาแล็กซี่ที่ 7” ทั้งหมด ทำเอาคอบร้าเหวอไปเลยว่าสลัดกิลด์พยายามยึดครองกาแล็กซี่มาช้านาน ไฉนจึงคิดทำลายทิ้งทั้งหมดทั้งสิ้น คริสตัลโบวี่อธิบายว่านี่คือวิธีประกาศอำนาจของสลัดกิลด์ไปทั่วทั้งอวกาศ ไม่ใช่สิ ทั่วทั้งเอกภพเลยทีเดียว
คอบร้าเดอะไซโคกันสังหารคริสตัลโบวี่ได้ในตอนท้ายและปลดอำนาจที่ครอบครองแคธเธอรีนได้ เธอใช้ “ร่างกาย” ของตัวเองเป็นกุญแจจริงๆ เพื่อเปิดสวิตช์ควบคุมดาวไมรัสทำลายตัวเองในตอนจบ
หากคิดว่าเรื่องของสามสาวจบแล้วแปลว่ายังดูคอบร้าไม่จบ
ในหนังการ์ตูนทีวีชุดที่ 2 ปี 2010 จำนวน 13 ตอน โคบูระพบกับโดมินิกกุอีกครั้ง คราวนี้เธอชื่อซีเคร็ท แต่หน้าเหมือนโดมินิกคนเดิมมาพร้อมโปรเฟสเซอร์โทโปโรคนเดิมที่เคยปรากฏตัวดูแลสามสาวในฉบับหนังโรงมาแล้ว
เนื้อเรื่องตอนที่ 1 และ 2 ของท่อนนี้จบลงด้วยฉากโดมินิกเปลือยกายหมดจดทั้งหน้าหลังแล้วใช้ร่างงามนั้นเป็นลูก “กุญแจ” เปิดประตูเข้าสู่ห้องเครื่องของดาวพระเคราะห์จักรกลที่กำลังจะพุ่งชนดวงอาทิตย์
บูอิจิ เทราซาว่า ย้ำคิดย้ำทำอะไรกับสามสาวนักหนา?
ร่างกายของพวกเธอถูกใช้เป็นอะไรต่อมิอะไรหลายสิ่งอย่าง?
เป็นอะไรมากหรือเปล่ากับคริสตัลโบวี่ที่กลับมาได้บ่อยๆ? (คริสตัลโบวี่ได้มาจากเดวิด โบวี่)
และคิดอะไรอยู่ถึงลากหนังอีโรติกไซไฟแฟนตาซีสเปซโอเปร่าอันแสนมหัศรรย์นี้กลับไปไกลถึงอาณาจักรไรซ์ที่สามกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้? (ทำเอานักวิจารณ์หลายคนว่ากลายเป็นหนังตลกไปเลย)
เมื่อค้นดูจึงพบว่าที่แท้บูอิจิ เทราซาว่าเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์สำหรับหนังโรงเท่านั้นเอง
ส่วนซีรีส์ทั้งสองชุดเขียนเรื่องโดยบุคคลอื่นโดยที่เขาเองทำหน้าที่ที่นั่งคุยด้วยเท่านั้น จบข่าว
อย่างไรก็ตาม มีคำอธิบายว่าเพราะเลข 333 เป็นเลขนำโชคของเขาจึงมีเรื่องสามสาวอยู่สามตอน (น่าจะมีมากกว่านั้นในเวลาต่อมา) •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022