ยุทธการ 22 สิงหา : เมื่อ ‘ตัวจริง’ คัมมิ่ง โฮม ‘ไฮ ทักษิณ’ ก็ต้องอำลา

(Photo by PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP)

มองผ่านบทบาทของรัฐบาล มองผ่านบทบาทของ นายสมัคร สุนทรเวช จะสัมผัสได้ในความพยายามวางกลไกแห่งอำนาจ

นำความเป็น “ปรกติ” มาสู่ “สังคม” ประเทศไทย

แต่ภายในความเป็น “ปรกติ” นั้นก็สะท้อนให้เห็นการรุกและการจัดวาง “คน” เข้าไปอยู่ในจุดอันเหมาะสม

ทั้งในด้านของ “ข้าราชการ” ทั้งในด้านของ “การเมือง”

นั่นก็เห็นได้จากการโยก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จากรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นักบริหารระดับ 9 มาอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นักบริหารระดับ 10

นั่นก็เห็นได้จากการที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่แทน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ซึ่งถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

โดยที่ประชุมเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ พล.ต.อ.พัชราวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่างลงอย่างสมบูรณ์

ไม่ว่าตำแหน่ง 1 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ว่าตำแหน่ง 1 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ล้วนมีความสำคัญ

เมื่อถึงกาละอันเหมาะสมการประลองกำลังก็เริ่มขึ้น

 

ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ ฟูแล่ม เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปรากฏว่า มีการนำธงชาติไปประดับคู่กับธงประจำสโมสรแมนเชสเตอร์ซินี้

บนอัฒจันทร์สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม

ปรากฏว่า มีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดอยู่เรียงเคียงกับธงชาติไทย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็นั่งบนอัฒจันทร์ตรงกันข้ามกับธงชาติ

อีก 2 วันต่อมา นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวว่า

“เรื่องนี้ใครก็ต้องตอบว่าไม่สมควรทั้งนั้น เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องถูกทักท้วงแน่นอน และก็คงจะต้องแก้ตัวว่าฝรั่งเป็นคนทำ แต่สำคัญที่สุดก็คือว่าคนเห็นแล้วก็ต้องเอาออกทันทีเพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้

แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว ก็ต้องจัดการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น”

ขณะที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า

“เรื่องนี้ไม่ว่าคนไทยที่ไหนก็ไม่ชอบใจด้วยทั้งนั้น รวมทั้งผมด้วย

แต่เมื่อสอบถามก็ไม่มีใครตอบได้ชัดเจน แต่อย่างน้อยที่สุดคนที่เกี่ยวข้องจะกลับวันที่ 2 พฤษภาคม ก็ไปถามเจ้าตัวดูเพราะตอบแทนไม่ได้ แต่ในฐานะนายกรัฐมน ตรีต้องทำหนังสือประท้วงไปยังสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้”

ทุกอย่างเป็นไปตามคาด เหมือนกับจะเป็นการประลองกำลัง เหมือนกับจะเป็นการวัดกระแส

 

แม้ว่าจะมีปฏิกิริยา ไม่ว่าจากภาคประชาสังคม ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นปรปักษ์ในทางการเมือง

นั่นก็คือ ปฏิกิริยาจาก นายวีระ สมความคิด เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน

เดินทางเข้าแจ้งความ ณ กองปราบปราม กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้สนับสนุนและผู้ร่วมกันกระทำความผิดที่เขียนข้อความไม่เหมาะสมบนธงชาติ

คำตอบจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดินทางกลับดำเนินไปอย่างไร

“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องที่แฟนคลับชาวอังกฤษทำขึ้นมาเพราะรักสโมสร และวัฒนธรรมทางอังกฤษไม่มีเรื่องเหล่านี้ จึงไม่รู้ แต่พออธิบายให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็แสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

และฝากความเสียใจมากับแฟนคลับที่ประเทศไทยด้วย”

นี่จึงเป็นสภาพอันเกิดแต่ปัจจัย “ภายนอก” โดยที่ไม่เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่รู้ ขณะเดียวกัน แม้กระทั่ง นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชนก็ตั้งรับแทบไม่ทัน

เหมือนจะเป็นการรุก แต่เมื่อปรากฏขึ้นอย่างไม่เหมาะสม สถานการณ์จึงกลายเป็นการตั้งรับ

หากศึกษาแต่ละรายละเอียดก็จะสัมผัสได้ในการรุกและการถอย

 

ปรากฏการณ์หนึ่ง คือ ปรากฏการณ์ “ไฮ ทักษิณ ด็อตเน็ต” อันเป็นกระบอกเสียงในกลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากที่แวดล้อมอยู่โดยรอบพรรคไทยรักไทย

เป็นการรุกเข้าไปในพื้นที่ “ออนไลน์”

หลังจากเคลื่อนไหวผ่าน ไฮ ทักษิณ ด็อตเน็ต มาเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน ในวันที่ 28 เมษายน

ก็ปรากฏบทความชื่อ “เก็บดาบ” เขียนโดย “ประดาบ”

เป็นการประกาศปิดตัวเว็บไซต์ ไฮ ทักษิณ อย่างเป็นทางการภายใน 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน เป็นต้นไป

บทความของ “ประดาบ” ระบุว่า มีความพยายามที่จะสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีเว็บไซต์ ไฮ ทักษิณ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงและเชื่อมโยงข้อกล่าวหาไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นผู้สนับสนุนและเกี่ยวข้องกับการจัดทำเว็บไซต์นี้ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง

ที่น่าสังเกตก็คือ ในวันเดียวกันกับการที่ ไฮ ทักษิณ ปิดตัวลง กลุ่ม นพ.เหวง โตจิราการ ได้เผยแพร่เว็บไซต์ใหม่ชื่อ newskythailand.com จาก “ชมรมฟ้าใหม่”

เหมือนกับ hi-thaksin.net จะเป็นการถอย แต่ newskythailand.com ก็เสนอตัวเข้ามา

 

ในความเงียบของ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ก็จะเห็นร่องรอยการเคลื่อนไหวของ “ปัญญาชนเสื้อกั๊ก” นายธีรยุทธ บุญมี

อาวุธที่สำคัญ 1 คือการสำรวจความเห็น 1 คือ ปาฐกถาและคำบรรยาย

เห็นได้จากบทบาทในการแสดงปาฐกถาหัวข้อพิเศษเรื่อง “ตุลาการภิวัฒน์กับการรอมชอมในสังคมไทย” ในห้วงต้นเดือนเมษายน

ระบุประเทศเริ่มเข้าสู่วิกฤตที่ตีบตัน ไร้ทางออก โดยพบกับภาวะ 5 เสื่อม

1 ความสามัคคีในบ้านเมืองเสื่อม

1 ภาคการเมืองเสื่อม

1 ภาคสังคมเสื่อม

1 กองทัพ อดีตข้าราชการ เทคโนแครต ชนชั้นนำ ที่เรียกรวมๆ ว่า “อำมาตยาธิปไตย” เสื่อม

1 คุณธรรมเสื่อม

ในความเห็นของ นายธีรยุทธ บุญมี คง “มีเพียงศาลยุติธรรม สถาบันเดียวที่ยังพึ่งหวังได้”

นี่เป็นเพียงการอุ่นเครื่อง

 

เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม 2551 นายธีรยุทธ บุญมี จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เสนอฉายาให้รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ว่า

“รัฐบาลลูกกรอก 2”

แม้จะมีฤทธิ์เดช แต่ก็ด้อยวัยวุฒิ ด้อยคุณวุฒิ ทำให้ความชอบธรรมไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น

รัฐบาลจึงตกอยู่ในฐานะมีตำแหน่งอำนาจได้ แต่ปกครองไม่ได้

ภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี จะถูกต่อต้านหนักขึ้นเพราะมีจุดอ่อนจากนโยบายประชานิยม การซื้อเสียงทำให้ต้องการถอนทุนคืน เกิดการคอร์รัปชั่นที่อาจจะนำไปสู่การคัดค้านของสังคม

หรืออาจขยายตัวเป็นการขับไล่รัฐบาลได้