หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๑๒)

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๑๒)

 

โลกของเราทุกวันนี้

๑ การให้ความสำคัญต่อการเมือง

๒ การให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจ

๓ การให้ความสำคัญต่อสภาพแวดล้อม

สามข้อนี้กำลังทัดเทียมกัน แต่ก็ยังมีคนบางคน เช่นผู้นำชาติมหาอำนาจบางคน ที่ให้ความสำคัญข้อหนึ่ง จนลืมอีกสองข้อไปเสีย

ที่แปลกคือ เพื่อนของฉันในโลกอินเตอร์เน็ต ที่ปกติชอบส่งคลิปสนุกๆ มากมาย คลิปแปลกๆ น่าพิศวง สวยงาม พวกเขาเหล่านั้นกลับสนับสนุนรัสเซีย อาจเพราะสภาพจิตแบบนี้ มันตื่นเต้น เร้าใจ โลกอินเตอร์เน็ต คือโลกของข่าวปลอม และข่าวปลอมจะสนุกสนาน เหมือนมายากล

ชาวอินเตอร์เน็ตเหล่านี้ จิตใจของพวกเขา ช่างเหมือนมนุษย์ศตวรรษที่สิบเก้าเหลือเกิน พวกเขาเกลียดชังอเมริกา และค่อนแคะว่า ชาวอเมริกัน และพวก NATO ไม่มีความจริงใจ ไม่เห็นรีบยกทัพมาช่วยชาวยูเครนเลย

ที่จริงพวกเขาทำถูกแล้ว เพราะหากรีบผลีผลามเร่งระดับของสงคราม โลกนี้ก็จะเข้าสู่สงครามโลกครั้งต่อไปทันที

สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ การโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง ไม่ให้เวลาอีกฝ่ายปรับตัว และล่าถอย

 

การมีอยู่ของปูตินนี้น่าคิดมาก เพราะมันอาจทำให้เรารู้ว่า มนุษยชาติจะมีอายุได้อีกไม่นาน

เพราะความเป็นบ้าของเขา ช่างธรรมดาอะไรเช่นนั้น

และไม่มีใครจะไปห้ามเขาได้

คุณจะหยุดเขาได้ ก็ต้องฆ่าเขาเท่านั้น

แต่ใครล่ะ จะไปฆ่าเขา

ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

หากเขาเลือก ทางเลือก choice A

คือยอมถอยทัพ

๑ รัสเซียจะกลายเป็นตัวตลกในเวทีโลก

๒ สถานะทางการทูตของรัสเซียจะตกต่ำลงมาก

๓ เท่ากับเขาหักหลังฝ่ายนิยมรัสเซีย ที่อยู่ในยูเครน

และแน่ละ อีกข้อหนึ่ง ที่แม้จะเล็กสำหรับชาวโลก แต่ใหญ่สำหรับตัวเขา คือ

๔ ตัวของเขาเองจะหมดอำนาจ ต้องลาออก และตามด้วยข้อห้า

๕ จะถูกยูเครนทวงค่าเสียหายอย่างใหญ่หลวง

 

มันเป็นทางเลือกที่เขาไม่อาจเลือก

เพราะยังมี choice B

คือรบต่อ ให้ชนะ

ซึ่งยังมีทางเป็นไปได้ มันน่าลงทุนกว่า ดังนั้น เขาจึงเกณฑ์ทหารเพิ่ม สร้างอาวุธ ซื้ออาวุธ ด้วยสรรพกำลังทั้งมวล เรียกว่าทุ่มหมดหน้าตัก หรือหากจำเป็น ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาสู้ต่อ เรียกว่าสู้หมดตัว จนกว่าจะชนะ

มันมีโอกาสชนะในหลายทิศทาง

เช่น ขู่จนกว่าพวกชาติตะวันตกยอมถอยจากการสนับสนุนยูเครน

ให้เหลือยูเครนเพียงชาติเดียว ซึ่งง่ายต่อการบดขยี้

มันเป็นทฤษฎีง่ายๆ ที่เรียกว่า ตกกระไดพลอยโจน

เมื่อทำผิดไปแล้ว ก็ยิ่งต้องโถมหนัก จนกระทั่งจากผิดกลายเป็นถูก ในอดีตเคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้

คือทำผิดแล้ว ยิ่งทำต่อ จนกระทั่งจากผิดกลายเป็นถูก แม้มันจะผิดตรรกะอย่างแรง แต่ในแง่ของชีวิต ชีวิตไม่สนใจตรรกะ

น่ามหัศจรรย์

ฟิสิกส์และชีววิทยา ไม่สนใจตรรกะ

ในส่วนที่ลึกที่สุด

กุศลกรรม และอกุศลกรรม ไม่สนใจตรรกะ

มีแต่ เป็น หรือ ตาย

To be or not to be

 

ยุคนี้เป็นยุคที่เราต้อง

๑ สังเกตการไหลของน้ำในแม่น้ำลำคลอง

๒ สังเกตการไหลของน้ำในมหาสมุทร

ในยุคก่อน เราอาจไม่ต้อง แต่ในยุคนี้ เรามีความจำเป็น

สังเกตไหมว่า นกบนท้องฟ้าน้อยลงกว่าแต่ก่อน หากเทียบกับปี 1970 นกบนฟ้าน้อยลง ๓ พันล้านตัว

นกทำให้มนุษย์ ได้เรียนรู้ที่จะ

๑ มีอายุยืน

๒ เฉลียวฉลาด

๓ มีผัวเดียวเมียเดียว

๔ รักลูก

๕ มีความสามารถในการใช้ภาษา

๖ ชอบร้องเพลง

เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่างพูด ชอบเสียงเพลง รักครอบครัว ดั่งนก

และวันหนึ่งเราจะพบว่า ญาติสนิทของเรานี้ ได้สูญหายไป

 

จักรวาลนี้แปลกประหลาด ลึกลับ และน่าอยู่ แต่เราจะเข้าถึงมันได้ ก็ด้วยความรู้ที่ลึกซึ้ง และความรู้ที่ลึกซึ้งนี้เกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์มีอารยธรรมที่ลึกซึ้งก่อน

แต่การที่มนุษย์จะมีอารยธรรมที่ลึกซึ้งได้นั้น เราต้องสามารถสร้างความสมดุลของการเมือง เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม จะขาดหายไปหนึ่งก็ไม่ได้

เพราะปัญหาทางการเมืองเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ในทุกวินาที และเศรษฐกิจก็เป็นของจริง เราใช้เงินอยู่ทุกวัน

และในขณะเดียวกัน ปัญหาสภาพแวดล้อมก็จริง มันห้อมล้อมตัวเราทุกขณะจิต

มนุษย์ยังไม่ยอมวิวัฒนาการไปสู่ความตาย อาจมีบ้างยกเว้นบางคน ที่เป็นคนกลุ่มน้อย ที่วิวัฒนาการไปสู่ความตาย เช่นพระอริยเจ้าเหล่านั้น พวกเขาเรียนรู้ด้วยความยากลำบากที่จะดับสูญ แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มีวิวัฒนาการไปสู่การมีชีวิต

เรายังอยากอยู่ แต่หากเราไม่มีวิวัฒนาการ เราจะตายอย่างฉับพลัน

ตัวต่อแตกต่างจากผึ้ง พวกมัน

๑ เป็นสัตว์กินเนื้อ

๒ แก่กว่า

๓ ฉลาดกว่า

๔ หลากหลายกว่า

ตัวต่อมีอยู่ทุกหนแห่ง และมีตัวต่อบางชนิด อาศัยอยู่ในตัวต่อ

นี้คือชีวิตที่ลึกลับซับซ้อน

เรารักผึ้ง และต้องเรียนรู้จากตัวต่อ

มีสิ่งน่าเรียนรู้จากตัวต่อ มากยิ่งกว่า

หากเราเชื่อในดวงชะตา เราจะรู้ว่า มนุษย์มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นาน เพราะพวกเราฉลาดเกินไปนั่นเอง เพื่อนของฉันในโลกอินเตอร์เน็ต แต่ละคนล้วนเฉลียวฉลาด พวกเขาจึงอยู่ได้ไม่นาน เพียงแต่พวกเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะตาย

ที่จริงแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต กึ่งมีสติปัญญา

ที่เรามีเพียงแค่กึ่ง เพราะบทจะฉลาด เราก็ฉลาดเกินไป

บทจะโง่เขลา ก็สุดแสนจะโง่งม

น่าเป็นห่วงดาวเคราะห์โลก อุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งมีชีวิตกึ่งสติปัญญา

 

๑๐

วันนั้นฉันดูคลิป นักร้องสตรีอาวุโสคนหนึ่ง ออกมาร้องเพลง เธอพาเรือนร่างของคนแก่ อายุแปดสิบ ใบหน้าผ่านการผ่าตัด ทรงผมเชยๆ เสื้อผ้ารุ่มร่าม เรือนร่างท้วม หากคิดว่าเธออายุปูนนี้ ก็รับได้ แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอมีจิตอีกแบบ แบบที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอะไร

แต่มหัศจรรย์ยิ่งกว่า หากเธอมี ดวงจิตอนุภาคมูลฐาน

หากเธอออกกำลังกาย และกินอาหาร จนเรือนร่างสง่างาม

อาจทำหน้าแค่นิดเดียว หรือไม่ทำเลย

ทำผมสมัยใหม่ รับกับใบหน้า

ใส่เสื้อผ้าสมัยใหม่ รับกับเรือนร่าง

น่าทึ่งหากเธอ ทำตัวเป็น Nicole Kidman แล้วออกมาร้องเพลงเก่า

มันเป็นภาพเหนือจริง แต่เป็นไปได้

นี้คือความมหัศจรรย์ของชีวิต ที่มีมิติ ของอนุภาคมูลฐาน